กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
- เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก นำเสนอโซลูชั่นครบครัน
- เน้นการทำธุรกรรมผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญ
บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานในปี 2545 โดยเติบโตทุกกลุ่มธุรกิจ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เผยการควบรวมกิจการส่งผลให้เอชพีเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นครบครันทำให้ลูกค้าพอใจ
คุณเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ กรรมการผู้จัดการและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์องค์กรขนาดใหญ่ กล่าวว่า "ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาของเอชพีเป็นไปตามเป้าหมาย และเราภูมิใจในความสำเร็จ เพราะปีที่ผ่านไปนี้นับเป็นปีที่ท้าทายอีกปีหนึ่งของเอชพี เนื่องจากมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น อาทิ การประกาศควบรวมกิจการ ซึ่งทำให้เราต้องปรับโครงสร้างการให้บริการ โครงสร้างผลิตภัณฑ์ รวมถึงสภาวะตลาดที่ซบเซาและมีการแข่งขันอย่างดุเดือดก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง แต่ด้วยความมุ่งมั่นในการทำงานอย่างจริงจังของทุกฝ่าย การที่ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจให้ความสนับสนุนและตอบรับผลิตภัณฑ์และการบริการของเราอย่างดียิ่ง รวมถึงการที่เอชพีสามารถทำให้คำมั่นสัญญาที่เราให้ไว้เกี่ยวกับการควบรวมกิจการเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยบ่งชี้ว่า การดำเนินกลยุทธ์ของเราเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง เรามีความพร้อม ความมั่นใจและพอใจในแนวทางการดำเนินธุรกิจของเราที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการดำเนินกลยุทธ์ในปีหน้า"
คุณเชิดศักดิ์ กล่าวเสริมว่า "ในปี 2546 นี้ ทั้งสี่กลุ่มธุรกิจจะร่วมมือกันในการที่จะบุกตลาดทุกประเภทด้วยผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และการให้บริการที่ครบวงจรที่สุด เราจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มานำเสนอให้กับลูกค้าตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าระดับองค์กรใหญ่ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) หรือแม้กระทั่งคอนซูเมอร์ โดยในปีหน้า เอชพีมุ่งนำเทคโนโลยี โซลูชั่นและการบริการ อาทิ Zero Latency Enterprize (ZLE), Adaptive Management Platform, Utility Computing, Outsourcing, Solution-led Integration และ Wireless Solution เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กรธุรกิจต่างๆ "ในปีที่ผ่านมาธุรกิจมีการแข่งขันสูงมาก แต่กลุ่มธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ของเอชพีสามารถสร้างผลงานและผลประกอบการได้ตรงตามเป้าหมาย ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งของเรา เราสามารถปิดการขายให้กับลูกค้าจากภาครัฐบาล และเอกชนรายใหญ่ๆ และจากการตอบรับที่ดีเช่นนี้ทำให้เรายิ่งมีความมั่นใจว่า ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้วางใจเอชพีเป็นอย่างยิ่ง และพันธมิตรของเอชพีนับเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งของความสำเร็จดังกล่าว และด้วยนโยบายของเอชพีที่ให้การสนับสนุนพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เอชพีได้ร่วมกับพันธมิตรเปิดศูนย์ 'hp SanCubator' ขึ้น เพื่อนำเสนอโซลูชั่นสำหรับสตอเรจ เป็นต้น"
ทั้งนี้ คุณเชิดศักดิ์ สรุปว่า "ในปีหน้า เรายังคงมุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับลูกค้า (Total Customer Experience - TCE) และพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เอชพีมีนโยบายที่แข็งแกร่งในการที่จะเติบโตไปพร้อมกับคู่ค้า เอชพีจะเสริมศักยภาพในตลาดที่เรายังมีส่วนแบ่งตลาดน้อยอยู่ ให้ความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจหลัก เช่น กลุ่มการเงิน การธนาคาร ภาคอุตสาหกรรม (Manufacturing) ธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่าย (Network Service Providers) รวมถึงภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ (Government and Public Sector) ด้วยการนำเทคโนโลยีที่กล่าวแล้วข้างต้นมานำเสนอ การสร้างและสานต่อสัมพันธภาพที่ดีกับลูกค้าผ่านการให้บริการและคำปรึกษา สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางด้านโซลูชั่น พันธมิตรด้านการให้คำปรึกษา หรือพันธมิตรด้านซอฟต์แวร์ต่างๆ"
คุณมยุรี ชาติเมธากุล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการบริการ กล่าวว่า "เอชพีตระหนักว่าการดำเนินธุรกิจทุกประเภทในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงมาก การให้บริการนับเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจเหล่านี้ ผู้บริหารต้องการและควรคำนึงถึง return on IT investment อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เทคโนโลยีสารสนเทศควรมุ่งเน้นการให้ข้อมูลเพื่อสอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจและให้ข้อมูลแก่ผู้บริหาร เพื่อที่จะใช้เป็นข้อมูลในการบริหารความเสี่ยง การทำธุรกิจเชิงรุก รวมถึงการบริการที่เป็นเลิศ ในขณะเดียวกัน องค์กรควรคำนึงถึงการ outsource งานที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (core business) หรืองานที่ไม่ใช่ทางถนัดออกไปให้กับมืออาชีพบริหารแทน อาทิ การบริหารระบบฐานข้อมูลต่างๆ และการบริหารโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศใหญ่ๆ เป็นต้น ทั้งนี้เอชพีมีบริการส่วนนี้อยู่ด้วยเช่นกัน"
คุณมยุรี กล่าวเสริมว่า "ในปีที่ผ่านไปนี้ กลุ่มธุรกิจการบริการซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักของเอชพี ประสบความสำเร็จอย่างสูงเกินคาดการณ์ เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ารายสำคัญๆ เพื่อใช้บริการ outsourcing และบริการด้านอื่นๆ ของเรา อาทิ ลูกค้ากลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มธุรกิจธนาคาร และกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม เป็นต้น พร้อมเพิ่มเติมว่า "ในปีหน้านี้ เราคงนำกลยุทธ์ 1-2-3-4 ของกลุ่มธุรกิจการบริการของเอชพี ที่ประกาศใช้สำหรับทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเน้นว่า เราจะสามารถครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในด้านความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่าจะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดและรายได้ของเราจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด"
คุณมยุรี สรุปว่า "ในปัจจุบัน บริษัทต่างๆ เริ่มมุ่งเน้นที่ผลประกอบการกันมากขึ้น และในจุดนี้เองที่ผู้ให้บริการด้านไอทีอย่างกลุ่มธุรกิจการบริการของเอชพี จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีให้แก่องค์กรต่างๆ นอกจากนั้น หลายๆ บริษัทยังต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากระบบเดิมที่มีอยู่ ในขณะที่เอชพีเองก็มีขีดความสามารถในการให้บริการบนมัลติแพลตฟอร์ม ซึ่งนับเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญประการหนึ่ง ยิ่งกว่านั้น เรายังพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่างๆ รวมทั้งบริษัทอื่นๆ ที่นำเสนอเทคโนโลยีที่ดีที่สุด"
คุณประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อพ่วงและการพิมพ์ กล่าวว่า "ในส่วนของผลิตภัณฑ์พรินติ้งท์และอิมเมจจิ้งนั้น เรามียอดขายเติบโตขึ้นกว่า 20% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยในปีนี้ทางกลุ่ม IPG ได้ขยายการทำตลาดในส่วนของพรินเตอร์รุ่นเล็กที่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ที่เน้นด้วยโปรแกรมการขายพ่วงกับพีซีในราคาที่เหมาะสม สำหรับตลาดในส่วนขององค์กรธุรกิจนั้น ก็ยังคงนำเสนอเลเซอร์พรินเตอร์ที่ทรงคุณภาพ พร้อมฟังชั่นที่หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกใช้ นอกจากนั้นยังนำเสนอพรินเตอร์สำหรับงานพิมพ์ขนาดใหญ่มากๆ ด้วยเช่นกัน โดยในปีนี้เอชพีได้แนะนำพรินเตอร์ แสกนเนอร์ และผลิตภัณฑ์ออล-อิน-วันหลายชนิดออกสู่ตลาด
"ทั้งนี้ เอชพียังคงเน้นการทำตลาดและธุรกิจผ่านพันธมิตรทางธุรกิจและตัวแทนจำหน่ายต่างๆ อาทิการขายผ่านตัวแทนประเภทร้านค้าปลีก ทั้งนี้เอชพีได้ช่วยทำกิจกรรมสนับสนุนการตลาดในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการจัดการประกวดการแต่งร้าน โดยเอชพีได้จัดทีมนักออกแบบไปทำการออกแบบและให้คำปรึกษาแก่ร้านค้าต่างๆ ในการจัดวางสินค้าให้ดูโดดเด่นและเป็นที่น่าสนใจ อีกทั้งยังง่ายแก่การมองหาและเลือกซื้อ กิจกรรมดังกล่าวได้เริ่มที่พันธ์ทิพย์ พลาซ่าเป็นแห่งแรก และจะขยายผลไปยังไอที่ มอลล์ต่างๆ ต่อไป การจัดโปรแกรมอินเซนทีฟ ให้กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายให้สามารถขยายการตลาดและการจำหน่ายให้มากขึ้น นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอีกมากมายที่บริษัทฯ จัดให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นที่จัดขึ้นเองโดยเอชพี และที่ร่วมกับบริษัทโซลูชั่นพาร์ทเนอร์ (SI) หรือสมาคมธุรกิจต่างๆ อาทิเช่น การจัดการแข่งขันส่งภาพถ่ายชิงรางวัล การร่วมออกบู้ทในงานแสดงสินค้าไอทีทั่วไป ในส่วนขององค์กรธุรกิจนั้น เอชพียังคงเน้นการขายผ่านพาร์ทเนอร์ต่างๆ โดยแบ่งสัดส่วนการตลาดตามความชำนาญของพาร์ทเนอร์แต่ละราย โดยเอชพียังคงให้การสนับสนุนทางด้านกิจกรรมการตลาดที่เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน "เอชพีให้ความสำคัญกับคู่ค้า และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของเราเสมอมาและยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป" คุณประเสริฐกล่าว
คุณประเสริฐเปิดเผยต่อไปว่า "การควบรวมกิจการเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ในส่วนของพรินติ้งท์และอิมเมจจิ้งมีการจำหน่ายมากขึ้น เพราะได้ฐานลูกค้าในส่วนของคอนซูเมอร์และผู้ใช้ตามบ้านเพิ่มขึ้นมา เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์พีซีของคอมแพคอยู่แล้ว นอกจากนั้น เอชพียังคงพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ใหม่ ทันสมัยและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อยู่เสมอ เอชพีมีห้องแลบที่ทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างน้อยเจ็ดรายการทุกวัน โดยเน้นการค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยได้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับงานพิมพ์ไม่วาจะเป็นเรื่องของ โมบายพริ้นเตอร์ ที่มีเทคโนโลยี Bluetooth, In-Line Technology สำหรับคัลเลอร์เลเซอร์, และ PhotoREt4 Colour Layering ต่างๆ"
สำหรับแผนการตลาดในปีหน้านั้น เอชพียังคงเน้นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ผ่านทางร้านค้าปลีกสำหรับลูกค้าในส่วนคอนซูเมอร์ และโซลูชั่นพาร์ทเนอร์ (SI) ต่างๆในส่วนของลูกค้าประเภทองค์กรธุรกิจ โดยเรามีเป้าหมายที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในกลุ่มพริ้นเตอร์ตระกูล Deskjet, Scanjet, AIO, Laserjet, Designjet และ กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่คือ Projector เพื่อลูกค้า เอชพีมั่นใจว่าเราจะได้รับส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากแน่นอน ทิศทางของเทคโนโลยีพรินเตอร์กำลังมุ่ง สู่การพิมพ์แบบไร้สาย ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งเอชพีในฐานะผู้นำทางด้านเทคโนโลยีงานพิมพ์เราทราบดีอยู่แล้วและได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับงานพิมพ์ประเภทดังกล่าวออกสู่ตลาดมาแล้ว เช่น เดสก์เจ็ต 450 CBI และเรายังคงพัฒนาเทคโนโลยีนั้นต่อไป และอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่น่าสนใจคือการพิมพ์ภาพถ่ายจากเครื่องพรินเตอร์ (PhotoSmart Printer) ซึ่ง ณ วันนี้ท่านที่ถ่ายภาพจากกล้องดิจิตอลสามารถพิมพ์ภาพถ่ายของตนเองได้แล้ว ในราคาที่เมื่อเทียบกับคุณภาพของงานพิมพ์แล้วถูกอย่างไม่น่าเชื่อ
คุณอโณทัย เวทยากร ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์เพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ กล่าวว่า "ตั้งแต่การรวมกิจการระหว่าง ฮิวเลตต์-แพคการ์ด และคอมแพค คอมพิวเตอร์ ในเดือน พฤษภาคม 2545 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ครบวงจรนำเสนอต่อลูกค้าได้เป็นอย่างดี ตามรายงานของ อินเตอร์แนชชันแชล ดาต้า คอร์ปอเรชัน (ไอดีซี) ล่าสุด ประจำไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2545 เอชพี มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย ในตลาดรวมเครื่องคอมพิวเตอร์ (Total PC Market) ซึ่งรวมถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องโน้ตบุ๊ค และเซิร์ฟเวอร์มาตรฐานอุตสาหกรรม เป็นสัดส่วน 15.3% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เอชพีมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 13.6% ในตลาดโน้ตบุ๊คของเอสเอ็มอีนั้น เอชพีมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 17.4% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ในปีเดียวกัน ถึง 6.2%"
นอกจากนี้ เอชพียังครองอันดับ 1 ในตลาดเวิร์กสเตชันรวมในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 41.2% สำหรับตลาดคอมพิวเตอร์พกพาขนาดฝ่ามือ หรือแฮนเฮลด์ เอชพี ประเทศไทย มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 โดยมีสัดส่วน ที่ 12.7%
สำหรับในปี 2546 นี้ กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ จะดำเนินแผนการตลาดในเชิงรุก โดยจะยังร่วมมือกับคู่ค้า และพันธมิตรธุรกิจ ในการนำเสนอโซลูชั่นให้กับลูกค้าต่อไป โดยจะเน้นการนำผลิตภัณฑ์มาประยุกต์ใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้เกิดประโยชน์และสาระกับผู้ใช้มากขึ้น โดยในปีนี้ กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับโซลูชั่นพกพา (Mobility Solution) ซึ่ง ไอดีซี ได้คาดการณ์ว่าจะมีอัตราเพิ่มขึ้น ถึง 25% ในปี 2546 เมื่อเทียบกับปี 2545 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เอชพีจะวางตลาดผลิตภัณฑ์พร้อมเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อตอบรับความต้องการครบด้านของตลาดโซลูชั่นพกพา ไม่ว่าจะเป็น
- เครื่องโมบายล์ เวิร์กสเตชัน Compaq Evo N800w
- เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะโฉมใหม่ Compaq 800
- เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา Compaq Tablet PC TC1000
- เครื่องคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเท่าฝ่ามือ HP iPAQ Pocket PC H5450
นอกจากนี้ ยังจะเปิดตัว เอชพี เวิร์กสเตชันตระกูล xw ที่ประมวลผลด้วย หน่วยประมวลผล อินเทล เพนเที่ยม และอินเทล ซีออน ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 2.8GHz อีกด้วย
คุณอโณทัย กล่าวเสริมว่า "หลังจากการรวมกิจการเป็นต้นมา ณ ปัจจุบันเอชพีได้เสร็จสิ้นการปรับโครงสร้างช่องทางจำหน่ายอย่างชัดเจนแล้ว โดยในส่วนของความรับผิดชอบของกลุ่มธุรกิจ เพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ จะดูแลตัวแทนจำหน่ายค้าส่ง (Distributors) และตัวแทนจำหน่ายค้าปลีกสำหรับองค์กรธุรกิจ (Corporate Resellers) โดยปัจจุบัน เอชพีได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายค้าส่งทั้งหมด 5 บริษัท คือ
- บริษัท ดิจิแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท เดอะ แวลู ซิสเต็มส์ จำกัด
- บริษัท เทค แปซิฟิก (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท นิวซิสเต็มส์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
- บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
และ ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสำหรับตลาดองค์กร (Corporate Resellers) อีก 7 บริษัท คือ
- บริษัท พารา แอดวานซ์ อินโฟเทค จำกัด
- บริษัท ซีดีจี ไมโครซิสเต็มส์ จำกัด
- บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด มหาชน
- บริษัท เมโทร ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
- บริษัท โมเดิร์นฟอร์ม อินทิเกรชั่น เซอร์วิสเซ็ส จำกัด
- บริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด มหาชน
ทั้งนี้ พิจารณาจากขนาดและความต้องการของตลาด เป็นการตอบรับสถานการณ์ปัจจุบันของตลาด ให้ครอบคลุมตลาดได้อย่างครบถ้วน ในเวลาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยตัวแทนแต่ละบริษัท จะมีสิทธิ์ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ทั้งนี้ เอชพียึดถือการทำธุรกรรมผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญสำหรับตลาดในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยปัจจุบัน เอชพีมีการทำธุรกรรมผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นสัดส่วนถึง 90% ในขณะที่อีก 10% เป็นการทำธุรกรรมโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายผ่านศูนย์บริการทางโทรศัพท์ (Contact Center) หรือ ออนไลน์ สโตร์ รวมทั้งการซื้อขายโดยตรงในกรณีที่เป็นลูกค้าที่ทำสัญญาการซื้อขายจากบริษัทแม่ (Global Account) และ Direct Named Account"
ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีเป็นผู้นำระดับโลกในการนำเสนอผลิตภัณฑ์, เทคโนโลยี, โซลูชั่น, และการให้บริการแก่คอนซูเมอร์และองค์กรธุรกิจ บริษัทฯ เสนอโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศระยะยาว, ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์, และอุปกรณ์ต่อพ่วง, การให้บริการครอบคลุมทั่วโลก และผลิตภัณฑ์ภาพและการพิมพ์ กระบวนการการควบรวมกิจการระหว่างเอชพีกับคอมแพคแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2545 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี และผลิตภัณฑ์ของเอชพี สามารถเข้าไปค้นหาได้ที่ http://www.hp.com
ข่าวประชาสัมพันธ์โดย :
บริษัทพีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
เมธาวี เฉลิมธนศักดิ์
โทรศัพท์ : 0-2971-3711 แฟกซ์: 0-2521-9030
อีเมล์ :
[email protected]
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการของเอชพี ได้ที่
HP Customer CareLine: Tel: 0-2353-9000--จบ--
-นห-