"ทูตไทย" ต้อง "พับแขนเสื้อ...พับขากางเกง" "ลงลุย" เพื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจชาติ

29 Dec 1997

กรุงเทพ--29 ธ.ค.--สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา

ผอ.ไอเอฟดี ชี้บทบาททูตไทยประจำประเทศต่าง ๆ ในเวลานี้สำคัญที่สุด จำเป็นที่จะทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างจริงจัง ไม่เพียงแต่เป็นผู้กระชับสัมพันธไมตรีเท่านั้น แต่ทูตต้องทำหน้าที่หลัก 3 หน้าที่ คือ หนึ่งเป็น "เซลแมน" โปรโมทให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุน ซื้อสินค้าและท่องเที่ยวในไทย สองเป็น "นายหน้า" หางานให้คนไทย และสามเป็น "นายธนาคาร" กระตุ้นให้คนไทยส่งเงินกลับเพื่อช่วยชาติให้มากที่สุด

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (ไอเอฟดี) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในปี 2541 จะทวีความรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด และจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อคนทั้งประเทศ ทั้งจากการว่างงานที่สูงถึง 2 ล้านคน จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้เรื่อย ๆ ปัญหาการที่ต่างประเทศอาจไม่ต่อหนี้เงินกู้ระยะสั้น และปัญหาอื่น ๆ ตามมามากมาย ซึ่งทางออกที่จำเป็นอย่างยิ่งนั้นคือการพยายามนำเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศไทยให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาอันสั้น

"วิธีหนึ่งที่ผมคิดว่าจะช่วยนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาได้มากนั่นคือ การที่เอกอัครราชทูตไทยประจำเมืองต่าง ๆ จะต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมไม่น้อยกว่า 10 เท่า หรือเรียกภาษาชาวบ้านได้ว่าท่านต้อง "พับแขนเสื้อ...พับขากางเกง" และลงลุยทุกวิถีทางเพื่อให้สามารถนำเงินต่างประเทศเข้าเมืองไทยให้ได้มากที่สุด โดยต้องทำหน้าที่หลัก ๆ 3 ประการ นั่นคือ "เป็นเซลแมน" "เป็นนายหน้า" และ "เป็นนายธนาคาร" ซึ่งหากทำหน้าที่ทั้งสามได้อย่างประสบความสำเร็จ ผมเชื่อว่าจะมีเงินตราต่างประเทศไหลเข้าประเทศอย่างรวดเร็วและมากกว่าที่คาดคิดไว้"

ผอ.ไอเอฟดี กล่าวต่อว่า หน้าที่ประการแรกที่เรียกว่าเป็นเซลแมนนั้น หมายความว่า ทูตต้องทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ สร้างภาพพจน์ สร้างความเชื่อมั่น เจรจา จัดแสดงสินค้า หรือทำวิธีอื่นใด เพื่อดึงดูดและกระตุ้นให้รัฐบาล นักลงทุน และประชาชนในประเทศนั้น ปรารถนาที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ หันมาซื้อสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น รวมทั้งปรารถนาที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยทูตต้องทำหน้าที่ที่ไม่ต่างจากเซลแมนต้องมีความกระตือรือร้นรับผิดชอบที่จะดำเนินการอย่างเห็นผลสำเร็จจริง

ส่วนหน้าที่ประการที่สองคือ หน้าที่เป็นนายหน้า หมายความว่า ทูตต้องทำหน้าที่เป็นนายหน้าในการจัดส่งแรงงานไทยออกไปทำงานในต่างประเทศ โดยต้องทำหน้าที่ในการสอดส่องว่าประเทศที่ตนประจำการอยู่นั้นมีงานอะไรบ้างที่เหมาะสมกับคนไทย

ทั้งในระดับไร้ฝีมือและมีฝีมือ ทูตต้องทำหน้าที่ในการติดต่อกับนายจ้างในประเทศนั้น ๆ ว่าต้องการรับแรงงานไทยหรือไม่ ตำแหน่งใด จำนวนเท่าไหร่ รวมทั้งต้องโปรโมทคุณสมบัติของแรงงานไทยว่ามีคุณสมบัติเหมาะกับงานนั้น และประสานงานกับกระทรวงแรงงานเพื่อเตรียมฝึกคนในประเทศให้มีความทักษะและความพร้อมก่อนส่งไปทำงานในประเทศนั้น ๆ ต่อไป

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนหน้าที่ประการที่สาม ได้แก่หน้าที่เป็นนายธนาคาร หมายความว่า ทูตต้องทำหน้าที่ผลักดันให้คนไทยนำเงินกลับประเทศไทยให้มากที่สุด ต้องทำหน้าที่เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจอย่างมีภาระใจร่วมกับวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงที่เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติ และถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้แก่คนไทยที่อยู่ในประเทศนั้นให้นำเงินกลับบ้าน โดยสถานทูตจะทำหน้าที่เป็น "ศูนย์รวมใจ" และ "ศูนย์ประสานงาน" เพื่อให้ระบบการทำงานของรัฐทำงานอย่างคล่องตัวมากขึ้น เช่นการซื้อพันธบัตรไทยช่วยไทย โดยทูตต้องทำหน้าที่ตั้งเป้าหมายและประเมินได้ว่าคนไทยในประเทศนั้น ๆ จะสามารถร่วมแรงร่วมใจส่งเงินมาช่วยประเทศได้อย่างมีเป้าหมายชัดเจน

"ผมเชื่อว่า ทูตไทยเป็นบุคคลที่สามารถช่วยประเทศชาติก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปได้อย่างสมบูรณ์หากท่าน "สวมแว่นตาอันเดียวกัน" กับคนไทยทั้งประเทศ คือเห็นความรุนแรงของปัญหา และมีจิตสำนึกร่วมที่ปรารถนาช่วยชาติให้รอดพ้นวิกฤตนี้ไปในทิศทางเดียวกัน"--จบ--

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit