กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค ประเทศไทย
หุ้นของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้เป็นวันแรก ผู้บริหารมั่นใจนโยบายการบริหารและบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น
นายนิวัฒน์ บุญทรง รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บริษัทฯมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การซื้อ-ขายหุ้นของบริษัทฯ ในวันแรกเป็นไปอย่างราบรื่น บริษัทฯ มั่นใจว่าโอกาสในการเจริญเติบโตก้าวหน้าของบริษัทมีสูง ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ ประการ อาทิ ไอทีวี เป็นธุรกิจสื่อทีวีที่มีการเติบโตสูงกว่าธุรกิจสื่อประเภทอื่นๆ และสูงกว่าอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ การที่มีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้น้อยราย ส่งผลให้การแข่งขันไม่รุนแรงนัก อีกทั้งกฎหมายใหม่ที่มุ่งให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรมซึ่งจะส่งผลให้ไอทีวีได้รับความเสมอภาคในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ คือการที่กลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่น ให้การสนับสนุนและส่งเสริมไอทีวีในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านการบริหาร การจัดการ เทคโนโลยี ซึ่งการทำธุรกิจที่เชื่อมโยงกันระหว่างธุรกิจโทรทัศน์และธุรกิจโทรนาคม จะมีการเจริญเติบโตสูงในอนาคต ทั้งไอทีวีและกลุ่มชินคอร์ปฯ ต่างเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการได้ดีและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง"
"ไอทีวี มีแนวโน้มของผลประกอบการดีขึ้น ขณะที่การลงทุนในการขยายเครือข่ายสถานีจะมีน้อยมาก รายจ่ายส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายคงที่ มีเพียงรายจ่ายทางด้านรายการเท่านั้น ที่ทางไอทีวีจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นรายจ่ายที่จะทำให้ไอทีวีสามารถหารายได้กลับเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของรายได้นั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ระบบการวัดเรตติ้งจะได้รับการพัฒนาให้มีความโปร่งใส ถูกต้อง และแม่นยำมากยิ่งขึ้น ไอทีวีมั่นใจว่าเรตติ้งของสถานีจะสอดคล้องกับพฤติกรรมการรับชมของผู้ชมไอทีวีมากขึ้น ประกอบกับการได้รับสิทธิแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก 2002 และรายการวิเคราะห์เกมการแข่งขันต่างๆ ทำให้มีผู้ชมซื้อเสาอากาศทีวี UHF เป็นจำนวนมาก เพื่อให้สามารถรับชมไอทีวีได้ชัดเจนขึ้น มีผลให้เรตติ้งของไอทีวีสูงขึ้น นั่นหมายความว่า ไอทีวีจะมีรายได้จากค่าโฆษณาจะสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ อัตราค่าโฆษณาทางไอทีวีที่ยังคงมีราคาต่ำ และช่วงเวลาที่ไอทีวีจะขายโฆษณาได้ยังมีอีกมาก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ไอทีวีมีแนวโน้มหารายได้เพิ่มมากขึ้น"
และด้วยศักยภาพของไอทีวี ที่เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งเดียวที่แพร่ภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลที่นำสมัย มีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ถึง 97% ของประชากรทั้งหมด ผ่านเครือข่าย 45 สถานีทั่วประเทศ ทำให้ไอทีวีสามารถนำศักยภาพนี้มาประยุกต์ใช้กับความต้องการของตลาด ด้วยการนำเสนอบริการเสริมใหม่ๆ ที่ต่างไปจากสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ เช่น ระบบการออกอากาศแยกตามภูมิภาค ส่งผลให้ผู้ประกอบการตามภูมิภาคต่างๆ สามารถเลือกไอทีวีเป็นช่องทางในการลงโฆษณาแยกตามภูมิภาค ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการลงโฆษณาสินค้าออกอากาศทั่วประเทศ รวมถึงบริการแพร่ภาพข่าวไอทีวีผ่านโทรศัพท์มือถือระบบ GPRS และอินเตอร์เน็ต ซึ่งทำให้ผู้ใช้บริการสามารถชมข่าวสารของไอทีวี ทั้งปัจจุบันและย้อนหลัง ไอทีวีเชื่อมั่นว่าบริการเสริมนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากและช่องทางในการหารายได้อีกช่องทางหนึ่ง
"บริษัทฯ มั่นใจว่าผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ จะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และตรวจสอบได้ บริษัทฯ มีแนวทางการบริหารงานบนหลักบรรษัทภิบาล (Good Corporate Governance) ที่เน้นการทำงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและจะรายงานผลการดำเนินการต่อตลาดฯทุก 3 เดือน ตามข้อบังคับของตลาดฯ
"คณะผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ขอให้สัญญาว่าจะดำเนินการบริหารบริษัทฯ ให้ดีที่สุด มีประสิทธิภาพ ภายใต้ปณิธานและความมุ่งมั่นในการเป็นสถานีโทรทัศน์ที่มีคุณภาพในการเสนอข่าวสารภายใต้จิตสำนึกของความถูกต้อง มีจริยธรรม พร้อมทั้งนำเสนอสาระและสิ่งบันเทิงที่มีประโยชน์ สร้างเสริมคุณภาพชีวิตและสังคมของไทย"
"ในนามของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) และพนักงาน ผมขอขอบพระคุณประชาชนและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ให้ความสนใจ ติดตามข่าวสารและเชื่อมั่นในบริษัทฯ จนทำให้การกระจายหุ้นของบริษัทฯประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สมดังเจตนารมย์ของบริษัทฯ" นายนิวัฒน์ บุญทรง กล่าวสรุป
บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ทำการกระจายหุ้นทั้งหมด 320 ล้านหุ้น โดยเสนอขายให้นักลงทุนสถาบัน 95 ล้านหุ้น เสนอขายผ่านผู้จัดจำหน่าย 180 ล้านหุ้น และขายให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 45 ล้านหุ้น หลังการกระจายหุ้น สัดส่วนของผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทฯ ประกอบด้วย บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 55 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 14 ผู้ถือหุ้นทั่วไป ร้อยละ 28 และอื่นๆ ร้อยละ 3 บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2545 ในชื่อของ "ITV"
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :
เวเบอร์ แชนด์วิค ประเทศไทย โทรศัพท์ 0-2257-0300
- นิธิกานต์ ธรรมพุฒิพงศ์ ext. 332 (email:
[email protected])
- กัณฑิชา บุญโพธิ์แก้ว ext. 333 (email:
[email protected])--จบ--
-อน-