มูลนิธิโรคข้อฯ จัดงานใหญ่ "โรคข้อสากลปี 2545" ร่วมรณรงค์ลดจำนวนผู้ป่วย และความสูญเสียทางเศรษฐกิจ

23 Sep 2002

กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส

มูลนิธิโรคข้อ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จะจัดงานใหญ่ประจำปี "วันโรคข้อสากล 2545" เพื่อร่วมรณรงค์ให้คนไทยรู้จักป้องกันตนเองให้ห่างจากโรคข้อ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับ 4 สมาคมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคข้อทุกสาขา จัดบรรยายให้ความรู้และคำปรึกษาแก่ผู้สนใจที่ไปร่วมงานในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 11-12 โรงพยาบาลราชวิถี ตั้งแต่เวลา 8.30 -16.00 น.

"วันโรคข้อสากล" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "ทศวรรษโรคกระดูกและข้อ" ที่องค์การสหประชาชาติ และนานาชาติ 34 ประเทศให้การสนับสนุน เพื่อดำเนินกิจกรรมรณรงค์ระหว่างปี 2543-2553 เพราะขณะนี้มีผู้ป่วยหลายร้อยล้านราย

และคาดว่าในอีก 10 ปี คนทั่วโลกอายุยืนขึ้น คนอายุเกิน 50 ปีจะเป็นโรคข้อเพิ่มอีกจำนวนเท่าตัว

นพ.พงษ์ศักดิ์ วัฒนา ประธานมูลนิธิโรคข้อฯ กล่าวว่า ความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและกระดูก ได้แก่ โรคข้อต่างๆ โรคกระดูกพรุน โรคข้อเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคปวดหลัง โรคเกาต์ โรคลูปุส ความผิดปกติของสันหลัง อุบัติเหตุอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นกับแขนและขา โรคและอาการเหล่านี้ได้เกิดขึ้นในหลายร้อยล้านคนทั่วโลก และจะเพิ่มเป็นเท่าตัวในปี 2020 ตามการคาดการณ์ของ โครงการ "ทศวรรษโรคกระดูกและข้อ" ตัวอย่างเช่น โรคปวดหลังจะกลายเป็นสาเหตุการหยุดงานอันดับสอง หรือประเทศกำลังพัฒนาจะเสียงบประมาณ 25 % ในการรักษาผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุ ฯลฯ

เป้าหมายของ "วันโรคข้อสากล" และ "ทศวรรษกระดูกและข้อ" มี 4 ประการคือ ให้สังคมตระหนักถึงภาระที่เกิดจากโรคข้อ ร่วมกันให้กำลังใจในด้านการรักษาแก่ผู้ป่วยโรค ส่งเสริมการป้องกันและรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้มีการวิจัยในแง่ของการป้องกันและรักษาโรคอย่างลึกซึ้ง

"คนไทยส่วนมากไม่เข้าใจ และไม่รู้วิธีการรักษาและดูแลตนเองอย่างถูกต้องเกี่ยวกับโรคข้อ จึงทำให้สถิติของผู้ป่วยโรคข้อมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี "

ภาวการณ์โรคกระดูกและข้อในไทยเองก็ได้สร้างความทุกข์ทรมานให้กับหนุ่มสาว และผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก เพราะเป็นโรคเรื้อรังและใช้เวลาในการรักษานานทำให้สูญเสียแรงงาน และเศรษฐกิจของประเทศ โรคนี้ไม่ทำให้เสียชีวิตทันที แต่ทำให้ผู้ป่วยทุพพลภาพ และก่อโรคแทรกซ้อนได้ถ้าได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง การศึกษาวิจัยของไทยพบว่าคนไทย 44% เป็นโรคข้อเสื่อมชนิดต่างๆ คือ โรคข้อเข่าเสื่อม นพ.พงษ์ศักดิ์ กล่าว

"เมื่อเป็นโรคกระดูกและข้อ ต้องตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียด เพราะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ รวมทั้งการใช้อิริยาบถในชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสม ตั้งแต่วัยเด็ก หนุ่ม สาว ดังนั้นการจะป้องกันและหลีกเลี่ยงจากโรคนี้ ประชาชนต้องตระหนักและเสาะหาความรู้เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติในชีวิตประจำวันด้วย เพื่อลดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา" นพ.พงษ์ศักดิ์ กล่าวและเสริมว่า

มูลนิธิโรคข้อฯ ซึ่งก่อตั้งโดยความร่วมมือของ แพทย์ อายุรศาสตร์โรคข้อ ศัลยแพทย์โรคกระดูก แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และแพทย์ศัลยกรรมทางมือ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ได้จัดงาน "วันโรคข้อสากล ปี 2545" โดยจัดให้มีการบรรยายและ ตอบปัญหา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคข้อ แต่ละสาขาอย่างครบถ้วน มีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย เพื่อเป็นการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคกระดูกและข้อ ทั้งในด้านการปฏิบัติตัวและการรักษาที่ถูกต้อง ในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2545 ที่ห้องประชุมชั้น 11-12 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลราชวิถี

"ตลอดระยะเวลาที่มูลนิธิโรคข้อฯได้ก่อตั้งขึ้นมานาน 14 ปี คณะกรรมการได้เดินทางไปพบปะประชาชน และบรรยายให้ความรู้แก่สมาชิกและผู้สนใจทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทุกภาค และได้กำหนดให้มีการสัมมนาครั้งใหญ่ปีละครั้งทุกปี สำหรับปีนี้เราได้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จึงขอเชิญสมาชิกและผู้สนใจเข้าร่วมงานเพื่อศึกษาหาความรู้และหลีกหนีให้ห่างไกลจากโรคข้อ" นพ.พงษ์ศักดิ์ กล่าวสรุป

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียด และสำรองที่นั่ง โทร 02 665 4621 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือที่เว็บไซต์ www.Thaiarthritis.org ขอเชิญสมัครเป็นสมาชิกมูลนิธิโรคข้อฯ ได้ในบริเวณงานดังกล่าว หรือส่งจดหมายไปที่ ตู้ ป.ณ. 2513 กรุงเทพ 10500

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ :

คุณปองปรัชญ์ สุโรจนะเมธากุล

คุณบุษบา สุขบัติ

คุณกุนธิรา ณัฐวัฒนานนทน์

บริษัท พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด

โทร. 0-2651-8989 ต่อ 330, 222, 223

แฟกซ์ 0-2651-9649

e-mail : [email protected] จบ-- -ศน-