แคนตัน, โอไฮโอ,8 เม.ย.-พีอาร์นิวส์ไวร์-เฟิร์สทคอลล์-เอเชียเน็ท
บริษัท เดอะ ทิมเคน คัมพานี (The Timken Company) และบริษัท เอ็นเอสเค ลิมิเต็ด (NSK Ltd.) ได้ตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อตั้งโรงงานในการขยายการผลิตสินค้าตลับลูกปืน (tapered roller bearing product) ใกล้กับเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยจะเริ่มการก่อสร้างโรงงานภายในปี 2545 และเริ่มการผลิตในช่วงต้นปี 2547 ทั้งนี้บริษัทร่วมทุนในชื่อ ทิมเคน-เอ็นเอสเค แบร์ริ่งส์ (ซูโจว) คัมพานี ลิมิเต็ด (Timken-NSK Bearings (Suzhou) Co. Ltd.) นั้น ทิมเคนและเอ็นเอสเค จะถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนรายละ 50 เปอร์เซ็นต์
(ข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน: http://www.timken.com/media/kits/TimkenNSK.asp)
(รูปภาพ: http://www.newscom.com/cgi-bin/prnh/199991012/TKRLOGO)
"การริเริ่มดังกล่าวเป็นการเดินหน้าการเปลี่ยนรูปแบบของบริษัท ทิมเคน บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้ทำให้บริษัทยืนอยู่ในจุดที่ต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ทั่วโลก ด้วยการจัดตั้งศูนย์การผลิตผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยานยนต์ขนาดเล็กในทวีปเอเชีย" นายเจมส์ ดับบลิว กริฟฟิท (James W. Griffith) ประธานและประธานหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการกล่าว "นอกจากนี้การตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการผลิต ด้วยการเพิ่มแหล่งการผลิตสินค้าที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ ดังนั้นการร่วมลงทุนกับเอ็นเอสเคจะช่วยให้ทั้งสองบริษัทมีกำไรเพิ่มมากขึ้น"
"ทั้งทิมเคนและเอ็นเอสเคต่างเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมตลับลูกปืน และการร่วมลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทคงความสามารถในการแข่งขันทั่วโลกได้ นอกจากนี้การเป็นพันธมิตรยังจะช่วยให้บริษัทสามารถรวมจุดแข็งด้านเทคนิคและการบริหารของบริษัทในการผลิตผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืนที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย" นายเทตสุโอะ เซกิย่า (Tetsuo Sekiya) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เอ็นเอสเค ลิมิเต็ด กล่าว โรงงานแห่งใหม่จะเน้นในเรื่องการผลิตผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืนที่ใช้งานได้กับแอพพลิเคชั่นปริมาณปานกลางไปจนถึงปริมาณมาก, อุตสาหกรรมยานยนต์และบางครั้งที่ใช้ในแอพพลิเคชั่นอุตสาหกรรมบางประเภท ทั้งนี้อุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงานจะมาจากโรงงานของทิมเคนที่กำลังจะปิดตัวลงในประเทศอังกฤษ และส่วนหนึ่งก็มาจากบริษัทเอ็นเอสเคในประเทศญี่ปุ่น
นายเซกิย่ากล่าวว่า "ตลาดสินค้าตลับลูกปืนมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ดังนั้นเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า บริษัทต้องผลิตสินค้าในสภาวะที่มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำที่สุด"
เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2544 ทิมเคนได้ปรับโครงสร้างการผลิต ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานเพื่อสร้างเครือข่ายโรงงานที่เน้นการผลิตชุดผลิตภัณฑ์หรือส่วนประกอบเฉพาะอย่าง นอกจากนี้เป้าหมายหลักของยุทธศาสตร์ก็คือ การลดค่าใช้จ่ายในการผลิตให้ได้ถึง 100 ล้านเหรียญภายในสิ้นปี 2547 นายกริฟฟิทกล่าวว่า "บริษัทเดินมาถูกทางในการบรรลุจุดหมายในการลดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ต่อไปการร่วมลงทุนจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัททั่วโลก จุดมุ่งหมายเบื้องต้นของบริษัทคือ การสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับทั้งลูกค้าและผู้ถือหุ้นของบริษัท และการร่วมลงทุนครั้งนี้ก็จะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มคุณค่าได้อย่างแน่นอน"
บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่จะช่วยให้ทิมเคนและเอ็นเอสเค สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืนที่ตรงตามข้อกำหนดของแต่ละบริษัทได้ และบริษัทแต่ละรายก็จะสามารถทำตลาดผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อของตัวเองได้อย่างมีอิสระ
เดอะ ทิมเคน คัมพานี (http://www.timken.com) เป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับสากลด้านผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืน อัลลอยด์ เหล็ก และชิ้นส่วน เช่นเดียวกับผู้ให้บริการและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง บริษัทมีสาขาใน 24 ประเทศและมีพนักงาน 18,700 รายทั่วโลก โดยมีสถิติการขายประจำปี 2544 จำนวน 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
เอ็นเอสเค (http://www.nsk.com) เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นในด้านผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืนและเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมตลับลูกปืน บริษัทมีพนักงานมากกว่า 23,000 ราย โดยมีสาขาใน 26 ประเทศและมีโรงงานผลิตจำนวน 51 แห่งใน 14 ประเทศ สถิติการขายปี 2544 จำนวน 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การใช้ข้อความให้ปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคล (Private Securities Litigation Reform Act Safe Harbor Statement) นอกเหนือจากข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงในอดีตและปัจจุบันที่ระบุไว้ในที่นี้ ข้อความที่ปรากฎในข่าวแจกชิ้นนี้ซึ่งรวมถึงข้อความเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้จากการรวมกิจการ เช่น ประสิทธิภาพ การประหยัดค่าใช้จ่าย ข้อมูลทางการตลาดและความแข็งแกร่งทางการเงิน และความสามารถการแข่งขัน และสถานะของบริษัทหลังผนวกรวมกิจการ ตลอดจนข้อความอื่นๆ ที่ใช้คําว่า "คาดหวัง" "คาดหมาย" "คาดการณ์" "วางแผน" และข้อความอื่นๆ ในลักษณะนี้ ถือเป็นข้อความเกี่ยวกับการมองไปยังอนาคต (forward-looking statement) ซึ่งอยู่ในความหมายของบทบัญญัติ "safe harbor " ของกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538 (Private Securities Litigation Reform Act of 1995) ข้อความเกี่ยวกับการมองไปยังอนาคตนี้ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งอาจทําให้ผลที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมาก ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ว่าประโยชน์ที่คาดคะเนไว้จากการรวมกิจการอาจไม่เกิดขึ้นทั้งหมด เนื่องจากปัจจัยที่สำคัญหลายประการ รวมทั้งความสามารถของบริษัทในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนตามที่ได้มีการอธิบายไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้ และความสามารถของบริษัทในการได้มาซึ่งประโยชน์ของโครงการปรับโครงสร้าง ข้อมูลและรายละเอียดเลห่านี้อยู่ในรายงานประจำปีของบริษัท ปี 2544 หน้า 39 และรายงานประจำปีบนฟอร์ม เทน-เค (Form 10-K) ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2544 บริษัทขอสงวนสิทธิในการปรับปรุงหรือทบทวนข้อความเกี่ยวกับการมองไปยังอนาคต
ที่มา: เดอะ ทิมเคน คัมพานี
ติดต่อ: อีเลน รัสเซล รีโอลฟี (Elaine Russell Reolfi) ผู้จัดการทั่วโลก ฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท เดอะ ทิมเคน คัมพานี โทร.+1-330-471-3502 หรือแผนกสื่อสารสาธารณะ บริษัท เอ็นเอสเค ลิมเต็ด โทร.81-33779-7050
รูปภาพ: http://www.newscom.com/cgi-bin/prnh/19991012/TKRLOGO
ภาพของเอพี: http://photoarchive.ap.org
โต๊ะภาพของพีอาร์เอ็น: โทร. 888-776-6555 หรือ 212-782-2840
เว็บไซต์: http://www.timken.com
http://www.timken.com/media
http://www.nsk.com
http://www.timken.com/media/kits/TimkenNSK.asp
--แปลและเรียบเรียงโดย-สพ/รค--
การประชุมสุดยอดนักลงทุนฮ่องกง FII 7-8 ธ.ค. ดึงดูดผู้นำมารวมตัวกันเพื่อจัดการกับความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย, 7 ธ.ค. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต การประชุมสุดยอดไพรออริตีของสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (The Future Investment Initiative PRIORITY Summit) ที่ฮ่องกงเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ได้ดึงดูดนักลงทุน นวัตกร และผู้กำหนดนโยบายจากทั่วโลก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านเทคโนโลยี สภาพภูมิอากาศ และเศรษฐกิจ นักลงทุนและผู้นำจากทั่วทั้งเอเชีย