กรุงเทพ--21 เม.ย.--ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
                                                                                                                            
                                                                                                                                     ธนาคารกรุงเทพ  จำกัด  (มหาชน) ประกาศผลประกอบการเบื้องต้น สำหรับไตรมาสแรกของปี  2541  ธนาคารมีกำไรสุทธิ จำนวน 74 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง  และการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวน  7,700  ล้านบาท ส่วนกำไรจากการประกอบการก่อนตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษี  มีจำนวน  8,400 ล้านบาท ซึ่งโดยรวมแล้วจะเห็นได้ว่าผลประกอบการของธนาคารในไตรมาสนี้สะท้อนถึงสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน
                                                                                                                            
                                                                                                                                     ผลประกอบการดังกล่าว  แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า  ธนาคารกรุงเทพยังคงยึดมั่นในแนวทางการดำเนินงานที่รัดกุมและรอบคอบ  ดังที่เคยกระทำอย่างต่อเนื่องเสมอมา โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปี  ที่ผ่านมา นอกจากนี้ แนวทางดังกล่าวยังสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ในปัจจุบัน ซึ่งธนาคารกรุงเทพเชื่อว่า นโยบายการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญดังกล่าวเป็นทิศทางที่ธนาคารจะดำเนินต่อไปในอนาคต
                                                                                                                            
                                                                                                                                     ผลประกอบการในไตรมาสแรกที่แสดงถึงกำไรสุทธิของธนาคารในปีนี้  ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความพยายาม   และร่วมมือกันของทุกฝ่ายภายในองค์กรในการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำนินงานอย่างแท้จริง
                                                                                                                            
                                                                                                                                     เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของงบการเงินของธนาคารจะเห็นว่า    ปัจจัยพื้นฐานของธนาคารกรุงเทพยังดำรงความเข้มแข็งเช่นเดิม สินเชื่อในไตรมาสแรกของปีนี้ มีจำนวน 963,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่วนสินทรัพย์รวมของธนาคาร มีจำนวน 1,275,000 ล้านบาท
                                                                                                                            
                                                                                                                                     ในด้านของสภาพคล่องจะเห็นว่า   ธนาคารยังคงรักษาสภาพคล่องไว้ได้อย่างดี  โดยมีเงินฝากรวมทั้งสิ้น  914,800  ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงฐานลูกค้าที่มีความเชื่อถือในความเข้มแข็งมั่นคงโดยไม่เปลี่ยนแปลงต่อธนาคาร  และเครือข่ายสาขาที่กว้างขวาง  รวมทั้งความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อธนาคาร ในส่วนของผู้ถือหุ้นก็ยังอยู่ในระดับที่มั่นคงเช่นกัน โดยมีจำนวน 103,400 ล้านบาท
                                                                                                                            
                                                                                                                                     นายชาตรี  โสภณพนิช  ประธานกรรมการบริหาร  ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ผลประกอบการดังกล่าวเป็นที่คาดหมายกันอยู่แล้ว เพราะเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะที่ถดถอย  นอกจากนี้ธนาคารยังได้ริเริ่มโครงการใหม่ๆ ขึ้นเพียงปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน  คุณภาพของสินทรัพย์ สภาพคล่องและความเชื่อมั่นของสาธารณชนที่มีต่อธนาคาร ธนาคารเชื่อมั่นว่าความคิดริเริ่มที่นำมาปฎิบัติใช้แล้วในปัจจุบัน จะส่งผลต่อผลประกอบการที่น่าพอใจยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
                                                                                                                            
                                                                                                                                     อย่างไรก็ตาม    ผลประกอบการโดยรวมดังกล่าวของธนาคารชี้ให้เห็นถึงการดำเนินงานที่เน้นความเข้มแข็งในระยะอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนนโยบายบริหารการเงินที่ยึดหลักของคุณภาพและความระมัดระวังเป็นหลัก--จบ--