สธ.เปิดค่ายโลกใบใหม่บำบัดรักษาเยาวชนที่ติดยา

กรุงเทพ--10 เม.ย.--กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการโลกใบใหม่แก่เยาวชนที่ติดยาเสพติดทุกชนิดเข้ารับการบำบัดรักษาตัว ด้วยวิธีการเข้าค่ายพักแรมทำกิจกรรม เน้นเยาวชนจากสถานศึกษาและชุมชนภายนอก เตือนพ่อแม่และญาติไม่ต้องกลัวลูกหลานจะมีประวัติเสีย นายคำรณ ณ ลำพูน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดปทุมธานี ภายหลังเป็นประธานเปิดค่ายโลกใบใหม่และตรวจเยี่ยมศูนย์ชุมชนบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดว่า จากสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก ทั้งประเภทของยาเสพติดและกลุ่มผู้ที่ติดยาเสพติด จากสถิติผู้เข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดในโรงพยาบาลธัญญารักษ์ ในปีงบประมาณ 2540 พบว่าเป็นเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 12-24 ปี ถึงร้อยละ 55 ในจำนวนนี้เป็นเยาวชนที่อยู่ในสถานศึกษาประมาณร้อยละ 13 โดยยาเสพติดที่นิยมได้แก่ แอมเฟตามีนหรือยาบ้า ยาอี เควตาวาหรือยาเค สารระเหย กัญชา และผงขาว และแนวโน้มในอนาคตจะเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในหมู่เยาวชนและเป็นการบั่นทอนสุขภาพอนามัยของเยาวชนอย่างร้ายแรง นายคำรณ กล่าวต่อว่า ปัญหาสำคัญหลังจากเยาวชนติดยาเสพติด คือ การไม่ยอมรับว่าติดยา เป็นเหตุให้ไม่ยอมเข้ารับการบำบัดรักษา แม้กระทั่งผู้ปกครองเองก็คิดว่าการนำบุตรหลานเข้าบำบัดรักษาในกระบวนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด จะมีการบันทึกประวัติที่ไม่ดี อาจมีผู้พบเห็นทำให้เกิดความอับอาย เพื่อเป็นการปกป้องภาพลักษณ์ ของบุตรหลานและผู้ปกครองต่อสังคมภายนอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โดยโรงพยาบาลธัญญารักษ์ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการโลกใบใหม่ขึ้น โครงการนี้เป็นการนำเยาวชนจากสถานศึกษาและชุมชนภายนอกมาทำกิจกรรมเข้าค่ายพักแรม ภายในบริเวณของโรงพยาบาลธัญญารักษ์ แต่ละกิจกรรมจะมีการสอดแทรกความรู้เรื่องโทษพิษภัยของยาเสพติด การป้องกันการติดซ้ำ การบำบัดรักษาไปพร้อม ๆ กันด้วย สำหรับเยาวชนที่ผ่านโครงการนี้ จะได้รับการบำบัดรักษาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ พร้อมทั้งเสริมภูมิคุ้มกันต่อยาเสพติด โดยจะไม่รู้สึกว่าเป็นการบำบัดรักษา ซึ่งจะช่วยลดภาวะกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจได้อย่างมาก และเป็นที่ยอมรับต่อสังคมรอบข้าง ที่สำคัญโครงการนี้ยังเหมาะกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่ม เนื่องจากสถานที่ บุคคลากรและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ใช้จากงบประมาณเดิมก็เพียงพอ ในส่วนของผู้เข้าร่วมโครงการเองจะเสียค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการจำนวน 230 บาทเท่านั้น โครงการนี้จัดขึ้นเดือนละ 1 รุ่น รุ่นละ 30-50 คน ใช้เวลา 12 วัน ดำเนินการรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 2 และจะดำเนินการต่อไปจนถึงเดือนกันยายนปีนี้ นายคำรณ กล่าวในตอนท้าย--จบ--

• ข่าวโรงพยาบาลธัญญารักษ์
• ข่าวกระทรวงสาธารณสุข
• ข่าวจังหวัดปทุมธานี
• ข่าวกระทรวงสาธารณ
• ข่าวสาธารณสุข