ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการและฐานะการเงินสำหรับไตรมาสแรกของปี 2544 ก่อนการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีอิสระ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--ธ.ไทยพาณิชย์ สรุปผลประกอบการที่สำคัญในไตรมาสแรกของปี 2544 ธนาคารยังคงมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นและมีกำไรต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 7 ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งผลประกอบการเบื้องต้นสำหรับไตรมาสแรกของปี 2544 ก่อนการสอบทานโดยผู้สอบบัญชี ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 559 ล้านบาทเทียบกับ 1,319 ล้านบาทและ 773 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนตามลำดับ ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในงวดนี้จำนวน 1,838 ล้านบาท เป็นไปตามนโยบายที่ระมัดระวังในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงในปัจจุบันด้วยการจัดชั้นหนี้อย่างเข้มงวดและการตั้งสำรองส่วนเกินเพิ่มเติม หากพิจารณาผลกำไรก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแล้ว ในไตรมาสแรกของปี 2544 ธนาคารมีกำไรก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 2,396 ล้านบาท เทียบกับ 3,116 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ของปี 2543 และ 1,600 ล้านบาทในไตรมาสที่ 4 ของปี 2543 รายการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้ 1. รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิจากดอกเบี้ยจ่าย ในไตรมาสนี้จำนวน 4,064 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 3,476 ล้านบาทและ 3,975 ล้านบาทในไตรมาสหนึ่งและไตรมาสสี่ของปีก่อนตามลำดับ รายได้ดอกเบี้ยรับและเงินปันผลสุทธิมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากการบริหารส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง แม้ว่าการแก้ไขหนี้มีปัญหาจะถูกกระทบจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงนี้บ้างก็ตาม 2. รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากการดำเนินธุรกิจซึ่งประกอบด้วยค่าธรรมเนียม กำไรจากการปริวรรต และรายได้อื่นมีจำนวน 1,327 ล้านบาท ลดลง 139 ล้านบาทจากไตรมาสแรกของปีก่อนโดยรายได้ค่าธรรมเนียมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามปริมาณธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรจากการปริวรรตลดลง219 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณธุรกรรมเงินกู้และเงินโอนต่างประเทศของลูกค้าลดลงประกอบกับธนาคารหารายได้จากการฝากเงินเป็นเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้ได้รับรายได้ในรูปดอกเบี้ยแทนรายได้ปริวรรต รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอื่นๆได้แก่กำไรจากการขายและตีราคาหลักทรัพย์ลดลงจาก 970 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2543 เป็น 156 ล้านบาทเนื่องจากในปีก่อนมีกำไรจากการขายหลักทรัพย์รายการใหญ่ นอกจากนั้นส่วนแบ่งกำไรในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมลดลงจาก 562 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2543 เป็น 239 ล้านบาท เนื่องจากในปีก่อนมีกำไรพิเศษจำนวน 475 ล้านบาท จากการกลับรายการสำรองเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่บริษัทย่อยแห่งหนึ่งตั้งไว้ในปี 2542 3. ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย ธนาคารมีค่าใช้จ่ายดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ จำนวน 2,584 ล้านบาท ลดลง 201 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามธนาคารมีค่าใช้จ่ายเงินสมทบกองทุนเพื่อการฟื้นฟูสถาบันการเงินและการขาดทุนจากการลดราคาของหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นรวม 232 ล้านบาท 4. ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ธนาคารตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาสนี้จำนวน 1,838 ล้านบาท สำหรับลูกหนี้รายใหญ่บางรายที่มีการเสื่อมค่าลงรวมทั้งการจัดชั้นลูกหนี้อย่างเข้มงวดและตั้งสำรองส่วนเกินเพิ่มเติมทั้งสำรองเฉพาะ (Specific Reserve) และ สำรองส่วนเกินทั่วไป (General Reserve) เพื่อให้เป็นไปตามหลักความระมัดระวังยิ่งขึ้นในภาวะที่ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ยังต้องได้รับการดูแลอย่างระมัดระวัง ทั้งนี้สำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ณ 31 มีนาคม 2544 มีจำนวน 24,181 ล้านบาท งบดุล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2544 ธนาคารมีสินเชื่อสุทธิ (หลังหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ) จำนวน 457,609 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2543 จำนวน 5,434 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 1.2 และมีดอกเบี้ยค้างรับจำนวน 2,692 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากสิ้นปี 2543 จำนวน 162 ล้านบาท ธนาคารมียอดเงินฝาก 607,213 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2543 จำนวน 14,106 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.4 ธนาคารมีส่วนของผู้ถือหุ้น 61,772 ล้านบาทมีเงินกองทุนตามกฎหมาย (ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2) รวม 76,421 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 15.5 ของสินทรัพย์เสี่ยง สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ธนาคารมียอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ซึ่งรวมรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน ณ สิ้นมีนาคม 2544 จำนวน 100,900 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.5 ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจาก 94,261 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.3 ณ สิ้นปี 2543 เนื่องจากยังคงมี NPLs ใหม่เกิดขึ้นทั้งในส่วนของหนี้ที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ (Re-entry NPLs) และ NPLs บัญชีใหม่--จบ-- -สส-

ข่าวธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด+ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวนวันนี้

SCB FM มอง Fed อาจลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งอาจทำให้ Treasury yields ลดลง และดัชนีเงินดอลลาร์อ่อนค่า ช่วงนี้จับตาภาษีของสหรัฐฯ

นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส สายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) มีมติ 9-2 ให้คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% โดยมีกรรมการ 2 ท่าน (Christopher Waller และ Michelle Bowman) ที่โหวตให้ลดดอกเบี้ย 25 bps ทั้งนี้ การคงดอกเบี้ยครั้งนี้ของ Fed ถือเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันในปีนี้ หลังจากลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว นอกจากนี้ คณะกรรมการ FOMC มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอลงตามการใช้จ่ายครัวเรือน ซึ่งเป็น

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ และ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ ที่ 'BBB' และ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)...

"PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลคร... "PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ — "PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ รวมสุดยอดโปร LPGA และโปรกอล์ฟชั้นนำของไทยกว่า ...

รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา (กลาง) ประธ... 'บมจ.โรงพยาบาลนครธน' แต่งตั้ง Underwriters เตรียมเสนอขายหุ้น IPO — รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา (กลาง) ประธานกรรมการบริษัท บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (ม...

เป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่จะได้รับปัจจัยบวกจ... 'บมจ.โรงพยาบาลนครธน' จัดโรดโชว์นักลงทุนรายย่อย ผ่านระบบออนไลน์ 29 พ.ย.นี้ — เป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่จะได้รับปัจจัยบวกจากเทรนด์การใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพเละแนว...