จอห์นแฮนคอคประกันภัยเพิ่มหุ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพ--23 เม.ย.--จอห์นแฮนคอค ประกันภัย ประธานบริษัทจอห์นแฮนคอค อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง ในเครือบริษัทจอห์นแฮนคอค ประกันชีวิต เผยแผนเพิ่มหุ้นใน บริษัท อินเตอร์ไลฟ์ จอห์แฮนคอค ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จากปัจจุบันที่มีอยู่ 25% ให้สูงสุดตามที่รัฐบาลไทยอนุญาตให้เปลี่ยนได้ในอนาคตอันใกล้นี้ "การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ในบริษัท อินเตอร์ไลฟ์ จอห์นแฮนคอค ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ขณะนี้เป็นสัญญาณที่แจ่มชัดว่าบริษัทมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย" นายดิเร็ค ซิลเวอร์ส ประธานและกรรมการบริหารของบริษัท จอห์นแฮนคอค อินเตอร์เนชั่ลแนล โฮลดิ้ง กล่าว "เราเพิ่มขีดความเชื่อมั่นในระยะยาวกับประเทศนี้ และแสดงให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาของบริษัทฯ ที่จะสนองตอบความต้องการทางการเงินของครอบครัวไทยในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผ่านพ้นช่วงแรกของการเปิดเสรีธุรกิจประกันภัยแล้วเมื่อปีที่แล้วด้วยการออกใบอนุญาตให้บริษัทต่างชาติเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทประกันชีวิตได้เป็นร้อยละ 49" ประธานและกรรมการบริษัท กล่าวต่อว่า "ความเชื่อมั่นของบริษัทต่ออนาคตอันสดใสของประเทศไทยไม่สั่นคลอนภายใต้สภาวะความผันผวนทางเศรษฐกิจที่ผ่านมาและปัจจัยพื้นฐานของประเทศไทยยังคงทำให้ตลาดประกันชีวิตเป็นแหล่งธุรกิจที่น่าสนใจ ในฐานะที่เราเป็นผู้ลงทุนระยะยาว ซึ่งคาดหวังว่าความถดถอยทางเศรษฐกิจนี้จะคงอยู่เพียงระยะเวลาอันสั้น บริษัทฯ ได้ประกอบการลงทุนในประเทศไทยมานานนับหลายปี และยังคงการลงทุนไว้ไม่ว่าวัฏจักรเศรษฐกิจจะผันแปรไปอย่างไร" ทั้งนี้บริษัท จอห์นแฮนคอค ซึ่งถือกำเนิดในสหรัฐอเมริกามานานถึง 136 ปี มีสินทรัพย์ในมือเกินกว่า 116 พันล้านเหรียญสหรัฐ และได้รับการจัดอันดับดีเยี่ยมจากสถาบันจัดอันดับอิสระขนาดใหญ่ทุกแห่ง บริษัทเพิ่งรายงานรายได้จำนวน 444 ล้านเหรียญสหรัฐ อันเป็นประวัติการณ์ในปี 2540 ภายหลังจากหักเงินปันผลกรมธรรม์และภาษีแล้ว โดยมีอัตราการเติบโตของธุรกิจที่แข็งแกร่งถึงร้อยละ 13 คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ ที่เพิ่มขึ้นสุทธิถึง 8.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในกองทุนรวม บริษัท ได้ลงทุนเพิ่มเป็นมูลค่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ในโรงงานผลิตแผ่นเหล็กนครไทย อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการทางการเงินขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากโรงงานนครไทยใช้กรรมวิธีการผลิตเหล็กแผ่นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ในราคาต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งแตกต่างจากแต่ก่อนที่บริษัทคนไทยต้องนำเข้า และบริษัทคิดว่า การลงทุนนี้จะประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง" นายดิเร็ค ซิลเวอร์ส ประธานและกรรมการบริษัท กล่าวยกย่อง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย และคณะรัฐบาลในส่วนที่ได้ใช้ความพยายามตลอดมาในการกอบกู้เศรษฐกิจของชาติ "รัฐบาลได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วและบริษัทฯ ก็เชื่อมั่นว่า ภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้เศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัวขึ้นมา นอกจากนี้ การประกันชีวิตมีบทบาทสำคัญในการกอบกู้ดังกล่าว และส่งเสริมให้ประเทศชาติมีความมั่นคงในระยะยาว พร้อมกับแนะนำให้รัฐบาลกระตุ้นการระดมเงินออมด้วย การเพิ่มการลดหย่อนการหักภาษีรายได้ส่วนบุคคลของดอกเบี้ยประกันชีวิตจาก 10,000 บาท เป็น 30,000 บาท" ประธานและกรรมการบริษัท กล่าวต่อว่า "เมื่อพิจารณาจากสภาพวิกฤติการณ์ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการวิจัยผู้บริโภคเพิ่มเติม เพื่อศึกษาวิธีการที่พลังตัวแทนซึ่งผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดีของบริษัทฯจะสามารถเกื้อหนุนครอบครัวไทยและประชาชนไทยให้ต่อสู้กับพิษภัยทางเศรษฐกิจได้อย่างดีที่สุด และดูเหมือนว่าผู้บริโภคกำลังมองหาสินค้าที่มีความยืดหยุ่นสูง ดังนั้น บริษัท จึงพัฒนาสินค้าที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป โดยให้มีความคล่องตัวมากขึ้นในการชำระเบี้ยประกัน มีทางเลือกของความคุ้มครองและผลประโยชน์มากขึ้น ตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป" บริษัทฯ เพิ่งลงทุนกว่า 20 ล้านบาทในระบบคอมพิวเตอร์สำหรับบริษัทประกันชีวิตโดยเฉพาะ เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้า เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บริการลูกค้าสามารถเรียกดูข้อมูลลูกค้าและกรมธรรม์ได้ภายในไม่กี่วินาที นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเชื่อระบบคอมพิวเตอร์ของแต่ละสาขาของบริษัทเข้ากับศูนย์ใหญ่ที่กรุงเทพมหานครด้วย เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัท จอห์นแฮนคอค ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท จอห์นแฮนคอค มาเลเซีย โดยการเพิ่มการลงทุนเป็นจำนวน 350 ล้านบาท และนอกจากประเทศไทยและมาเลเซียแล้ว บริษัทจอห์นแฮนคอคประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจประกันภัยในสิงคโปร์ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ รวมทั้งสำนักงานตัวแทนในประเทศจีน และเวียตนาม ประธานและกรรมการบริษัท กล่าวต่อมา "บริษัท จอห์นแฮนคอค เติบโตในทั้งสองซีกโลก โดยอาศัยพื้นฐานความสำเร็จจากสหรัฐอเมริกา และแคนาดา รวมทั้งกิจการที่กำลังขยายออกไปในเอเชีย และประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญของแผนการบริษัทที่เติบโตไปข้างหน้า" ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท ซูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด สุนันท์ ไกรสิทธิพาณิชย์, วัชรี อารีรัตนศักดิ์ โทร. 260-8480 ต่อ 333 และ 335--จบ--

ข่าวอินเตอร์เนชั่นแนล+อินเตอร์ไลฟ์วันนี้

STI ร่วมทดสอบระบบผนังกระจก Curtain Wall โครงการศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย เดินหน้าควบคุมมาตรฐานระดับสากล เพื่อความมั่นใจในทุกขั้นตอนของงานก่อสร้าง

บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำด้านธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร ได้ดำเนินการทดสอบระบบผนังกระจกอาคาร (Curtain Wall and Glazed Assemblies) ของโครงการศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพงานก่อสร้างสู่ระดับสากล การทดสอบครั้งนี้จัดขึ้น ณ โรงงานของบริษัท วาย เอช เอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนจากสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจาก

ดร. วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร... FTI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบบำบัดน้ำ จัดสัมมนาใหญ่ "Future Water Solutions 2025" — ดร. วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เ...

บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกั... พีดีเฮ้าส์ เปิดตัวบ้านสไตล์ Modern English เรียบหรู งดงามเหนือกาลเวลา — บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของสิทธิ์และผู้บริหารมาตรฐานศูนย์รั...

"ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล" เปิดตัว "เค... FTI เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ เจาะตลาด "เครื่องทำน้ำอ่อน-เครื่องทำน้ำร้อนน้ำเย็น-ปั๊มน้ำ" — "ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล" เปิดตัว "เครื่องทำน้ำอ่อน-เครื่องท...