กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--อาซิแอม เบอร์สัน มาร์สเตลเลอร์
                                                                                                                            
                                                                                                                                    ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทยจัดทำโครงการห้องเรียนไอทีมูลค่า 5.5 ล้านบาท หรือ 125,000 เหรียญสหรัฐ มอบให้แก่โรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม ซึ่งเป็น  โครงการนำร่องแห่งแรก โครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย และองค์การยูไนเต็ด เวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ขณะนี้ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง   ห้องเรียนและจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียน      การสอน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤษภาคม 2545 
                                                                                                                                    "โครงการดังกล่าวเป็นการยืนยันในเจตนารมณ์ของธนาคารที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยระยะยาว และยังเป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจจริงของธนาคารที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรบุคคลของไทยให้มีศักยภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยในระยะยาว ในปีนี้ธนาคารได้ริเริ่ม "โครงการห้องเรียนไอทีซิตี้แบงก์" (Citibank IT Classroom)  โดยได้กำหนดเป้าหมายให้สอดรับกับนโยบายปฏิรูปการศึกษาของไทยที่เน้นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เป็นเครื่องมือพัฒนาการเรียนการสอน ซึ่งธนาคารซิตี้แบงก์ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี   สารสนเทศและนวัตกรรมอย่างกว้างขวาง  ดังนั้นโครงการห้องเรียนไอทีจึงเป็นความภาคภูมิใจของธนาคารที่สามารถนำเอาจุดแข็งของธนาคารมาผสานเป็นโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ของเด็กไทยในยุคเศรษฐกิจใหม่"  นายเทอเรนซ์ คัดไดร์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าว
                                                                                                                                    สำหรับ โครงการห้องเรียนไอทีได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2544 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับโรงเรียนระดับมัธยมที่มีงบประมาณจำกัด  ด้วยการสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอร์ฟแวร์ รวมทั้งอินเทอร์เน็ต ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และเป็นการสรรค์สร้างโลกทัศน์ของนักเรียนไทยให้กว้างไกลยิ่งขึ้น  ซึ่งจะเป็นการช่วยลดช่องว่างทางดิจิตอลของเด็กไทยให้ลดน้อยลง นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ให้คำแนะนำแก่บุคคลากรของโรงเรียนในการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้การเรียนรู้ภายในห้องเรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด 
                                                                                                                                    ทั้งนี้ ซิตี้แบงก์ ได้ดำเนินการคัดเลือกโรงเรียนรัฐบาลจำนวนกว่า 30 แห่งตามคำแนะนำของกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในที่สุดคณะกรรมการได้พิจารณาให้โรงเรียนยานนาเวศวิทยาคมเป็นโรงเรียนนำร่องของโครงการห้องเรียนไอที    
                                                                                                                                    ธนาคารซิตี้แบงก์เป็นผู้สนับสนุนสร้างต้นแบบห้องเรียน และจัดสร้างห้องเรียนไอทีให้กับโรงเรียนยานนาเวศวิทยาคมอย่างเต็มรูปแบบ โดยพื้นฐานการออกแบบจะเน้นที่ความเรียบง่าย สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานเพื่อการเรียนรู้ได้สูงสุด ประหยัดพลังงาน และบำรุงรักษาง่ายและสามารถทำได้ด้วยตนเอง  
                                                                                                                                    นอกจากนี้ ซิตี้แบงก์ยังได้วางแผนมอบอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับห้องเรียนไอที อาทิ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ ที่มีหน่วยประมวลผลเพนเทียม ทรี ซีออน ความเร็ว 1GHz พร้อมหน่วยความจำขนาด 256 เมกะไบต์ ฮาร์ดดิสก์ ความจุ 18.2GHz จำนวน 2 ตัว ที่ใช้เทคโนโลยีแบบ Hot Plug ซึ่งสามารถถอดปลั๊กออกระหว่างทำงานเพื่อป้องกันเครือข่ายล่ม รวมทั้ง คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจำนวน 50 เครื่อง โดยมีหน่วยความจำขนาด 128 MB ฮาร์ดดิสก์ความจุ 20GB สนับสนุนการทำงานแบบกราฟฟิก และออดิโอ พร้อมอุปกรณ์ชุดหูฟังสำหรับทุกเครื่อง ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ไมโครซอฟต์ วินโดว์ส เอ็กซ์พี  ระบบเครือข่ายแลน ความเร็วระดับ 100MB ต่อวินาที  พร้อมทั้งเครื่องพิมพ์ความเร็วสูง 2 เครื่อง และเครื่องสแกนเนอร์ 1 เครื่อง นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งระบบป้องกันไวรัส เพื่อรักษาความปลอดภัยในกรณีที่มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายยูนิเน็ตและอินเทอร์เน็ต  
                                                                                                                                    ธนาคารซิตี้แบงก์ ได้มุ่งเน้นให้การสนับสนุนกิจกรรมด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง  ภายใต้แนวคิดธนาคารเพื่อการศึกษา "Banking on Education" โดยที่ผ่านมาซิตี้แบงก์  ได้ดำเนินโครงการพัฒนาโรงเรียน เพื่อช่วยเหลือด้านการเงิน อุปกรณ์การเรียน และโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่โรงเรียนรัฐบาลที่ขาดแคลนงบประมาณ ซึ่งในปี 2544 คณะกรรมการสาธารณประโยชน์ของซิตี้แบงก์ได้อนุมัติเงินสนับสนุนจำนวน 1,371,544 บาท สำหรับโครงการพัฒนาโรงเรียนจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1) โรงเรียน ตชด.บ้านต้นมะม่วง จังหวัดกาญจนบุรี  2) โรงเรียนวัดประชานาถ จังหวัดนครปฐม  3) โรงเรียนชมนิมิตร จังหวัดสมุทรปราการ  4) โรงเรียนชุมชนสาขลา จังหวัดสมุทรปราการ 5) โรงเรียนคลองสวน จังหวัดสมุทรปราการ และ6) โรงเรียนโพสพผลเจริญ จังหวัดปทุมธานี
                                                                                                                                    นอกจากนี้ ซิตี้แบงก์ยังได้จัดโครงการทุนการศึกษา ซึ่งในระหว่างปี 2542-2543  ธนาคารซิตี้แบงก์ได้จัดสรรเงินจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาจำนวน 100 ทุน แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 3 และปีที่4 ของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐ 5 แห่ง เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่ครอบครัวประสบปัญหาจากวิกฤติเศรษฐกิจให้สามารถเรียนต่อไปจนจบการศึกษาอย่างราบรื่น ในปี 2544  ธนาคารซิตี้แบงก์ ร่วมกับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยจัดโครงการทุนการศึกษาซิตี้แบงก์ โดยได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 190 ทุน มูลค่า 1.5 ล้านบาท แก่นักเรียนที่ยากจนตั้งแต่ระดับมัธยมต้นจนถึงระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ รวมทั้งจัดให้มีโครงการค่ายการศึกษาและพัฒนาเยาวชนสำหรับนักเรียนทุนของซิตี้แบงก์กว่า 100 คน เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และโครงการบริจาคเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์แก่โรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย
                                                                                                                                    ธนาคารซิตี้แบงก์ ได้เริ่มดำเนินธุรกิจการธนาคารในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2528 ปัจจุบัน ธนาคาร ซิตี้แบงก์เปิดให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรคือ บุคคลธนกิจ สถาบันธนกิจ และธนบดีธนกิจ  ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 ธนาคารมีสินทรัพย์มูลค่ามากกว่า 107,123 ล้านบาท  ปัจจุบัน นายเทอเรนซ์ คัดไดร์ ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการใหญ่ และนาย บีที เลา ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการใหญ่สายบุคคลธนกิจ
                                                                                                                                    ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
                                                                                                                                    พรทิพย์ เลิศเวชกุล /  สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์
                                                                                                                                    บริษัท อาซิแอม เบอร์สัน มาร์สเตลเลอร์ จำกัด 
                                                                                                                                    โทร. 0 252 9871-7
                                                                                                                                    อีเมลล์ 
[email protected] จบ--
                                                                                                                            
                                                                                                                            -อน-