กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เจ้าของ ผู้บริหาร และผู้ให้สิทธิแฟรนไชนส์ ร้านอาหารบริการด่วน เคเอฟซี และพิซซ่าฮัท ในประเทศไทย แถลงผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาว่า มีการเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมร้านอาหารบริการด่วน
ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานถึง 19 ปี ของเคเอฟซีในประเทศไทย จึงไม่แต่เพียงทำให้เคเอฟซีเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดไก่ทอดเท่านี้น แต่ยังคงรักษาแชมป์ครองความเป็นผู้นำในตลาดร้านอาหารบริการด่วนไว้ได้อีกด้วย ในขณะที่ พิซซ่าฮัท ก็ยังคงเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างเข้มแข็งในธุรกิจพิซซ่าเช่นเดียวกัน
มีหลายปัจจัยที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ ยัม! ประเทศไทย ในรอบปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็ว และการแข่งขันที่ดุเดือดของธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนในประเทศไทย ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุกแบรนด์มีการปรับกลยุทธ์การตลาดและขยายสาขาเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้น ทั้งที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่น และต่างชาติเข้ามาในตลาดมากขึ้น
ในปี 2545 ผลประกอบการโดยรวมของ ยัม! ประเทศไทยสูงขึ้น 10% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเคเอฟซียังคงเป็นผู้นำของธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนทั้งหมด ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 44% ในขณะที่พิซซ่าฮัท มีส่วนแบ่งการตลาดในอาหารประเภทพิซซ่า 40%
ช่วงต้นปี 2545 ที่ผ่านมา ยัม! ประเทศไทย ได้เปิดให้บริการร้านอาหารแบบมัลติแบรนด์ถึง 4 สาขาในกรุงเทพฯ เป็นร้านเคเอฟซี ร่วมกับพิซซ่าฮัท เอ็กซ์เพรส ซึ่งแตกต่างจากร้านพิซซ่าฮัทปกติ ตรงที่เป็นเคาน์เตอร์เซอร์วิส และให้บริการเมนูพิซซ่าเป็นบางรายการ ร้านมัลติแบรนด์ดังกล่าวมีผลประกอบการที่น่าพึงพอใจ ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 20% คุณปณิธาน เศรษฐบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประเทศไทยและอินโดจีน บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ลูกค้าชาวไทยต่างก็ชื่นชอบในความหลากหลายและความสะดวกสบายที่ร้านมัลติแบรนด์ของเรา ในปี 2546 บริษัทฯ มีเป้าหมายจะขยายเพิ่มอีก 8 สาขา"
ปัจจุบัน มีร้านเคเอฟซีให้บริการทั่วประเทศไทยทั้งสิ้น 303 สาขา และร้านพิซซ่าฮัท 83 สาขา สำหรับปี 2546 จะเป็นปีที่บริษัทฯ เน้นให้การพัฒนารูปลักษณ์ของร้านเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน และมีแผนที่จะขยายเคเอฟซีเพิ่มอีก 33 สาขา และ พิซซ่าฮัท 3 สาขา "เป้าหมายของเราคือ รักษาตำแหน่งผู้นำตลาดของเคเอฟซีเอาไว้ และสร้างแบรนด์พิซซ่าฮัทให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดพิซซ่า" คุณปณิธานกล่าวเสริม
ปัจจัยแห่งความแข็งแกร่งประเด็นต่อมาคือ นอกจากเคเอฟซีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไก่ทอดแล้ว เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา เคเอฟซี ประเทศไทยได้ประกาศปรับภาพลักษณ์ใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานเคเอฟซีให้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ด้วยแนวคิดใหม่ "ความสุขล้นเมนู...เคเอฟซี" เพื่อเสริมข้อได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเปลี่ยนจากการเป็นเพียง "ร้านอาหารบริการด่วน" ที่มีชื่อเสียงในเรื่องไก่ทอดสูตรต้นตำรับที่ไม่เหมือนใคร มาเป็น "ร้านอาหารที่เหมาะสำหรับการสังสรรค์ มีอาหารมื้ออร่อยซึ่งครบถ้วนเพียบพร้อมด้วยคุณค่าทางโภชนาการและได้คุณภาพสำหรับทุกคนในครอบครัว" โดยลูกค้าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ "ความสุขล้นเมนู" ต่อแบรนด์ เคเอฟซี และการรับประทานอาหารที่เคเอฟซี ผ่านเมนูอาหารที่หลากหลาย การบริการ และการตกแต่งร้าน ตลอดจนกิจกรรมการตลาดต่างๆ โดยปี 2546 ที่จะถึงนี้ เคเอฟซีจะยังคงดำเนินกลยุทธ์ตามแนวทางใหม่ที่กล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
เมนูข้าว คือ รายการอาหารใหม่ที่เคเอฟซีนำเสนอภายใต้แนวคิด "ความสุขล้นเมนู...เคเอฟซี" ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลามและกลายเป็นเมนูยอดนิยมอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เคเอฟซีมียอดขายเมนูข้าวถึง 3.8 ล้านจาน นับได้ว่าในนาทีนี้ เคเอฟซี คือผู้นำอันดับหนึ่งในการขายเมนูข้าวของธุรกิจอาหารบริการด่วนในประเทศไทย "ความสำเร็จของเมนูข้าวมาจากคุณภาพ, ความคุ้มค่าและคุ้มราคาที่เราทำได้ตรงใจลูกค้า นอกจากนั้นยังถือได้ว่าเราเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสนับสนุนเกษตรกรไทยด้วยปริมาณซื้อข้าวมากถึงกล่า 370 ตัน" คุณปณิธานกล่าว
สำหรับแบรนด์ พิซซ่าฮัท ก็ได้มีการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเช่นกัน โดยมอบความสุขในทุกๆ ด้านให้กับลูกค้า ทั้งนี้ ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ "อิ่มความสุช กับพิซซ่าฮัท" ผ่านเมนูอาหารอร่อย รสชาติดั้งเดิม มีความหลากหลายได้คุณภาพ พร้อมด้วยการบริการและบรรยากาศในการรับประทานที่ประทับใจ รวมทั้งความคุ้มค่าสมราคา
คุณปณิธานกล่าวว่า "ถึงแม้แบรนด์พิซซ่าฮัทจะเป็นผู้นำตลาดพิซซ่า แต่ก็ไม่หยุดในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และเพื่อรับรองว่าลูกค้าจะได้รับความสุขทุกครั้งที่สั่งพิซซ่าฮัท ไม่ว่าจะรับประทานที่ร้านหรือโทรสั่งไปรับประทานที่บ้าน"
เมื่อเร็วๆ นี้ พิซซ่าฮัทได้สร้างสรรค์เมนูใหม่ฉลองส่งท้ายปี 2002 ด้วย "อะเมซิ่ง โฟร์ พิซซ่า" เป็นครั้งแรกในรวมความอร่อยลงตัว 4 หน้าพิซซ่ายอดฮิต 17 เครื่องปรุงในถาดเดียวกัน ได้แก่ หน้า Super Supreme, Chicken Supreme, Seafood Lover's และ Hawaiian Lover's ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดียิ่ง กว่า 80% ของลูกค้าต่างถามหาโปรโมชั่นนี้ ไม่รวมมิติประสบการณ์ความสุขด้านอื่นๆ ที่พิซซ่าฮัทมอบให้ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการที่เหนือความคาดหมายของลูกค้าด้วยพนักงาน "พิซซ่าฮัท พริตตี้" ซึ่งจะเป็นผู้ให้การต้อนรับพร้อมคำแนะนำในเรื่องเมนูอาหาร และคอยอำนวยความสะดวกตลอดช่วงเวลาที่ลูกค้านั่งรับประทานที่ร้าน คอยดูแลเอาใจใส่เสมือนเป็นเจ้าของบ้าน นอกจากนี้พิซซ่าฮัทยังได้เปลี่ยนชุดพนักงานในร้านให้ดูทันสมัยคล่องแคล่วว่องไว กระฉับกระเฉงขึ้นอีกด้วย
จากการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนตลอดปี 2545 เริ่มตั้งแต่ ระบบการส่งพิซซ่า OvenFresh Delivery System การออกสินค้าใหม่ที่มีหลากหลาย และล่าสุดการยกระดับแบรนด์พิซซ่าฮัทให้เหนือชั้นแตกต่างจากคู่แข่ง ส่งผลให้ยอดขายทั้งระบบโดยรวมของพิซซ่าฮัทในปี 2545 เทียบกับปี 2544 เติบโตถึง 43%
ผลการสำรวจผู้บริโภค โดยบริษัทวิจัยเอซีนีลเส็น ในช่วงเดือนมกราคม - พฤศจิการยน 2545 ที่ผ่านมาสอดคล้องกับความแข็งแกร่งของทั้งสองแบรนด์ภายใต้การบริหารของ ยัม! ประเทศไทย กล่าวคือ จากกลุ่มผู้ใช้บริการร้านอาหารบริการด่วนในกรุงเทพฯ 1,760 คน ช่วงอายุ 15-49 ปี ผลล่าสุด พบว่าผู้บริโภค 85% กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เคเอฟซี คือร้านที่ดีที่สุดสำหรับไก่ทอด ขณะที่ 83% ระบุว่า พิซซ่าฮัท คือร้านที่ดีสุดสำหรับรับประทานพิซซ่า สำหรับความคิดเห็นโดยรวมของอาหารไม่ว่าจะเป็นรสชาติ คุณภาพ และความสม่ำเสมอในมาตรฐานของอาหาร ทั้งแบรนด์ เคเอฟซี และพิซซ่าฮัท ครองอันดับสูงสุดในแต่ละชนิดอาหาร
"ความชื่นชอบของลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราและเป็นปัจจัยที่นัยยะสำคัญในการกำหนดตัวสินค้าและบริการของเรา" คุณปณิธานกล่าว "ลูกค้าบอกเราชัดเจนมากว่าร้านที่ดีที่สุดสำหรับสังสรรค์ และอิ่มอร่อยกับไก่ทอดหรืออาหารประเภทพิซซ่า คือ เคเอฟซี และพิซซ่าฮัท"
นอกเหนือไปจากการเสนอมื้ออาหารอร่อยที่คุ้มค่าคุ้มราคาให้กับชาวไทยแล้ว เคเอฟซี-พิซซ่าฮัท ยังมีกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือพัฒนาเด็กยากไร้ในชนบท โดยได้ก่อตั้ง "โครงการเคเอฟซี - พิซซ่าฮัท เพื่อสังคม" ให้ความช่วยเหลือแก่เด็กไทยหลายรูปแบบ อาทิ การสร้างอาคารเรียนให้โรงเรียนในชุมชนยากจนพื้นที่ห่างไกลในชนบทไปแล้ว 8 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย และจะสร้างเพิ่มเติมอีก 2 แห่งในปี 2546 นี้ และเมื่อสร้างครบ 10 แห่งแล้ว โครงการฯ ก็จะให้ความช่วยเหลือโรงเรียนเหล่านั้นแบบถาวร ระยะยาว และจริงจัง
โครงการสำคัญเพื่อพัฒนาเด็กไทยอีกโครงการหนึ่งคือ "KFC League ครั้งที่ 1" ซึ่งเป็นการร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ จัดการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 18 ประเภท ก. ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 10 ทีมที่ดีที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้การส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนไทยที่มีทักษะโดดเด่นทางด้านกีฬาฟุตบอลได้มีโอกาสใช้การแข่งขันนี้เป็นเวทีแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และฝึกความมีน้ำใจเป็นนักกีฬาอีกด้วย
ยัม! แบรนด์ส อิงค์ บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเครือข่ายร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนสาขากว่า 32,500 ร้าน ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยร้านอาหารทั้ง 4 แบรนด์ของบริษัท ได้แก่ เคเอฟซี พิซซ่าฮัท ทาโก เบลล์ และลอง จอห์น ซิลเวอร์ ต่างเป็นผู้นำระดับโลก ในการให้บริการอาหารประเภทไก่ทอด พิซซ่า อาหารเม็กซิกัน และอาหารทะเลบริการด่วนตามลำดับส่วนเอแอนด์ดับบลิว ออล-อเมริกัน ฟู้ด ซึ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 1919 ถือเป็นเครือข่ายแฟรนไชส์ร้านอาหารบริการด่วนที่ดำเนินกิจการมายาวนานที่สุดในอเมริกา มีสินค้าชื่อเสียงโด่งดัง คือ รูทเบียร์โฟลทในแก้วแช่เย็น แฮมเบอร์เกอร์เนื้อ และฮ๊อทดอก สูตรเฉพาะต้นตำรับ ออล-อเมริกัน สำหรับในประเทศไทย ปัจจุบันมีร้านเคเอฟซี 303 สาขา และพิซซ่าฮัท 83 สาขา เปิดให้บริการในกว่า 52 จังหวัดทั่วประเทศไทย
รายละเอียดเพิ่มเติม :
สายชล ทรัพย์มากอุดม
[email protected]
โทร. 02-653 2900 ต่อ 6215, 6219--จบ--
-ขธ-