กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--บีโอไอ
บีโอไอประสบความสำเร็จในการแสวงประโยชน์จากเครือข่ายพันธมิตร หลังจับมือธนาคาร UFJ ของญี่ปุ่นได้ 6 เดือน มีเงินไหลเข้ากว่า 2,200 ล้านบาท จากโครงการลงทุน 34 โครงการ คาดจะมีการลงทุนเพิ่มอีกร่วม 100 โครงการ เตรียมขยายเครือข่ายไปยังธนาคารในกลุ่มสหภาพ ยุโรป
นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่า จากที่บีโอไอได้ดำเนินนโยบายการตลาดเชิงรุก โดยการสร้างเครือข่ายสถาปนาพันธมิตรกับกลุ่มธนาคารยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่องนั้น ขณะนี้เริ่มเห็นผลแล้ว โดยบีโอไอร่วมกับกลุ่มธนาคาร UFJ ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มธนาคารที่เกิดจากการรวมกลุ่มของธนาคารซันวาและธนาคารโตไก ได้รณรงค์ส่งเสริมการลงทุนในตลาดญี่ปุ่นตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยได้จัดกิจกรรมสัมมนาเพื่อชักจูงการลงทุนถึง 42 ครั้ง ปรากฎว่ามีนักลงทุนแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนรวม 133 ราย และในจำนวนนี้มี 34 ราย ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่เหลือจำนวน 44 ราย ได้มาหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมกับบีโอไอ นอกจากนี้อีก 7 รายได้ไปใช้บริการของศูนย์สนับสนุนธุรกิจในประเทศไทยของ JETRO ทั้งนี้ในอนาคตอันใกล้ คาดว่าจะมีนักลงทุนมาลงทุนเพิ่มอีก 99 ราย
ผลของกิจกรรมร่วมระหว่างบีโอไอ และ UFJ ได้มีเงินทุนจากประเทศญี่ปุ่นไหลเข้าไทยแล้วประมาณ 2,200 ล้านบาท และขณะนี้บีโอไอ และ UFJ กำลังติดตามผลของนักลงทุนญี่ปุ่นที่เข้าร่วมการสัมมนา เมื่อครั้งบีโอไอจัดคณะไปโรด์โชว์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาอีก 80 ราย อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
นายสมพงษ์กล่าวว่าผู้บริหารของ UFJ ประจำประเทศไทยซึ่งดูแลการลงทุนจากญี่ปุ่นได้ให้ความเห็นว่าปัจจุบันขั้นตอนการขอรับส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ มีความรวดเร็วขึ้น และการชักจูงการลงทุนแบบถึงตัวนักลงทุนที่สำนักงานบีโอไอ ทำร่วมกับธนาคาร UFJ ในช่วงที่ผ่านมาก็นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
หลังจากประสบผลสำเร็จในการสร้างเครือข่ายกับกลุ่มธนาคารชั้นนำของญี่ปุ่นแล้ว บีโอไอจะเริ่มรุกสู่การสร้างพันธมิตรกับกลุ่มธนาคารในสหภาพยุโรป โดยจะเริ่มจากธนาคารเครดิต อะกริกอล อินโดสุเอซ ของประเทศฝรั่งเศสก่อน และจะลงนามความร่วมมือในวันนี้ (30 ก.ค. 2545) โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กับนาย Christian Prettre เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน นายสมพงษ์ กล่าว--จบ--
-ศน-