อะเมซิ่งจังหวัดน่าน ชูการแทพย์แผนไทยเป็นจุดขายดึงนักท่องเที่ยว

กรุงเทพ--3 ก.พ.--กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดน่านชูการแพทย์แผนไทยเป็นงานเด่นของจังหวัดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ระดมหมอพื้นบ้านทุกสาขาโชว์ภูมิปัญญาไทยในการดูแลสุขภาพที่ได้ผล ปลอดภัยและประหยัด ในงาน "ท่องทั่วไทย แพทย์แผนไทยเพื่อชีวิต" 2-3 กุมภาพันธ์ 2541 นี้ ที่โรงพยาบาลท่าวังผา จังหวัดน่าน เมื่อวานนี้ นายคำรณ ณ ลำพูน รัฐมนตรีช่วยการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน "โครงการท่องทั่วไทย แพทย์แผนไทยเพื่อชีวิต" ที่โรงพยาบาลท่าวังผา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน และได้ให้สัมภาษณ์ว่า "โครงการท่องทั่วไทย แพทย์แผนไทยเพื่อชีวิต" นี้ ทางจังหวัดน่าน ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน และสถาบันแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์ ได้ร่วมกันจัดขึ้นในวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2541 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยในด้านการดูแลสุขภาพ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้นในหมู่ประชาชนจังหวัดน่าน และนักท่องเที่ยวทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งทางจังหวัดเห็นว่า การแพทย์แผนไทยนับเป็นของดีและเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทย จึงใช้โอกาสในปีการท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2541-2542 หรือ Amazing Thailand จัดงานในครั้งนี้ขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย โดยในงานได้จัดการบริการรักษาโรคด้วยสมุนไพรการนวด อบ และประคบสมุนไพร พร้อมสาธิตวิธีการดูแลรักษาสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทยหลากหลายรูปแบบ และการจำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน สินค้าทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรในราคาถูก เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่มีความสนใจและแสวงหาการมีสุขภาพดี ได้เดินทางมาท่องเที่ยวชมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของจังหวัดน่าน พร้อมกับได้รับสาระความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตร่วมด้วย นายแพทย์ สมพัฒน์ คชสีห์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า โรงพยาบาลท่าวังผาเป็นโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งที่เล็งเห็นความสำคัญของการแพทย์แผนไทย และนำมาเสริมการรักษาแผนปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม เกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยทั้งในแง่คุณภาพและความปลอดภัย ที่สำคัญคือช่วยให้ประหยัดโดยได้จัดตั้งคลินิคแพทย์แผนไทยมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2538 ผู้ใช้บริการในคลินิคเพิ่มขึ้นจาก 10 คน ต่อวัน เป็น 30-50 คนต่อวัน คิดเป็นประมาณร้อยละ 15-20 ของจำนวนผู้ป่วยที่มารับบริการของโรงพยาบาลทั้งหมดในขณะนี้ การบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ การนวด และการอบสมุนไพรเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยตามตัวจากการทำงาน นอกจากนี้ยังใช้มะระขึ้นก, หญ้านวดแมว, ดอกคำฝอย ฯลฯ ในการรักษาโรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, โรคระบบทางเดินปัสสาวะ และโรคภูมิแพ้ ซึ่งพบว่ามีผลการรักษาได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ ช่วยลดการใช้ยาแผนปัจจุบันได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลดการใช้ยาแก้ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อได้ถึงประมาณร้อยละ 70 เห็นได้ชัดเจนจากผู้ป่วยโรคเกาท์ที่เคยรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันและต้องรับยาต่อเนื่อง เมื่อได้รักษาด้วยการอบประคบสมุนไพรแล้วผู้ป่วยส่วนใหญ่แทยจะไม่รับประทานยาแก้ปวดอีกเลย ทางโรงพยาบาลท่าวังผามีโครงการขยายงานด้านการแพทย์แผนไทยเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับควมต้องการของประชาชนและเป็นสถานบริการต้นแบบให้กับโรงพยาบาลอื่น ๆ โดยในปีนี้ได้รับงบประมาณจำนวน 50,000 บาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงสวนสมุนไพรของโรงพยาบาล ให้เป็นสวนรุกขชาติระดับประเทศที่มีพืชสมุนไพรหลายพันชนิดในพื้นที่กว่า 50 ไร่ และจะส่งเสริมการผลิตยาสมุนไพรเพื่อการรักษาและการจำหน่ายต่อไป--จบ--

• ข่าวสาธารณสุข จังหวัดน่าน
• ข่าวกระทรวงสาธารณสุข
• ข่าวนักท่องเที่ยว
• ข่าวกระทรวงสาธารณ
• ข่าวแพทย์แผนไทย