Nu-Encap (นิว-เอ็นแค๊ป) นวตกรรมใหม่ของระบบการนำพาสารเข้าสู่ผิว (Delivery System)

กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--แพนคอสเมติกส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นที่ทราบกันดีว่า ยาหรือเครื่องสำอางที่ใช้สำหรับทาผิวหนังที่ดีนั้นนอกจากต้องผ่านการคัดเลือกสารสำคัญ (Active Ingredient) หรือตัวยาที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงแล้วยังจำเป็นต้องคำนึงถึงคุณลักษณะและกลไกในการดูดซึมหรือการนำพาสารเข้าสู่ใต้ผิวหนังของคนเราที่ดีด้วย เพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้บริโภค ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน วงการแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้มุ่งมั่นคิดค้นพัฒนาวิธีการใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของยาหรือเครื่องสำอางโดยเน้นการพัฒนาที่กลไกในการดูดซึมหรือการนำพาสารเข้าสู่ใต้ผิวหนังให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก็ยังพบว่ามีข้อจำกัดและปัญหาสำคัญๆ อยู่หลายประการซึ่งพอสรุปได้ดังนี้ 1.ตัวยาหรือ Active Ingredient หลายชนิดไม่สามารถผสมผสานเข้ากันได้(Incompatibility) เนื่องจากจะทำให้ประสิทธิภาพของตัวยานั้นๆลดลงหรือเสื่อมสภาพทำให้ไม่สามารถพัฒนาสูตรตัวยาหรือเครื่องสำอางที่ให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ 2.ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากปัญหาผิวหนังบางชนิดจำเป็นต้องให้การดูแลหรือรักษาโดยการเพิ่มความเข้มข้นของตัวยาหรือ ActiveIngredient ในปริมาณที่สูงขึ้นเพื่อหวังผลการรักษาที่ดีขึ้น ซึ่งทำให้มีโอกาสก่อให้เกิดผลข้างเคียง (Side-effect) ที่สูงขึ้นตามมาด้วย 3.เทคโนโลยีในอดีตยังไม่สามารถผลิตยาหรือเครื่องสำอางที่ใช้ในการดูแลรักษาปัญหาผิวหนังได้มากกว่า 1 ปัญหาในผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกันทำให้ผู้บริโภคต้องซื้อใช้ผลิตภัณฑ์หลายๆ ชนิด ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอีกทั้งยังไม่สะดวกต่อการใช้อีกด้วย 4.ประสิทธิภาพของความคงทนในการออกฤทธิ์ของตัวยาหรือ Active Ingredient ที่ด้อยลง เพราะตัวยาหรือ Active Ingredient โดยทั่วไปจะมีคุณสมบัติของความคงทนในการออกฤทธิ์ที่ค่อยๆ ลดลงตามธรรมชาติ ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการรักษาด้อยลงทั้งยังมีผลต่ออายุของผลิตภัณฑ์อีกด้วย จากข้อจำกัดข้างต้น คณะแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันไบโอไฟล์แห่งประเทศไทยร่วมกับ สถาบันค้นคว้าวิจัย Biophile U.S.A. และ Quality Research Laboratory,FL, U.S.A. ได้ค้นคว้าและวิจัยมาเป็นเวลากว่า 3 ปีจนสามารถพัฒนาระบบการนำพาสารเข้าสู่ผิวหนัง (Delivery System)โดยผสมผสานกันทั้งระบบที่ใช้ผลิตครีมหรือผลิตภัณฑ์ทั่วๆ ไป (Conventional)และระบบการผลิตที่บรรจุสารเข้าไปในอนูเล็กๆ ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า(Microencapsulation) เช่น ไลโปโซม (Liposome)เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการดูดซึม พร้อมกับลดปริมาณความเข้มข้นของตัวยาหรือ Active Ingredient ซึ่งนวตกรรมใหม่ของระบบการนำพาสารเข้าสู่ผิวนี้ เรียกว่า“Nu-Encap ” โครงสร้างหลักของ Nu-Encap ประกอบด้วย 1.Multi-encapsulation คือ การนำตัวยาหรือ Active Ingredient เข้าบรรจุในเม็ดใส“คริสตัลบีด” (Crystal Bead) 2.Moisturizing Vehicle คือ เจลที่มีหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวและการคงสภาพของคริสตัลบีดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ นวตกรรมของ Nu-Encap จะนำมาซึ่งผลประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภคอย่างไร? 1.ด้านความปลอดภัย ** ผลข้างเคียงลดลง เนื่องจากสามารถลดปริมาณความเข้มข้นของตัวยาหรือ Active Ingredient ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ลงได้ถึง 5-10 เท่า ในขณะที่ผลของการรักษาสูงขึ้นหรือเท่าเดิมนั้น ทำให้ผลข้างเคียงหรือข้อแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นลดลงด้วย 2.ด้านประสิทธิภาพ 2.1 ทำให้ตัวยาหรือ Active Ingredient สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดีขึ้น 2.2 ตัวยาหรือ Active Ingredient มีความคงทนในการออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพขึ้น 2.3 สามารถรักษาปัญหาผิวหนังได้มากกว่า 1 ปัญหาในผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกัน 3.ด้านความรู้สึก 3.1 ให้ความรู้สึกถึงความเรียบเนียน และนุ่มนวลของผิวตามธรรมชาติด้วยคุณสมบัติของเจลที่อ่อนโยนต่อผิว ที่ช่วยคงความสมดุลย์ของผิวช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นผิว พร้อมทั้งป้องกันการสูญเสียน้ำให้แก่ผิว 3.2 มีความสะดวกในการใช้เพิ่มขึ้น การค้นพบ Nu-Encap นวตกรรมใหม่ของระบบการนำพาสารเข้าสู่ผิว (Delivery System)ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นวิวัฒนาการที่ก้าวรุดหน้าครั้งใหญ่ครั้งสำคัญต่อวงการแพทย์ผิวหนังและวงการเครื่องสำอางซึ่งจะเป็นจุดกำเนิดของการบุกเบิกและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน…ในอนาคตอันใกล้--จบ-- -นห-

• ข่าวอินเตอร์เนชั่นแนล
• ข่าวเครื่องสำอาง
• ข่าวแพนคอสเมติก
• ข่าววิทยาศาสตร์
• ข่าวความปลอดภัย