กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
นู สกิน ชูแนวคิด Extraordinary เป็นแนวรบหลัก พร้อมนำ e-Commerce เข้ามาเสริมธุรกิจของผู้แทนจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบ หวังผู้แทนจำหน่ายไทยขยายเครือข่ายไร้พรมแดน ด้านผลิตภัณฑ์ยังคงตอกย้ำความเป็นเจ้านวัตกรรมเพื่อความงาม
นางเมลิซ่า ทันโทโกะ คีอาโน่ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นู สกิน เพอร์ซันแนล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจขายตรงว่า ธุรกิจขายตรงในปี 2545 น่าจะมีการแข่งขันสูงขึ้น เนื่องจากมีบริษัทใหม่ๆ เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น และผู้บริโภคเองก็มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม จากภาวะที่ยังไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น ประกอบกับผู้บริโภคในปัจจุบันมีความเป็นตัวของตัวเองสูงและมีความต้องการที่หลากหลาย ทำให้แต่ละบริษัทต้องแข่งขันด้านการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด เพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่างให้กับตนเอง
"กลยุทธ์หลักของ นู สกิน ในปี 2545 นี้ คือ การนำแนวคิด Extraordinary มาสร้างชื่อให้กับบริษัทฯซึ่งคำว่า Extraordinary มีความหมายถึงความแตกต่างอย่างเหนือชั้น โดยสามารถขยายความเป็นองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ หรือ 3P's ได้แก่ People (ผู้แทนจำหน่าย) Plan (แผนปันผลตอบแทนทางธุรกิจ) และ Products (ผลิตภัณฑ์) กล่าวคือ ผู้แทนจำหน่าย นู สกิน เป็น Extraordinary People ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจ นู สกิน ส่วนแผนปันผลตอบแทนของ นู สกิน นั้นเป็น Extraordinary Sales Compensation Plan ที่ให้ผลประโยชน์ต่อผู้แทนจำหน่ายสูงสุดและเอื้อโอกาสในการสร้างเครือข่ายทีมงานได้ทั่วโลกเพื่อรับผลตอบแทนที่ไร้ขีดจำกัด ด้านผลิตภัณฑ์ขอ นู สกิน ก็เป็น Extraordinary Products ที่คัดสรรแต่ส่วนผลที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง ไม่มีส่วนผสมเป็นโทษต่อผู้ใช้และมีผลการศึกษายืนยันถึงประสิทธิภาพ ด้วยทีมวิจัยและพัฒนาที่มีประสบการณ์สูงช่วยกำเนิดนวัตกรรมความงามที่ตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ผู้บริโภคทั่วไปยอมรับ"
ในปีที่ผ่านมาฐานของผู้แทนจำหน่ายได้ขยายกว้างขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละกลุ่ม การเปิดศูนย์บริการผู้แทนจำหน่ายในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่และชลบุรี รวมทั้งโปรแกรมสนับสนุนผู้แทนจำหน่ายในหลากหลายรูปแบบ ทำให้มีผู้แทนจำหน่ายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางเมลิซ่ากล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้นำเครื่องมือสนับสนุนธุรกิจในรูปแบบของเว็ปไซท์ส่วนบุคคลของผู้แทนจำหน่าย ในชื่อ My Global Web Page หรือ MyGWP มาเพิ่มช่องทางในการสร้างทีมงานให้กับผู้แทนจำหน่าย และสร้างความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจ ด้วยหน้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาและเรื่องราวเกี่ยวกับผู้แทนจำหน่ายและข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัท จะช่วยให้ผู้แทนจำหน่ายชาวไทยทำธุรกิจ นู สกิน ข้ามชาติได้สะดวกขึ้น ขยายโอกาสในการสร้างธุรกิจของตนได้กว้างขึ้น และเป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อและเปลี่ยนข่าวสารระหว่างผู้แทนจำหน่ายกับดาวน์ไลน์หรือผู้มุ่งหวัง
สำหรับด้านผลิตภัณฑ์ ในปี 2545 นี้ นู สกิน จะยังคงเน้นทำตลาดผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพอร์ซันแนล แคร์, กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซีออน โดยแบ่งสัดส่วนเป็น 60:35:5 และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อความงาม ในปีนี้ นู สกิน จะมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แนวคิด "นูทริเซนเชี่ยล (Nutricentials)" ซึ่งเป็นการคิดค้นเฉพาะของ นู สกิน ในการนำสารอาหารจากธรรมชาติมาเป็นคุณค่าบำรุงผิวและผลจากภายนอกสู่ภายใน (From the outside in) โดยในปีนี้ผ่านมาก็ได้แนะนำผลิตภัณฑ์บางรายเข้าสู่ตลาดแล้ว ได้แก่ ชุดดูแลและจัดแต่งทรงผม นอกจากนี้ยังจะนำสินค้าเด่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ (Innovative Products) และตอบรับกับยุคเฟื่องของสปาซาลอน ด้วยชุด กัลวานิค สปา ซิสเต็ม (Galvanic Products) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำงานร่วมกับเซรุ่มในการฟื้นฟูของสภาพผิวที่เหนื่อยล้า ให้กลับสดใส เปล่งปลั่ง ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีให้ผลเช่นเดียวกับการเข้าสปาซาลอน แต่ผู้ใช้สามารถทำได้เองง่ายๆที่บ้าน
ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพื้นฐานที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนมียอดขายสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คือ ไลฟ์แพ็ก ในโตรมาสแรกจะได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ คอร์ดีแม็กซ์ (CordyMax) ที่ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ลดอาการเหนื่อยล้าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดแดงและปอด ซึ่งวางกลุ่มเป้าหมายไว้ที่คนทำงานที่ต้องคร่ำเครียดและทำงานหนัก รวมทั้งผู้ที่รักกีฬาและการออกกำลังกาย
นางเมลิซ่ากล่าวต่อถึงทิศทางของ นู สกิน ในปี 2545 ว่าในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 15% จากปีที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญยังคงมาจากการส่งเสริมการขายด้วยโปรโมชั่นต่างๆ กิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มจำนวนศูนย์บริการผู้แทนจำหน่ายในต่างจังหวัดและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทุกไตรมาส ซึ่งยอดขายหลักยังคงมาจากผลิตภัณฑ์สำคัญ เช่น นู สกิน 180 องศา และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไลฟ์แพ็กนั่นเอง
"สำหรับโครงการ Force For Good หรือ พลังแห่งความดี ตามปณิธานของการเป็นพลังแห่งความดี นู สกิน ประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนทุนค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดหัวใจเด็ก โรงพยาบาลราชวิถี และได้บริจาคเงินเป็นจำนวนกว่า 3,000,000 บาท ซึ่งสามารถช่วยการผ่าตัดหัวใจเด็กไปแล้วกว่า 1,000 รายและล่าสุดได้บริจาคเครื่อง Nitric Oxide Delivery System มูลค่า 1,200,000 บาทให้กับมูลนิธิฯ เพื่อเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับช่วยเหลือเด็กผู้ป่วยที่มีอาการความดันปอดเทียมให้กับมูลนิธิฯ ซึ่งกองทุนนี้จะทำงานร่วมกับมูลนิธิเพื่อการสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็กต่อไป" นางเมลิซ่ากล่าวในที่สุด
ทางด้านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดนั้น นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ทาง นู สกิน ยังคงเน้นการประชาสัมพันธ์องค์กรและผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังจัดเตรียมงบประมาณในส่วนของการจัดโปรโมชั่นต่างๆ สำหรับผู้แทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นด้วยโดยปีนี้กิจกรรมหลักเพื่อส่งเสริมการขายอยู่ที่ การจัดงานครบ 5 ปีของ นู สกิน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Extraordianry Nu Skin 2002 และการจัด Product Expo ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ศุภาดา ใจดี , เหมือนฝัน นิลคูหา
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์จำกัด
โทร. 0-2693-7835-8 หรือ 0-2276-8432-3
หรือ วรีรัตน์ ธนะนพรัตน์, วัชรา บุญมา
บริษัท นู สกิน เพอร์ซันแนล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2937-9900--จบ--
-ปส-