20-25 เม.ย.นี้ ที่ท้องสนามหลวง รื่นเริงมหรสพสมโภช ร่วม“ฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์”

กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--กทม. ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาส “ฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตน-โกสินทร์” 21 เม.ย.45 กรุงเทพมหานครจะจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 20-25 เม.ย.45 ณ เวทีท้องสนามหลวง โดยเวทีด้านทิศใต้ (ด้านกำแพงพระบรมมหาราชวัง) ชมการแสดงแสง สี เสียง บอกเล่าวิวัฒนาการของกรุงรัตนโกสินทร์ ความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง สังคม ศิลปวัฒนธรรม ในแต่ละรัชสมัยของพระมหากษัตริย์ในบรมราชวงศ์จักรี กำกับการแสดงโดยยุทธนา มุกดาสนิท จัดการแสดง 3 คืน ในวันที่ 21, 23, 25 เม.ย.45 ตั้งแต่ 20.00 น. เป็นต้นไป ส่วนคืนวันที่ 22 และ 24 เม.ย.45 จัดฉายภาพยนตร์ไทยที่เคยโด่งดังในอดีต คืนละ 2 เรื่อง ไม่ซ้ำกัน สำหรับเวทีด้านทิศเหนือ (ด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) พบกับความบันเทิงบนเวที โดยศิลปิน นักร้อง นักแสดงชื่อดัง และการแสดงตลก ลิเก ลำตัด ตลอด 6 คืน คือวันที่ 20-25 เม.ย.45 ซึ่งในคืนวันที่ 20 เม.ย.45 จะเปิดเวที Count Down ฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ พบเบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา และดารานักร้องดังมากมาย ก่อนร่วมกันนับถอยหลังเมื่อใกล้เวลา 24.00 น. ติดตามชมการถ่ายทอดสดงาน Count Down ทางสถานีโทรทัศน์ ITV เวลา 22.30-24.15 น. ทั้งนี้การแสดงและมหรสพต่างๆที่ท้องสนามหลวง จัดแสดงให้ประชาชนชมฟรีตลอดงาน ชมขบวนรถบุปผชาติตระการตากว่าร้อยคัน ที่ถนนราชดำเนินตลอดสาย สำหรับกิจกรรมงาน “ฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” 21 เม.ย.45 ในช่วงเช้า เริ่มตั้งแต่เวลา 06.30 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 220 รูป และพระราชาคณะ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เวลา 08.29 น. ผู้ว่าฯ กทม. นำคณะผู้บริหารและข้าราชการการ กทม. สักการะศาลหลักเมือง เวลา 09.30 น. พิธีสืบชะตาเมือง โดยนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปประจำปะรำพิธี 4 ภาค บริกรรมคาถา “นครขาน” โดยมีริ้วขบวน 4 ภาค บรรเลงนาฏดนตรี พร้อมอัญเชิญ เครื่องสังเวยเข้าสู่ปะรำพิธี 4 ทิศ เพื่อประกอบพิธีสืบชะตาเมือง ในภาคบ่าย เวลา16.00 น. ชมความงามของขบวนรถบุปผชาติและขบวนพาเหรดกว่า 100 คัน ที่ถนนราชดำเนินตลอดสาย ซึ่งจะมีการจัดขบวนรถบุปผชาติของสถานทูตต่างๆ เช่น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ และสาธารณรัฐเกาหลี ขบวนรถของบริษัทต่างๆ สำนักและสำนักงานเขต 50 เขตของ กทม. ร่วมด้วยขบวนพาเหรดของหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม สถาบันการศึกษา สมาคมต่างๆ ขบวนพาเหรดศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน 4 ภาค ขบวนพาเหรดย้อนยุคสุโขทัยและลพบุรี ตลอดจนขบวนพาเหรดของสถานทูตแต่งกายในชุดประจำชาติ เช่น ภูฐาน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มองโกเลีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา สวิสเซอร์แลนด์ เวียตนาม ฯลฯ ขบวนพาเหรดและขบวนรถบุปผชาติจะคั่นด้วยวงโยธวาทิตที่ชนะการประกวดในระดับประเทศและระดับโลก ประมาณ 15 วง และวงดุริยางค์กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ร่วมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ริ้วขบวนแบ่งเป็น 8 ขบวน ประดับตกแต่งอย่างสอดคล้องกับแนวคิด “1.เฉลิมรัฐฉัตรแก้ว 9 รัชกาล 2.สืบสานประเพณีวัฒนธรรมล้ำค่า 3. สี่ภาควิถีไทยตระการตา 4. ภูมิปัญญาการละเล่นกีฬาไทย 5.รวมของดีมีคุณค่า 50 เขต 6. นานาประเทศฉลองกรุง ครั้งยิ่งใหญ่ 7. ทุกชนชาติอยู่ดีมีสุขในเมืองไทย 8. ราษฎร์ รัฐ ต่างร่วมใจเฉลิมฉลอง 220 ปี” ขบวนรถบุปผชาติและขบวนพาเหรดจะเริ่มเคลื่อนขบวนเวลา 16.00 น. ไปตามถนนราชดำเนินกลาง โดยมีพิธีเปิดที่ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สิ้นสุดขบวนที่ท้องสนามหลวง และมีอัฒจันทร์สำหรับชมขบวนรถบุปผชาติและขบวนพาเหรด รองรับผู้ชมได้ประมาณ 2,000 คน ตามแนวเส้นทางที่ขบวนผ่านด้วย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ เสด็จทรงเปิดงาน “ฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” เวลา 19.00 น. ที่ท้องสนามหลวง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จทรงเป็นประธานเปิดงาน “ฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” พิธีเปิดจะจัดอย่างยิ่งใหญ่ด้วยแนวคิด “กรุงเทพฯ …นครลอยฟ้า” โดยมีการ ฉายแสงเลเซอร์ วิ่งทั่วท้องฟ้า การฉายภาพพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ 9 รัชกาลในราชวงศ์จักรี การปล่อยบอลลูนขนาดใหญ่ ประกอบแสงสปอตไลต์และกลุ่มหมอกควัน การปล่อย Confetti เกล็ดเงินเกล็ดทอง ซึ่งจะสะท้อนกับแสงเลเซอร์ระยิบระยับทั่วท้องฟ้าสนามหลวง จากนั้นเป็นการแสดงของวงดนตรี Trio ชื่อดังจากประเทศอิตาลี ซึ่งเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อร่วมงานเฉลิมฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์โดยเฉพาะ ชมการแสดงแสง สี เสียง อลังการ 9 รัชสมัย เวลา 20.00 น. ชมการแสดงแสง สี เสียง แสดงวิวัฒนาการกรุงรัตนโกสินทร์ตั้งแต่แรกสร้างกรุงถึงปัจจุบัน โดยมี ภาพพระบรมมหาราชวังอันงามสง่าเป็นฉากหลัง ควบคุมการแสดงโดยยุทธนา มุกดาสนิท จัดเก้าอี้ผู้ชมแบบ Theatre Seat เพื่อความสมบูรณ์แห่งอรรถรสในการชม และเชิญคณะทูตานุทูต คณะรัฐบาล แขกผู้มีเกียรติ มาร่วมรับชม รู้จัก และได้ภูมิใจกับรากฐานอันยาวนานถึง 220 ปีของกรุงรัตนโกสินทร์ สำหรับการแสดงชุดที่ 1 กรุงเทพมหานคร ผู้แสดงอยู่ในชุดสมัยรัชกาลที่ 1 ย้อนอดีตสู่การสร้างเมือง พิธีลงเสาหลักเมือง และสร้างพระบรมมหาราชวัง ชุดที่ 2 บวรรัตนโกสินทร์ ในยุครัชกาลที่ 2 ซึ่งถือเป็นยุคทองของศิลปวัฒนธรรม ชมบางฉากจากละครเรื่อง อิเหนา และสไลด์ มัลติวิชั่น ฉายภาพวัด ศิลปะและผลงานวรรณกรรมของสุนทรภู่ กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ชุดที่ 3 มหินทรายุทธยา เศรษฐกิจของประเทศเจริญมั่งคั่ง มีชาวจีนเข้ามาทำการค้า และไทยได้ส่งเรือสำเภาออกไปค้าขายยังเมืองจีน มีการจุดประทัด และแห่สิงโตร่วมเฉลิมฉลอง ชุดที่ 4 มหาดิลกภพ ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ หมู่ข้าราชบริพารร่วมส่องกล้องดูดาวที่ปรากฏขึ้นระยิบระยับตลอดแนวเวที อารยธรรมตะวันตกเริ่มเข้ามา มีรถลาก รถม้า นำชาวต่างชาติเข้ามายังงานราตรีสโมสรที่พระบรมมหาราชวัง ชุดที่ 5 นพรัตน์ ราชธานี ความเจริญ รุ่งเรืองในสมัยรัชกาลที่ 5 ถ่ายทอดออกมาด้วยภาพรถโบราณแล่นบนถนนราชดำเนิน มีเหล่าทหารสวนสนาม สวนกับกลุ่มไปรษณีย์ และเหล่ากาชาด ย้อนชมภาพเหตุการณ์เปิดขบวนรถไฟขบวนแรก และวันประกาศเลิกทาส มหาชนก้มกราบ แซ่ซ้องสรรเสริญ ชุดที่ 6 บุรีรมย์ ประชาชนแต่งตัวสวยงาม หรูหรา มาชมละครพูดในสมัยรัชกาลที่ 6 เรื่องมัทนะพาธา ตำนานแห่งดอกกุหลาบ ชุดที่ 7 อุดมราชนิเวศน์ มหาสถาน รวมพลังข้าราชการ ทหารและประชาชน เปลี่ยนแปลงการปกครอง กรุงเทพและประเทศไทยก้าวสู่ยุคประชาธิปไตย มีการเฉลิมฉลองอย่างอลังการ ชุดที่ 8 อมรพิมาน อวตารสถิต บ้านเมืองอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียงไซเรน เสียงเครื่องบินและเสียงระเบิด ดังก้องพระนคร ทหารญี่ปุ่นเข้ามามากมายก่อนจะพ่ายถอยกลับไป พร้อมฉายสไลด์พระจริยวัตรของในหลวงรัชกาลที่ 8 ในพระอิริยาบทต่างๆอันน่าประทับใจ ก่อนไฟจะดับลงเหลือเพียงแสงจากพระที่นั่งบรมพิมานและเสียงปืน ชุดที่ 9 สักกะทัตติยะ วิษณุกรรมประสิทธิ์ ภาพบ้านเมืองสมัยปัจจุบัน ภาพรถยนต์ รถไฟฟ้า บทเพลง พระราชนิพนธ์ร้อยเรียงตามยุคสมัย โดยนักร้องดังแห่งยุค ปิดท้ายการแสดงแสง สี เสียง ด้วยการจุดพลุดอกไม้ไฟ สว่างไสวทั่วท้องฟ้า เรียงร้อยประวัติศาสตร์เป็นเรื่องราวในนิทรรศการ “เรื่องเล่า เก้าแผ่นดิน” นอกจากนี้ ที่บริเวณถนนกลางท้องสนามหลวง มีการจัดซุ้มนิทรรศการ “เรื่องเล่า เก้าแผ่นดิน” แสดงพระราชประวัติ 9 รัชกาล และความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง ศิลปวัฒนธรรม งานฝีมือ ฯลฯ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ชมบ้านเรือนไทยสมัย รัตนโกสินทร์ตอนต้น การแต่งกายของบุรุษ สตรี ในยุคนั้น การละเล่นของไทยในยุคโบราณ การสาธิตการทำขนมมงคล “ทองทั้งเก้า” การแสดงดนตรีไทย งานฝีมือ เช่น การร้อยมาลัยอันประณีตวิจิตรบรรจง การทำเครื่องหอม การแกะสลัก และงานศิลปหัตกรรมในยุคปัจจุบัน กรุงเทพมหานครจึงขอเชิญประชาชน เยาวชน สัมผัสความเป็นมาของกรุงรัตนโกสินทร์ เรียนรู้และภาคภูมิใจในความ เป็นไทย และร่วม “ฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” 20 - 25 เม.ย.45--จบ-- -สส-

• ข่าวเกรียงศักดิ์ โลหะชาละ
• ข่าวกรุงรัตนโกสินทร์
• ข่าวพระบรมมหาราชวัง
• ข่าวกรุงเทพมหานคร
• ข่าวศิลปวัฒนธรรม