กรุงเทพ--25 ก.พ.-- บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด
บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นสาขาของบริษัท แคนนอน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น ประกาศผลการดำเนินธุรกิจที่น่าพอใจในปี 2541 และแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2542 โดยในปีนี้ บริษัทฯ จะเน้นไปที่เทคนิคทางด้านการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้มากยิ่งขึ้น บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จทางธุรกิจในปี 2542 ด้วยการเข้าสู่ตลาดระดับองค์กร พัฒนาเทคโนโลยีของเครื่องพริ้นเตอร์และสแกนเนอร์เพื่อครองความเป็นอันดับหนึ่งในตลาด และเพิ่มความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำในการให้บริการด้วยการขยายศูนย์บริการของแคนนอนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
มร. เออิจิ ฟุกุอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของตลาดไอทีในประเทศไทยในปี 2542 ว่าจะเติบโตร้อยละ 20 โดยความต้องการในด้านอุปกรณ์สำนักงานและเทคโนโลยีอินพุตและเอาท์พุตของกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็กจะเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่หน่วยงานรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจจะยังคงงบประมาณในส่วนนี้อยู่ แคนนอนมุ่งมั่นที่จะคงความเป็นผู้นำในตลาดของผู้ใช้ตามบ้านซึ่งผลิตภัณฑ์ของแคนนอนได้รับผลสำเร็จอย่างสูงในตลาดส่วนนี้
ในส่วนของผลการดำเนินธุรกิจในปี 2541 มร. เออิจิ เปิดเผยว่า แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง มียอดรายได้ทั้งสิ้น 1 พันล้านบาท และในปีนี้ แคนนอนกำหนดเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 1,200 ล้านบาท โดยร้อยละ 40 ของรายได้มาจากเครื่องพริ้นเตอร์ ระบบบับเบิ้ล เจ็ท และส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 60 มาจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของแคนนอน อาทิเช่น สแกนเนอร์ กล้องถ่ายภาพระบบดิจิตอล เครื่องเลเซอร์พริ้นเตอร์ เครื่องจัดเก็บเอกสารระบบอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องโทรสาร เครื่องถ่ายเอกสาร และกล้องถ่ายภาพ นอกจากนั้นแคนนอนมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตของแคนนอน ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และภายในกลางปี 2542 นี้ แคนนอน ไฮ-เทค จะผลิตพริ้นเตอร์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดในประเทศไทย
นายสุริศักดิ์ ถวัลย์ศักดิ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายซิสเตมโพรดักตส์ ได้กล่าวเน้นว่า แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง มีเป้าหมายที่จะครองความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องพริ้นเตอร์และสแกนเนอร์ในปี 2542 รวมทั้ง เพิ่มส่วนแบ่งในตลาดไฮเอนด์อีกด้วย"ในส่วนของตลาดเครื่องพริ้นเตอร์แบบอิงค์เจ็ต แคนนอนตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายให้ได้ประมาณ 60% ของตลาดโดยรวม หรือประมาณ 50,000 เครื่องในปีนี้ หลังจากที่แคนนอนครองความเป็นอันดับหนึ่งในตลาดในปี 2541 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการจัดโรดโชว์ทั่วประเทศ และในปีนี้แคนนอนจะยังคงเน้นกลยุทธ์กิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องต่อไป"
นายสุริศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง จะทำงานร่วมกับผู้นำในด้านผลิตภัณฑ์และการรวมระบบสารสนเทศในการเข้าสู่ตลาดระดับองค์กร โดยใช้ความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์แคนนอนที่เป็นเทคโนโลยีระบบเปิดและสามารถใช้งานได้ดีกับระบบคอมพิวเตอร์ในองค์กรธุรกิจ ซึ่งมีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จากผู้ค้าหลากหลายราย ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดแข็งของผลิตภัณฑ์แคนนอน นอกจากนี้ ราคายังเป็นความแข็งแกร่งอีกจุดหนึ่งของแคนนอน เนื่องจากแคนนอน ไฮ-เทค สามารถผลิตเครื่องพริ้นเตอร์เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยในราคาที่ต่ำกว่าสินค้านำเข้าถึงร้อยละ 20 ทำให้แคนนอนได้เปรียบคู่แข่งในด้านนี้"
"จุดเด่นที่ทำให้แคนนอนมีความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น คือการที่แคนนอนสามารถให้บริการและการสนับสนุนในมาตรฐานระดับโลกและเครือข่ายการบริการเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้าที่มีค่าของเรา แคนนอนจะบรรลุเป้าหมายในการขยายศูนย์บริการของแคนนอนให้ครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศในปีนี้" นายสุริศักดิ์ กล่าว
ในปี 2542 นี้ แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง จะเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจรด้วยเทคโนโลยีชั้นนำของแคนนอนสู่ตลาดประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะมีการเปิดตัว ได้แก่ เครื่องพริ้นเตอร์ระดับไฮเอนด์ที่มี 2 หัวพิมพ์เครื่องเลเซอร์พริ้นเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีจากแคนนอน กล้องดิจิตอลไฮ-เอนด์ ที่มีความละเอียดตั้งแต่ 1 ล้านพิกเซลขึ้นไป เครื่องจัดเก็บเอกสารระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีสแกนเนอร์ความเร็วสูงพร้อมด้วยซีดี ไรเตอร์ (CD Writer) และซอฟต์แวร์การจัดเก็บเอกสาร ตลอดจนเครื่องฉายภาพอิเล็กทรอนิกแบบไฮ-เอนด์ รุ่นใหม่
นายสุริศักดิ์ กล่าวสรุปว่า "เราจะยังคงเน้นเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ด้วยราคาที่เหมาะสมและกลยุทธ์ในด้านกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และกิจกรรมสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าของแคนนอนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ เราเชื่อว่ากลยุทธ์หลักเหล่านี้จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายในการครองความเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจนี้"
บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นสาขาของบริษัท แคนนอน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น ฝ่ายซิสเตมโพรดักตส์ เป็นหนึ่งในห้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ของฝ่ายการตลาดของแคนนอน โดยรับผิดชอบในการจัดกิจกรรมทางการตลาดและการขายให้กับผลิตภัณฑ์ห้าประเภทของแคนนอน ได้แก่ อุปกรณ์เอาท์พุต อุปกรณ์อินพุต เครื่องจัดเก็บเอกสารระบบอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องฉายภาพอิเล็กทรอนิกและระบบการประชุมทางไกล และผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง--จบ--