3 บริษัทเผยเคล็ดลับสู่เส้นทางบรรษัทภิบาลดีเด่น

กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ บริษัท ผลิตไฟฟ้า และธนาคารกสิกรไทย รับรางวัลการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการในระดับ "ดีถึงดีมาก" เผยมีการสร้างกลไกที่ให้ความเท่าเทียมและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้ถือหุ้นอย่างครบถ้วน ในขณะที่คณะกรรมการและคณะผู้บริหาร ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ รอบคอบ รักษาผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นหลัก รวมถึง มีการเปิดเผยสารสนเทศอย่างครบถ้วน และยังสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างยั่งยืน นายวรภัทร โตธนะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเรตติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด กล่าวในพิธีแสดงความยินดีกับบริษัทจดทะเบียน 3 แห่ง ที่เข้าร่วมการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการที่ดี และได้รับคะแนนสูงกว่า 7 คะแนน ซึ่งอยู่ในระดับ "ดีถึงดีมาก" ว่า "ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัททั้ง 3 แห่งได้อันดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับ "ดีถึงดีมาก" นั้น พิจารณาจากปัจจัยสำคัญ 4 ประการ คือ ด้านสิทธิของผู้ถือหุ้น ได้แก่ การมีกลไกที่ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วน ทั้งการได้รับผลตอบแทน การใช้สิทธิในการออกเสียง และการได้รับสิทธิพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน ขององค์ประกอบและบทบาทของคณะกรรมการและผู้บริหาร การเปิดเผยข้อมูล และวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี ด้านองค์ประกอบและบทบาทของคณะกรรมการและคณะผู้บริหาร ได้พิจารณาโดยคำนึงถึง การปฎิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รอบคอบ ระมัดระวัง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้น ด้านการเปิดเผยข้อมูล พิจารณาจากการมีสารสนเทศที่ถูกต้องเพียงพอ ทันการณ์ โปร่งใส และเท่าเทียมกันต่อผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน และผู้มีส่วนได้เสียอื่น และด้านวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการ เป็นการพิจารณาว่าบริษัทมีการจัดบรรยากาศและกิจกรรมที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในระดับผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัท คณะผู้บริหารและพนักงาน รวมทั้ง การมีแนวปฏิบัติที่ดีต่อผู้มีส่วนได้เสียอื่น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีในองค์กรอย่างกว้างขวางและยั่งยืน" ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า "รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับการพิจารณาให้บริษัทมีการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับ "ดีถึงดีมาก" บริษัทมีการจัดกลไกที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิทธิของผู้ถือหุ้น เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนอย่างครบถ้วน มีโครงสร้างการถือหุ้นที่ชัดเจน ไม่ซับซ้อน นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิออกเสียงได้อย่างแท้จริง โดยมีกระบวนการนำเสนอเรื่องสำคัญให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติอย่างครบถ้วน และเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูล และการมีองค์ประกอบของคณะกรรมการที่เหมาะสมด้วย" สำหรับบริษัท ผลิตไฟฟ้าจำกัด (มหาชน) ภายใต้การนำของนายไกรสีห์ กรรณสูต กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยถึงแนวทางในการส่งเสริมการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทว่า "บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญอย่างครบถ้วน ตรงตามเวลา นอกจากนี้ ข้อมูลงบการเงินยังได้รับการรับรองจากผู้สอบบัญชีภายนอกว่าถูกต้องตามควรในสาระสำคัญ รวมทั้ง บริษัทยังให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ผ่านเว็บไซต์ หน่วยงานผู้ลงทุนสัมพันธ์ และการประชุมนักวิเคราะห์ เป็นต้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน" ในขณะที่นายบัณฑูร ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "เกณฑ์ที่ธนาคารได้รับคะแนนสูงสุดคือวัฒนธรรมการการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของคณะกรรมการที่ส่งเสริมและผลักดันให้ธนาคารมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีการกำหนดนโยบายและจัดทำคู่มือจรรยาบรรณของพนักงาน เพื่อให้พนักงานได้ถือปฏิบัติ รวมทั้งมีการติดต่อสื่อสารภายในธนาคารเพื่อกระตุ้นให้พนักงานมีการปฏิบัติตามจรรยาบรรณที่กำหนด นอกจากนี้ธนาคารยังได้การกระจายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยในระดับสูง จนทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดมีสิทธิในการออกเสียงข้างมากจนถึงระดับที่สามารถควบคุมการบริหารงานของธนาคารได้" นายวรภัทร กล่าวว่า "ผลการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการในโครงการนี้ สะท้อนให้เห็นคุณภาพของการกำกับดูแลกิจการในระดับ "ดีถึงดีมาก" ซึ่งนอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่หน่วยงานในตลาดทุนและทางการจะมอบให้แล้ว บริษัทจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ มีแนวโน้มที่จะลงทุนในบริษัทที่มีบรรษัทภิบาลที่ดี ซึ่งทำให้บริษัทดังกล่าวมีส่วนล้ำมูลค่าหุ้น (Premium) สูงกว่าบริษัททั่วไป สำหรับองค์กรที่เหมาะสมสำหรับการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการที่ดี ได้แก่ บริษัทจดทะเบียน องค์กร หรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งทริสเชื่อว่าในปี 2546 จะมีบริษัทเข้าร่วมโครงการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการมากขึ้น หลังจากที่เห็นถึงประโยชน์และคุณค่าเพิ่มของแนวทางดังกล่าว"--จบ-- -ศน-

• ข่าวบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ
• ข่าวการกำกับดูแลกิจการที่ดี
• ข่าวเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ
• ข่าวบรรษัทภิบาลดีเด่น
• ข่าววรภัทร โตธนะเกษม