ธนาคารไทยพาณิชย์ชี้แจงจุดยืนกรณีสถานีโทรทัศน์ไอทีวี
กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
จากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายสนับสนุนการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์เสรีภายใต้ชื่อสถานี โทรทัศน์ไอทีวี โดยมีเจตนารมณ์ที่ต้องการให้เป็นสถานีโทรทัศน์มีความเสรีโดยที่ประชาชนเป็น เจ้าของอย่างแท้จริง มีการนำเสนอข่าวสารอย่างกว้างขวางจากทุกแง่มุม โดยปราศจากการ ครอบงำทางความคิด ประชาชนจะมีสิทธิ เสรีภาพในการรับรู้ รับฟังเหตุการณ์ ข่าวสารความเป็นไปต่างๆในสังคมอย่างเต็มที่ครบถ้วน และมีปณิธานอันแน่วแน่ในการมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพของประชาชน สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้แก่สังคมไทย
คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ให้การสนับสนุนทางด้านเงินทุนและการเป็นผู้ร่วมทุนผ่านบริษัทที่จัดตั้งขึ้น คือ บริษัท สยามทีวีแอนด์คอมมิวนิเคชั่น จำกัดในขณะนั้น โดยเล็งเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีและเกิดประโยชน์ต่อประชาชน แต่ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ผลการ ดำเนินงานของสถานีโทรทัศน์ไอทีวีในระยะแรกไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย ดังนั้นธนาคารจึงได้ศึกษาแนวทางแก้ไข ได้แก่ การปรับปรุงเงื่อนไขการให้สัมปทานและการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อเป็นบริษัทมหาชน การดำเนินการเพิ่มทุนทั้งจากผู้ถือหุ้นเดิมและหาผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามาลงทุน เพื่อบรรเทาภาระการขาดทุน ซึ่งได้ดำเนินการมากว่า 2 ปีแล้ว
ดังนั้นธนาคารจึงพิจารณาแนวทางการดำเนินการ โดยการแปลงหนี้เป็นทุนและจากการแปลงหนี้เป็นทุนจะทำให้ธนาคารกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ตามหลักเกณฑ์ของการปรับโครงสร้างหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งภายหลังการขายหุ้นเพิ่มทุน ธนาคารยังคงผู้บริหารชุดเดิมไว้ เนื่องจากธนาคารมีผู้แทนอยู่แล้ว ทั้งนี้แนวทางการพิจารณาจะดูที่ความสามารถและศักยภาพในการบริหารสถานีโทรทัศน์โดยให้มีความเป็นกลางเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดที่จะสามารถเข้าครอบงำการดำเนินงานของสถานีโทรทัศน์ไอทีวีให้บิดเบือนเจตนารมณ์ของสัญญาสัมปทานได้
สำหรับในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธนาคารนั้น ธนาคารเป็นผู้สนับสนุนด้านเงินทุน และได้ดำเนินการภายใต้กฏเกณฑ์ข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทยในการปรับโครงสร้างหนี้ และในอนาคตธนาคารมีนโยบายที่จะลดบทบาทการลงทุนเมื่อสถานีโทรทัศน์ไอทีวีสามารถที่จะบริหารและมีผลประกอบการที่ดีขึ้น--จบ--
-อน-
ข่าวธนาคารไทยพาณิชย์ชี้แจง+กระทรวงการต่างประเทศวันนี้
"ท่าเรือประจวบ" ร่วมงานประชุม 7th WCIFIT มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติด้านการลงทุนและการค้าตะวันตก
ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประเทศเกียรติยศในงานครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญที่ภาคส่วนของไทยจะได้ขยายความร่วมมือกับภาคตะวันตกของจีนอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิดบูธแสดงสินค้าและบริการ (Thailand Pavillion) ในงานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติด้านการลงทุนและการค้าตะวันตกครั้งที่ 7 (The 7th Western China International Investment and Trade Fair WCIFIT) ณ นครฉงชิ่งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม