กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--กรมประชาสัมพันธ์
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศปรับอัตราค่าบริการด้านกงสุล ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน ศกนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลต่อค่าบริการด้านกงสุลทุกประเภทที่ได้รับจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และสถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐในต่างประเทศ ส่วนการปรับอัตราค่าบริการเกี่ยวกับหนังสือเดินทางนั้น จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 สิงหาคม ศกนี้ การปรับอัตราค่าบริการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่แท้จริงในการให้บริการ
กฎหมายและระเบียบข้อบังคับของรัฐบาลกลางกำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศเรียกเก็บค่าบริการด้านกงสุลส่วนใหญ่จากผู้ขอบริการเพื่อนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายอย่างเพียงพอ และต้องปรับอัตราค่าบริการเป็นระยะๆ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดดังกล่าว
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐประกาศปรับอัตราค่าบริการครั้งใหญ่ล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2541 อัตราค่าบริการใหม่นี้เป็นผลจากการศึกษาโดยบริษัทเอกชนภายใต้การดูแลของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งแสดงถึงค่าใช้จ่ายในการให้บริการด้านกงสุลในปี พ.ศ.2545 การปรับอัตราค่าบริการใหม่นี้จำเป็นต่อการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ และในขณะเดียวกันก็ทำให้เราสามารถนำความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ให้เป็นประโยชน์และปรับปรุง แง่มุมในการให้บริการซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในประเทศ
อัตราค่าบริการสำหรับผู้ขอวีซ่าชั่วคราวจะปรับจาก 45 ดอลลาร์เป็น 65 ดอลลาร์ เงินจำนวนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการให้บริการ รวมทั้งค่าวีซ่าที่อ่านได้ด้วยเครื่อง (Machine Readable Visa) และค่าใช้จ่ายในกระบวนการตรวจสอบชื่อ (name-check) ซึ่งใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ส่วนอัตราค่าบริการในการขอวีซ่าถาวรจะปรับจาก 325 ดอลลาร์เป็น 335 ดอลลาร์ ค่าบริการสำหรับชาวอเมริกันในต่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงดังนี้ ค่าบริการในการออกใบเกิดสำหรับเด็กอเมริกันที่เกิดในต่างประเทศ (Consular Report of Birth Abroad) จะปรับจาก 40 ดอลลาร์เป็น 65 ดอลลาร์ ค่ารับรองเอกสารจะปรับลดลงจากเดิมที่มีเพียงอัตราเดียวคือ 55 ดอลลาร์ กลายเป็นสองอัตราคือ 20 และ 30 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับบริการที่ให้
รายละเอียดเกี่ยวกับการปรับอัตราค่าบริการใหม่นี้ตีพิมพ์ในทะเบียนแจ้งความของรัฐบาลกลาง (Federal Register) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา และประกาศใช้เป็นทางการเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม--จบ--
-สส-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit