ศูนย์กีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต หลังเอเชี่ยนเกมส์-เฟสปิกเกมส์ปรับใช้ประโยชน์ทางการศึกษา-กีฬา ของชาติ

28 Jan 1999

กรุงเทพ--28 ม.ค.--มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาแนวทางและวางแผนการปรับปรุงอาคารสนามกีฬาในศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต หลังเสร็จภารกิจการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 และการแข่งขันกีฬาคนพิการหรือเฟสปิกเกมส์ ครั้งที่ 7 เพื่อใช้ประโยชน์ทางการศึกษาและการกีฬาของชาติแล้ว

รองศาสตราจารย์ ดร.นริศ ชัยสูตร อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงแผนการปรับใช้ประโยชน์จากสนามกีฬาในศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 และการแข่งขันกีฬาคนพิการหรือเฟสปิกเกมส์ว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้วางแผนการใช้ประโยชน์จากสนามกีฬาต่าง ๆ ที่สร้างเป็นอาคารไว้ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างแล้ว อาคารต่าง ๆ เหล่านั้นถูกออกแบบไว้อย่างสวยงามแตกต่างจากสนามกีฬาทั่ว ๆ ไป หากมองรูปลักษณ์ภายนอกอาจจะไม่รู้เลยว่าอาคารนั้น ๆ เคยเป็นสนามแข่งขันกีฬามาก่อนภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันแล้ว จึงสามารถปรับปรุงเพื่อใช้ประโยชน์ทางการศึกษาได้โดยไม่ยากและไม่สิ้นเปลืองงบประมาณมากนัก เช่น อาคารยิมเนเซี่ยม 1 จะปรับใช้เป็นห้องพักอาจารย์ที่ปรึกษา และห้องเรียนบางส่วน อาคารยิมเนเซี่ยม 2 จะปรับเป็นหอประชุมใหญ่ สำหรับประกอบกิจกรรมสำคัญ ๆ ของมหาวิทยาลัย รวมทั้งปรับเป็นห้องบรรยายรวมขนาดเล็ก ๆ ได้อีกหลายห้อง นอกจากนั้น อาคารยิมเนเซี่ยม 2 นี้ ยังมีการออกแบบไว้สวยงามมีความหมายที่เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย กล่าวคือ มี "โดมกระจก" อยู่บนอาคาร และอาคารนี้ยังตั้งอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อีกด้วย ส่วนสนามแข่งขันแฮนด์บอล จะปรับปรุงเป็นศูนย์วิจัย หรืออาคารห้องสมุด เป็นต้น

สำหรับอาคารยิมเนเซี่ยมหลังคารูปเต่า 3 หลังติดกัน สระว่ายน้ำ และเมนสเตเดียม จะยังคงไว้ดังเดิม ทั้งนี้เพื่อใช้ประโยชน์ในการกีฬาทั้งของมหาวิทยาลัยและของชาติ ส่วนอาคารบ้านพักนักกีฬาจะปรับใช้เป็นหอพักนักศึกษาต่อไป

เกี่ยวกับเรื่องเดียวกันนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.กำชัย จงจักรพันธ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกฎหมาย รักษาการผู้จัดการสำนักงานทรัพย์สิน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบายว่า ในส่วนของทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้จัดสร้างขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อันเนื่องมาจากการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะแบ่งอาคารและสนามแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนที่หนึ่ง ได้แก่ อาคารที่จัดสร้างขึ้นในเขตการศึกษาของมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นอาคารยิมเนเซี่ยม 1 ที่ใช้แข่งขันบาสเกตบอล ยูโด มวยปล้ำ อาคารยิมเนเซี่ยม 2 ซึ่งใช้แข่งขันแบดมินตัน สนามแฮนด์บอล รวมตลอดถึงอาคารที่พักนักกีฬาอีก 23 หลัง อาคาร สโมสร สระว่ายน้ำ อาคารอเนกประสงค์ สิ่งเหล่านี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะได้รับมาทั้งหมดเพื่อใช้ประโยชน์ในการศึกษาของมหาวิทยาลัยต่อไป

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ดำเนินการไปแล้วในแง่ของการศึกษาหาความเหมาะสมว่าอาคารใดควรจะปรับปรุงใช้ประโยชน์ทางการศึกษาในลักษณะใด และขณะนี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ในส่วนของอาคารบ้านพักนักกีฬาจำนวนยี่สิบสามอาคารที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับมอบมานั้นจะใช้เป็นอาคารที่พักสำหรับนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งการบริหารจัดการอาคารเหล่านั้น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ตั้งคณะกรรมการบริหารสำนักงานจัดการทรัพย์สินขึ้นชุดหนึ่ง กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดอยู่

ส่วนที่สอง เป็นอาคารยิมเนเซี่ยมต่าง ๆ ที่สร้างในโซนกีฬา กล่าวคือ เมนสเตเดียม จุสองหมื่นที่นั่ง อาคารศูนย์กีฬาทางน้ำจุห้าพันที่นั่ง อาคารยิมเนเซี่ยมอีก 3 หลัง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "ยิมเต่า 3 หลัง" ตามข้อตกลงเดิมหรือตามเจตนารมณ์เดิม ตกลงให้สงวนอาคารเหล่านี้ไว้ใช้ประโยชน์สำหรับการกีฬาของชาติ เป็นศูนย์ Training Center ส่วนที่สองนี้ในระยะยาวจะบริหารอย่างไรนั้น คณะกรรมการอำนวยการก่อสร้างกระทรวงการคลัง ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน จะเป็นผู้พิจารณาในรายละเอียดต่อไป สำหรับในเบื้องต้นนี้ กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บริหารดูแลศูนย์กีฬานี้ไปก่อน โดยที่กระทรวงการคลังจะจัดสรรงบประมาณให้ด้วย

ในส่วนการบริหารสนามกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ประชุมร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านกีฬามาแล้วกำลังอยู่ในระหว่างจัดวางกิจกรรม วางแผนงานของการใช้สนาม เช่น ในระยะแรกนี้ อาจจะใช้เป็นที่เก็บตัวฝึกซ้อมสำหรับนักกีฬาทีมชาติ ที่จะไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศบรูไน ถัดไปอาจจะใช้เป็น Summer Camp กีฬา-ภาษา หรือกีฬา-วัฒนธรรม เป็นต้น สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะแจ้งข่าวให้ประชาชนได้ทราบต่อไป--จบ--