14 ก.พ.นี้ จับ-ปรับจริงรถยนต์จอดไม่ดับเครื่องในอาคาร

กรุงเทพ--4 ก.พ.--สำนักงานเขตกรุงเทพ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายมหินทร์ ดันบุญเพิ่ม ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางณฐนนท ทวีสิน ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุม กลุ่มงาน 2 (สิ่งแวดล้อม/สาธารณสุข) เรื่อง ความคืบหน้าโครงการ "ดับเครื่องยนต์ช่วยลดมลพิษ" การเพิ่มสถานที่ออกกำลังกายให้ชาวกรุงเทพฯ และโครงการทางจักรยาน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ได้เริ่มโครงการ "ดับเครื่องยนต์ช่วยลดมลพิษ" โดยได้มีการประชุมเจ้าของอาคารที่มีสถานที่จอดรถทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดต่างๆ ของโครงการ รวมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. 40 เป็นต้นมา และตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.-13 ก.พ. 41 กทม. จะออกตรวจและเตือนเจ้าของอาคารอีกครั้ง หลังจากนั้น ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 41 เป็นต้นไป จะมีการใช้มาตรการด้านกฎหมายดำเนินการอย่างจริงจังกับผู้ฝ่าฝืนทั้งผู้ที่จอดรถไม่ดับเครื่องยนต์ และเจ้าของอาคารซึ่งจะมีความผิดตามกฎหมายด้วยเช่นกัน โดยผู้ฝ่าฝืนต้องถูกปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นขอให้เจ้าของอาคารที่มีสถานที่จอดรถทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในลานจอดรถให้คอยตักเตือน เจ้าของรถดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรถด้วย ทั้งนี้กทม. ได้มีการนำป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่มอบให้กับเจ้าของอาคารเพื่อเป็นตัวอย่างแล้ว จึงขอให้เจ้าของอาคารนำป้ายดังกล่าวติดในสถานที่จอดรถแต่ละแห่งด้วย และในเร็ว ๆ นี้ กทม. จะมีหนังสือถึงเจ้าของอาคารเพื่อแจ้งให้ทราบถึงนโยบายดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง ด้านนายมหินทร์ กล่าวถึงการเพิ่มสถานที่ออกกำลังกายให้กับชาวกรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่งว่า กทม. จะใช้พื้นที่ของถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ช่วงสุริวงศ์ถึงสีลม ยาวประมาณ 300 เมตร 1 ด้านจราจร (ด้านที่จะไปถนนสาธร)เพื่อให้ประชาชนในย่านสีลม สุริวงศ์ สาธร ใช้เป็นที่ออกกำลังกาย (พื้นที่ดังกล่าวสามารถจุคนได้ประมาณ 3,000 คน) โดยจะมีการปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 17.30-18.30 น. เพื่อให้ประชาชนมาเต้นแอโรบิคหลังเลิกงาน ซึ่งกทม. จะจัดครูสอนเต้นแอโรบิคให้ โดยเริ่มปิดการจราจรตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.41 เป็นต้นไป ทั้งนี้การปิดถนนในช่วงเวลาดังกล่าว กทม.ได้ประเมินแล้วว่าจะไม่เป็นปัญหากับการจราจรเนื่องจากอีกด้านหนึ่งของถนนกว้างมาก สามารถให้รถวิ่งสวนไป-มาได้ และจากการสอบถามประชาชนบริเวณดังกล่าวก็ต้องการให้มีสถานที่ออกกำลังกายด้วย นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกทม. ยังได้กล่าวถึงโครงการทางจักรยานว่า กทม. จะจัดทำโครงการทางจักรยานเพื่อการอนุรักษ์และการท่องเที่ยวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการใช้ปริมาณรถยนต์ในพื้นที่อนุรักษ์ และเป็นการส่งเสริมการใช้รถจักรยานในการเดินทางระยะสั้น เพื่อการพักผ่อน ออกกำลังกาย รวมทั้งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ด้วย ซึ่งการประชุมในวันนี้ทางสำนักการโยธาได้เสนอรูปแบบทางจักรยานในพื้นที่อนุรักษ์เกาะรัตนโกสินทร์ เป็นโครงการนำร่องเพื่อดำเนินการในถนนราชดำเนิน ถนนท่าพระจันทร์ ถนนท่าพระอาทิตย์ ถนนบำรุงเมือง ถนนพระสุเมรุ เป็นต้น โดยจะใช้พื้นที่บาทวิถีของถนนดังกล่าวในกรณีที่มีบาทวิถีกว้างพอ ส่วนถนนที่มีบาทวิถีไม่กว้างก็จะทำคันหินพิเศษ เพื่อใช้เป็นทางจักรยาน อย่างไรก็ดีกทม. มีนโยบายที่จะสร้างทางจักรยานในถนนหลาย ๆ สาย และขณะนี้ได้มีการดำเนินการแล้วที่ถนนเอกมัย-รามอินทรา ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จเดือน มี.ค.นี้สำหรับถนนสายต่อไปที่จะมีทางจักรยาน และบาทวิถีร่มรื่น คือ ถนนพุทธมนฑล สาย 3--จบ--

• ข่าวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
• ข่าวพิจิตต รัตตกุล
• ข่าวกรุงเทพมหานคร
• ข่าวออกกำลังกาย
• ข่าวเครื่องยนต์