วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "JUST MARRIED"

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส JUST MARRIED บอกเล่าถึงเรื่องราวของความรักแบบจู่โจมระหว่าง ทอม ลีแซ็ค (แอชตัน คุทเชอร์) และซาร่า แมคเนอร์นีย์ (บริตตานีย์ เมอร์ฟีย์) คู่หนุ่มสาวที่ปิ๊งกันอย่างจังโดยไม่คาดฝัน จากการที่ได้พบกันเพียงครั้งแรก ทอมนั้นเป็นผู้รายงานข่าวการจราจรภาคดึกหนุ่มหล่อ ด้วยการใช้ชีวิตแบบหนุ่มวัยทำงาน และความชื่นชอบกีฬาหลากหลาย ทำให้เขาเป็นหนุ่มเนื้อหอมอันดับหนึ่ง ส่วนซาร่าเป็นนักเขียนอิสระสาวสวย ซึ่งมาจากครอบครัวที่มีความร่ำรวยมากพอๆ กับความเย่อหยิ่ง ท่ามกลางความแปลกใจของบรรดาเพื่อนฝูงของทอมทุกคน และความผิดหวังของครอบครัวซาร่า ทั้งคู่ต่างรักกันอย่างดูดดื่ม ความพยายามของทอมที่จะทำตัวให้กลมกลืนกับโลกหรูหราของซาร่านั้นไม่เป็นผล แต่ซาร่าไม่เอาใจใส่กับความพยายามของพ่อและพี่สาวสายเลือดเดียวกัน ในการที่จะยับยั้งเธอจากการทำตามเสียงของหัวใจ กับการแต่งงานกับอัศวินในชุดเกราะขึ้นสนิมของเธอ หลังจากงานแต่งงาน ทั้งคู่เริ่มต้นการเดินทางด้วยความหวังอันสูงสุด จากแว่นสีชมพูแห่งรักและการแต่งงาน ว่าทุกอย่างจะต้องสมบูรณ์แบบระหว่างการพักผ่อนในอิตาลี แต่ต้องขอบคุณแฟนเก่าผู้ร่ำรวยของซาร่า และโชคร้ายที่ตามกันมาเป็นหางว่าว จนคู่แต่งงานใหม่ต้องเผชิญกับประสพการณ์เลวร้ายที่ดาหน้ากันมาทดสอบความอดทนของทั้งสอง ทเวนตี้เซ็นจูรี่ ฟอกซ์ เสนอผลงานของโรเบิร์ต ไซมอนด์ส โปรดักชั่น นำแสดงโดย แอชตัน คุทเชอร์ และบริตตานีย์ เมอร์ฟีย์ JUST MARRIED, และร่วมแสดงโดยคริสเตียน เคน ภาพยนตร์เรื่องนี้ กำกับการแสดงโดย ฌอน เลวีย์ ("Big Fat Liar"), บทภาพยนตร์โดย แซม ฮาร์เปอร์ ("Rookie of the Year"), และอำนวยการสร้างโดย โรเบิร์ต ไซมอนด์ส ("The Wedding Singer") JUST MARRIED ได้รับแรงบันดาลใจจากประสพการณ์จริงของผู้เขียนบทภาพยนตร์ ที่เขาได้พบเจอระหว่างการฮันนีมูนของเขาในอิตาลี เมื่อสิบห้าปีก่อน "ผมเริ่มทะเลาะกับภรรยา ตั้งแต่คืนแรกของการฮันนีมูนของเรา" ฮาร์เปอร์หัวเราะ "เรามีเวลาเดือนนึงในอิตาลี ซึ่งเป็นที่สุดยอดในการพำนักอยู่และท่องเที่ยว แต่เรากลับรู้สึกเหมือนถึงคอหอยของกันและกันเกือบตลอดเวลา จนเมื่อจบช่วงฮันนีมูน เธอก็มองหน้าผมด้วยสายตาของคนซื้อของที่เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจผิด "แต่ก็ยังดี" ฮาร์เปรอ์เสริม "ที่ผมกับภรรยายังครองรักกันดีอยู่ทุกวันนี้ แต่ไม่ว่าใครที่ผมได้คุยด้วยก็ตาม จะต้องมีอย่างน้อยวันนึง หรือสองสามชั่วโมง ในระหว่างการฮันนีมูนของพวกเขา ที่มองไปยังคนที่นอนร่วมเตียง แล้วตั้งคำถามกับตัวเองว่า 'ฉันทำอะไรลงไป?'" หลายปีต่อมา ฮาร์เปอร์มองเห็นเรื่องราวที่จะใช้ตรวจสอบได้อย่างกว้างขวาง รวมทั้งช่วงเวลาขลุกขลักที่น่าขันของคู่แต่งงานใหม่ "ผมใช้เวลากว่าสิบปีในการเรียบเรียงช่วงเวลานั้นของชีวิตผม เพื่อให้ออกมาเป็นบทภาพยนตร์" ผู้เขียนบทกล่าว สคริปท์ของฮาร์เปอร์ได้เดินทางมาถึงมือผู้อำนวยการสร้าง โรเบิร์ต ไซมอนด์ส - ซึ่งให้บังเอิญว่าเพิ่งกลับมาจากการฮันนีมูนในอิตาลี "แซมเพิ่งเสร็จจาการเขียนงานเรื่องอื่นให้กับผม และสคริปท์ JUST MARRIED ก็บังเอิญติดมาในซองของผม ซึ่งได้ใช้เวลาอ่านบนเครื่องบินระหว่างที่เดินทางกลับจากอิตาลี" ไซมอนด์สย้อนความ "ผมอ่านไปได้ 25 หน้า แล้วก็โทร.หาแซมจากบนเครื่อง บอกเขาว่าผมอยากซื้อเรื่องนี้ ผมคิดว่าสคริปท์ของเขาสนุกและสมจริง ด้วยประสพการณ์ชีวิตแต่งงานของแซม เรื่องราวของเขานั้นยุ่งเหยิงได้เท่าๆ กับที่ความสัมพันธ์ใกล้ชิดนั้นจะสามารถยุ่งเหยิงได้" ไม่นานหลังจากที่กลับจากฮันนีมูน ไซมอนด์สก็ได้ที่อยู่ให้กับ JUST MARRIED ที่ทเวนตี้เซ็นจูรี่ ฟอกซ์ และที่นั่นเองมุมมองต่อหนังของไซมอนด์สและฮาร์เปอร์ก็เริ่มตกผลึก "ความตั้งใจของเราต่อ JUST MARRIED ก็คือการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยส่วนลึกของอารมณ์ ผสมผสานกับความเป็นคอมเมดี้" ผู้อำนวยการสร้างกล่าว "คนหลายคนที่ผมรู้จัก เคยมีประสพการณ์ที่เรียกได้ว่า ไม่สมบูรณ์แบบระหว่างการฮันนีมูน หรือมีการพักผ่อนที่โรแมนติค แบบที่ยิ่งกว่าเละ เราคิดว่ามันคงน่าสนใจที่จะนำเอาตัวละครซึ่งทุกคนบอกว่ายังเด็กเกินไปที่จะแต่งงาน และให้พวกเขาพานพบกับเรื่องเลวร้ายต่างๆ ที่จะทำให้ตั้งข้อสงสัยกับหัวใจและการตัดสินใจของตนเอง" เมื่อได้หัวใจของเรื่องแล้ว ฮาร์เปอร์ก็เริ่มปรับแต่งสคริปท์ขั้นสุดท้าย และทีมผู้สร้างก็เริ่มหารือถึงดาราที่จะรับบท ทอม ลีแซ็ค โลกแห่งความเป็นนักกีฬาของทอมต้องกลับตาลปัตร เมื่อลูกฟุตบอลของเขากระเด้งไปโดน ซาร่า สาวสวยสะดุดตา ซึ่งกำลังพาสุนัขมาเดินเล่นที่ชายหาด มันเป็นรักแรกพบของทั้งคู่ และหลังจากที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันแล้วก็ตกลงใจที่จะแต่งงานกัน โดยไม่ฟังคำทัดทานจากครอบครัวและเพื่อนฝูงของทั้งสองฝ่าย การเสาะหา ทอม ลีแซ็ค ของทีมผู้สร้างนั้นเริ่มต้นและจบลงที่ แอชตัน คุทเชอร์ "แอชตันได้รับการเรียกหามากขึ้น หลังจากผลงานที่ถูกใจบรรดาแฟนๆ จาก 'That '70s Show' และ 'Dude, Where's My Car?'" ไซมอนด์สชี้แจง "ซึ่งเราโชคดี เพราะเขากำลังมองหางานที่เหมาะกับขอบข่ายของเขา รวมทั้งพรสวรรค์ด้านคอมเมดี้" สำหรับคุทเชอร์นั้น บทบาทนี้นับเป็นรักแรกพบเช่นกัน "ผมหัวเราะอย่างดังมาก แล้วก็ถอนตัวไม่ขึ้นหลังจากได้อ่านบทสามหน้าแรก" นักแสดงหนุ่มกล่าว "เรื่องราวนั้นสมจริงในแง่ของการอธิบายภาพของความคิดที่ประหลาด ของความสัมพันธ์และการแต่งงาน ผู้ชายกับผู้หญิงแตกต่างกันในการรับมือกับแรงกระทบ และใน JUST MARRIED ก็แสดงถึงทั้งสองมุมมองนั้น ตัวละครมีคุณสมบัติที่มีเล่ห์เหลี่ยม และหักมุมอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งโดนใจสำหรับคนที่เคยมีความสัมพันธ์ ซึ่งนั่นก็คือทุกคน" เมื่อได้คุทเชอร์มาลงเรือลำเดียวกัน ผู้สร้างก็เริ่มค้นหาผู้กำกับการแสดงที่จะสร้างสมดุลย์ให้กับความเป็นคอมเมดี้ทางกายภาพซึ่งเป็นพื้นฐานของเรื่อง ฌอน เลวีย์ ซึ่งเคยมีผลงานกำกับการแสดงครั้งแรกจาก "Big Fat Liar" หนังติดอันดับบ็อกซ์ออฟฟิซ นั้นได้รับการยอมรับโดยดี "ผมคิดว่า 'Big Fat Liar' เป็นการผสมผสานที่น่าสนใจของคอมเมดี้และอารมณ์ ซึ่งนับว่าเป็นแนวเดียวกับสิ่งที่เราต้องการนำเสนอใน JUST MARRIED" ไซมอนด์สเล่า "ยังมีคำโบราณที่ว่า หนังสะท้อนถึงบุคลิกของผู้สร้าง และสำหรับ JUST MARRIED เราต้องการพลังสูง และมุมมองที่เด่นชัด ผมคิดว่าฌอนจะสามารถถ่ายทอดสิ่งที่เราต้องการ ให้หนังเรื่องนี้เป็น : ตลก เปี่ยมพลังอารมณ์ เหมือนกำลังนั่งรถเหาะ" เลวีย์ยอมรับถึงองค์ประกอบคอมเมดี้ของเรื่อง JUST MARRIED โดยไม่ทิ้งหัวใจของเรื่องและการหักมุมอย่างไม่คาดคิด "ความตั้งใจของผมก็คือการทำหนังโรแมนติคคอมเมดี้ที่แตกต่าง และเป็นความสนุกสนานที่ประทับใจ โดยไม่ต้องสะเทือนอารมณ์" เขาอธิบาย เลวีย์ยังเต็มใจที่จะเปิดเผยความสามารถที่ยังไม่เคยรู้จักของดารานำของเขา "แอชตันเป็นคนที่สบายๆ กับตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความเป็นทอม ลีแซ็ค ซึ่งตัวละครนี้เป็นเหมือนทางออกสำหรับแอชตัน และ JUST MARRIED ก็ประกาศอันดับใหม่ของเขาทางการแสดง เราทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคนมีสเน่ห์ น่าสนใจ และตลกขบขัน แต่ทุกคนจะต้องแปลกใจกับอารมณ์ที่เขาเป็นผู้สร้างให้กับหนังเรื่องนี้" ต่อมาก็คือการเฟ้นหาตัวซาร่า แม็คเนอร์นี่ย์ นักเขียนสาวน้อย ผู้พยายามจะดิ้นรนให้หลุดพ้นจากมาตรฐานและความคาดหวังของครอบครัวที่ร่ำรวยและเอาใจยากของเธอ สิ่งที่เธอได้พบในตัวทอมก็คือความเป็นอิสระ และการที่เธอสามารถสร้างชีวิตของตัวเองอย่างที่ต้องการ และที่ไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่อยากให้เธอเป็น ทีมผู้สร้างมองหานักแสดงที่ไม่เพียงแต่จะสามารถตีคู่กับพรสวรรค์ทางด้านอารมณ์ขันของคุทเชอร์ได้เท่านั้น แต่จะต้องทำให้เขาสงบและอ่อนโยนได้ในช่วงที่ควรจะเป็นของเรื่อง "มันไม่ง่ายเลยที่จะหาดาราหญิงที่มีความทัดเทียมกับอารมณ์ขันของคุทเชอร์" เลวีย์อธิบาย "สัญชาติญานโดยธรรมชาติของคนเราเมื่อต้องแสดงร่วมกับคนที่ตลกนั้น ก็คือหลีกทางให้เขา ในบรรดานักแสดงหญิงที่เราได้เห็น ก็มีเพียงบริตตานีย์ เมอร์ฟีย์เท่านั้น ที่จะมีความสามารถขนาดนั้น หรือให้เจาะจงก็คือในตัวของบริตตานีย์เอง เป็นคนที่มีบุคลิกที่เป็นเหมือนความซ่าของฟองแชมเปญ" "ความตรงไปตรงมาของเธอบนจอนั้นเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจ; เธอทำได้อย่างไม่มีพลาดแม้แต่น้อย" เลวีย์เสริม "ความสามารถที่ผุดพรายและพลังงานของเธอ เป็นศูนย์กลางของพลัง ที่มีระหว่างสมาชิกคนอื่นๆ ของครอบครัวที่แสนจะเย็นชาของซาร่า ตรงข้ามกับการที่ซาร่าถูกเลี้ยงดูมาอย่างมีระดับ เธอยังคงรักษาความเอื้ออารีเอาไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทอมประทับใจ บริตตานีย์เป็นคนที่มีคุณลักษณะเช่นนั้น ซึ่งทำให้เธอเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบทบาทนี้" เมอร์ฟีย์ได้รับความสำเร็จ จากการรับหลากหลายบทบาทที่ท้าทาย อาทิเช่น ในภาพยนตร์ดราม่า เรื่อง "8 Mile" และ "Don't Say a Word." ดังนั้นการรับบทนำในหนังคอมเมดี้ จึงนับเป็นโอกาสที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ "เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากที่จะได้ทำงานกับหนังที่เปิดโอกาสให้ฉันทำให้คนอื่นหัวเราะได้" เธออธิบาย "ใครล่ะจะไม่อยากเล่นบทของคนที่ตกหลุมรักหัวปักหัวปำ และกำลังจะแต่งงาน? เมื่อมาถึงจุดนี้ของอาชีพ ฉันคิดว่ามันสำคัญที่เราจะเล่นบทที่ต้องขับเคี่ยว ฉันเป็นแฟนตัวยงของหนังโรแมนติคคอมเมดี้อยู่แล้ว และบทบาทใน JUST MARRIED ก็นับเป็นโอกาสอันมหัศจรรย์ของฉันที่จะได้ทำ ในหน้าใหม่ของอาชีพการแสดง" แม้ว่าซาร่าจะตกหลุมรักทอมอย่างโงหัวไม่ขึ้น แต่ครอบครัวของเธอกลับเห็นความเหมาะสมกว่ากับเศรษฐีนักธุรกิจหนุ่มอย่าง ปีเตอร์ เพร็นทิส ซึ่งแสดงโดยคริสเตียน เคน "ปีเตอร์ เพร็นทิส นั้นถูกแวดล้อมด้วยความมีระดับ และโตมาด้วยความคุ้นเคยกับความร่ำรวยและอำนาจ เขาจึงไม่มีทัศนคติใดๆ กับมัน" เลวีย์กล่าว "เขาไม่ใช่ประเภทคู่ปรับที่แข็งเป็นไม้กระดาน แต่มีสเน่ห์ เร้าใจ และไม่ต้องใช้ความพยายามในการที่จะมีพลังเหนือกว่าในการเอาชนะใจหญิง" "ปีเตอร์ เพร็นทิส เป็นหนุ่มประเภท 'อาจใช่'" คุทเชอร์ย้ำ "เวลาที่เราเดทกับสาวสักคน มันจะมีคนที่เธอเป็นมิตรด้วยอย่างที่เราต้องตั้งข้อสงสัย เพราะว่าเธอมักจะเขินเวลาเขามาใกล้ๆ เป็นคนประเภทที่เธออาจจริงจังด้วย แต่เราขลาดเกินกว่าจะถาม เพราะไม่รู้ว่าความจริงเป็นอะไร" เมื่อทอมและซาร่าเริ่มจะรู้สึกถึงความยุ่งยากระหว่างการฮันนีมูน ปีเตอร์ก็ปรากฎตัวขึ้นโดยบังเอิญที่เวนิซ เพื่อทำ "ธุรกิจ" ด้วยกำหนดการแอบแฝงเพื่อทำลายชีวิตสมรสของพวกเขา "ปีเตอร์นั้นคุ้นกับการได้ทุกอย่างที่ต้องการ เพราะความที่เขามีเงินมากมาย" คริสเตียน เคนกล่าว "แต่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาต้องพบกับสิ่งที่เขาเป็นเจ้าของไม่ได้ เพราะซาร่ากำลังจะแต่งงาน เขาจึงปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเอาชนะใจเธอกลับมาให้ได้" เบื้องหลัง เมื่อได้รวบรวมบรรดานักแสดงอย่างครบถ้วนแล้ว ทีมผู้สร้างก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการ "คัดสรร" สถานที่ซึ่งจะใช้ในการบรรยายภาพ และอารมณ์ระหว่างทอมและซาร่าในการหลีกหนีไปสู่ความโรแมนติคด้วยกัน "ทอมและซาร่า เดินทางไปเพื่อฮันนีมูนสมบูรณ์แบบ ที่พวกเขาพลาดไม่ได้ แต่แล้วกลับต่างก็รำคาญอีกฝ่ายหนึ่งขึ้นมา" ฮาร์เปอร์อธิบาย "เราต้องการฉากที่โรแมนติค เพื่อชดเชยกับความหงุดหงิดที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างคู่แต่งงานใหม่" เนื่องจากฮาร์เปอร์และไซมอนด์สได้ไปฮันนีมูนที่อิตาลีทั้งคู่ ประเทศนี้จึงดูจะเป็นที่เหมาะแก่การพักผ่อนสำหรับทอมและซาร่าที่สุดหลังจากพิธีแต่งงาน หลังจากพิจารณาการ เดินเรื่องในโรม ผู้สร้างจึงตกลงใจว่าจะใช้เวนิซเป็นฐานในการถ่ายทำฉากฮันนีมูน เนื่องมาจากความที่เป็นหนึ่งในบรรดาเมืองที่โรแมนติคที่สุดในโลก สำหรับฌอน เลวีย์ การถ่ายทำในสถานที่จริงในต่างประเทศนั้นเป็นความแตกต่างที่จำเป็นสำหรับหนังเรื่อง JUST MARRIED จากเรื่องอื่นๆ "เราคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องถ่ายทำฉากส่วนใหญ่ของเรื่อง JUST MARRIED ในอิตาลี" เขาอธิบาย "เพราะหนังโรแมนติคคอมเมดี้ส่วนใหญ่มักจะถูกจำกัดในเรื่องของขอบเขต เราจึงอยากจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราใส่เรื่องราวเข้าไปในสถานที่ถ่ายทำจริง ซึ่งดูเกินความต้องการของเรื่องทำนองนี้" การตัดสินใจถ่ายทำในเวนิซ ทำให้ทีมงานได้มีโอกาสเก็บภาพมากมาย นับแต่ในตัวเมืองเองไปจนถึงทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์สในอิตาลี และในพื้นที่โดยรอบ ความสงบและสวยงามของธรรมชาติของทิวเขา นับเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะเจาะของชีวิตแต่งงานที่ "สุขล้น" ของทอมกับซาร่า และเคราะห์ร้ายที่เกิดขึ้นที่ทำให้เพิ่มความกดดันกับคู่แต่งงานใหม่คู่นี้ เมื่อเริ่มถ่ายทำในอิตาลีได้ไม่นาน สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือประโยชน์ที่มีต่อทีมงาน ในการถ่ายทำที่พลิกผันจากกำหนดการแบบอิตาเลียน และความกดดันของการทำงานในต่างประเทศ "เมื่อเริ่มถ่ายทำในอิตาลี" ไซมอนด์สเล่าย้อนว่า "มันมีความรู้สึกที่ไม่แน่นอนอย่างน่ากลัว ซึ่งช่วยสร้างพลังที่กดดันอันเนื่องมาจากการอยู่ในต่างประเทศ และความรู้สึกเอนเอียงไปกับบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ความกดดันนี้เพิ่มความเข้มข้นให้กับหนัง และช่วยถ่ายทอดความรู้สึกกระวนกระวาย ระหว่างทอมกับซาร่า ผู้ซึ่งไม่สามารถควบคุมและแก้ไขสิ่งผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับการฮันนีมูนของพวกเขา" "ความโกลาหลนั้นเป็นเรื่องที่เสแสร้งได้ยาก" คุทเชอร์กล่าว "ความไม่รู้กับสิ่งที่กำลังจะเดินชนในมุมข้างหน้านั้นช่วยได้มากกับการแสดงด้วยความรู้สึกสมจริง ผมไม่พูดภาษาอิตาเลียน จึงไม่รู้เลยว่าทีมงานกับตัวประกอบกำลังพูดอะไรในฉาก ซึ่งช่วยทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นเหมือนคนนอก และนั่นคือสิ่งเดียวกับที่ตัวละครของผมควรจะรู้สึก" หลังเสร็จจากการทำงานเรื่อง JUST MARRIED ตามกำหนดการถ่ายทำในอิตาลี ซึ่งรวมถึงในโลเคชั่นซึ่งเป็นยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะและปราสาทอายุร้อยปี ซึ่งตั้งอยู่ในทุ่งแห่ง Campo Tures ทีมงานก็มุ่งหน้าลงใต้สู่เวนิซ ลักษณะของเวนิซที่เต็มไปด้วยคูคลองรวมทั้งพาหนะ แต่ไม่ค่อยมีถนนและรถยนต์นั้น ให้ความรู้สึกที่โดดเด่นไปอีกแบบ แต่ก็นับเป็นความท้าทายที่สำคัญของทีมงาน และทำให้ต้องใช้การถ่ายทำด้วยกล้องสเตดิแคม ยกตัวอย่างเช่น การขนย้ายอุปกรณ์จำนวนมากด้วยเรือกอนโดล่า - แทนการใช้รถเทรลเลอร์และรถบรรทุก ที่ใช้กันในกองถ่ายปกติทั่วไป ความยากลำบากในการถ่ายทำในเมืองเวนิซ นั้นทำให้ฌอน เลวีย์ต้องกลับไปทำงานเช่นเดียวกับเมื่อเริ่มทำหนังสมัยแรกๆ : "ในอเมริกา ถ้าเราต้องการเปลี่ยนที่ถ่ายด้วยการบิน เราแค่ย้ายของนิดหน่อยซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 ถึง 20 นาที ตอนไปถ่ายที่เวนิซ เราใช้เวลาสามชั่วโมงเพื่อย้ายเรือไม่กี่ลำ เพราะว่าคลองกว้างพอแค่สำหรับเรือเพียงลำเดียว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ใช้เวลามาก เราจึงถูกบังคับให้กลับไปสู่การถ่ายทำหนังแบบกอริลล่า ซึ่งทุกคนทำงานหลายหน้าที่ และทำทุกวิถีทางเพื่อให้การถ่ายทำเสร็จสิ้น" แม้ว่าจะยากเย็นเพียงไร ทีมงานก็ทำงานในเวนิซลุล่วงไปด้วยดี และได้เก็บภาพสถานที่สำคัญมากมาย ซึ่งเป็นฉากหลังของการฮันนีมูนนรกของทอมและซาร่า เลวีย์พบว่าการถ่ายทำในอิตาลีนั้นเป็นประสพการณ์ที่เขาคงลืมได้ยาก "เราไปยังที่ๆ สวยที่สุดในโลก และได้รับประสพการณ์ของอิตาลีในแบบที่น่าทึ่ง" เขาย้ำ "เราได้ไปถึงที่ๆ ไม่เคยมีใครถ่ายทำมาก่อน; นับแต่ปาลาซโซ และโบสถ์ ไปจนถึงหน้าผาบนยอด โดโลไมท์สในเทือกเขาอิตาเลียนแอลป์ส" เมื่อเสร็จสิ้นการถ่ายทำในส่วนของอิตาลี ทีมงานและนักแสดงก็ได้กลับมายังลอส แอนเจลิสเพื่อปิดกล้อง ทีมผู้สร้างกระหายที่จะได้รับรู้ถึงแรงดึงดูดระหว่างคุทเชอร์และเมอร์ฟีย์ ซึ่งเรื่องราวของการแสดงจะนำพาไปสู่ถนนสายแห่งความรักของหนุ่มสาวและการแต่งงาน "ความสัมพันธ์ระหว่างแอชตันและบริตตานีย์นั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง" เลวีย์กล่าว "ทั้งคู่ทีความสัมพันธ์ที่เซ็กซี่ เร่าร้อน และโรแมนติค แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแบบเลอะเทอะเหลวไหล แรงดึงดูดระหว่างกันนั้นเป็นแกนของเรื่อง" มันจึงจำเป็นที่เลวีย์และช่างกล้องจะเก็บภาพพลังระหว่างคุทเชอร์และเมอร์ฟีย์ ในรูปเบบที่สามารถแสดงถึงทั้งช่วงมีอารมณ์ขัน และช่วงท้าทาย และโรแมนติค ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของเรื่อง "เรามีการดำเนินเรื่องที่เราต้องการจะเล่นสี ฟิลเตอร์ และการเคลื่อนไหว และความยาวของเลนส์ สำหรับแต่ละช่วงของหนัง" บราวอธิบาย "สำหรับช่วงตลกนั้นเราตั้งใจให้ใช้เลนส์กว้าง เพื่อให้แสงออกมาชัดเจน เราเก็บภาพช่วงฉากโรแมนติคให้ออกมานุ่มนวลกว่า และให้ความหนักแน่นของสีและแสงในฉากดราม่า ซึ่งเป็นจุดตึงเครียดของปัญหาระหว่างทอมและซาร่า เรายังถ่ายฉากเหล่านั้นด้วยเลนส์ที่ยาวกว่า และการเคลื่อนไหวกล้องที่ดุดันกว่าอีกด้วย" ฉากของผู้ออกแบบฉาก นีน่า รุสซิโอ นั้นก็มีส่วนสำคัญในการสร้างอารมณ์ขันระหว่างทอมและซาร่า ในช่วงความสัมพันธ์ถดถอย กำหนดการออกแบบฉากนั้นไม่ได้เป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอ ในการสร้างฉากโรงแรม "Hotel Giana" (เวนิซ) ซึ่งทอม ซาร่า และปีเตอร์ เพร็นทิส ต้องประจันหน้ากันนั้น รุสซิโอได้สร้างฉากภายในอันหรูหราแบบห้องสวีทของอิตาเลียน ที่ซาวนด์เสตจในลอส แอนเจลิส ซึ่งเหมือนอย่างไม่มีที่ติ ในส่าวนของล็อบบี้โรงแรมและทางเข้า เมื่อจบถ่ายทำในลอส แอนเจลิส เมอร์ฟีย์และคุทเชอร์ ได้สะท้อนความรู้สึกจากประสพการณ์การถ่ายทำกับ JUST MARRIED "ฉันแทบคอยไม่ไหวที่จะได้เล่นหนังโรแมนติคคอมเมดี้ต่อ" เมอร์ฟีย์ประกาศ "ฉันไม่เคยแม้แต่จะคิดฝันถึงว่าจะมีแรงดึงดูดกับดาราชายคนไหนในแบบนี้ อย่างที่เป็นกับแอชตัน นับเป็นประสพการณ์อันเหลือเชื่อ ที่จะทำงานกับใครสักคนที่เข้ากันได้อย่างดีและเป็นตัววัดให้ตลอดเวลา ฉันได้เรียนรู้เป็นอย่างมากด้านคอมเมดี้จากแอชตัน และเขาเป็นสามีบนจอที่เยี่ยมที่สุดเท่าที่ฉันจะเคยอยากมี" "บริตตานีย์กับผมเป็นคนที่สื่อสารกันได้ดี และสามารถจะนั่งคุยกันได้เป็นชั่วโมงในทุกๆ เรื่อง" คุทเชอร์เสริม "เธอทำให้ห้องสว่างไสว และเราร่วมงานกันได้ดี เพราะความสามารถของเธอในการนำเสนอด้านอารมณ์ได้มากกว่า ในขณะที่ผมจะให้ได้ในส่วนของอารมณ์ขันมากกว่า" ผลงานที่ปะทุราวดอกไม้ไฟในจอของคุทเชอร์และเมอร์ฟีย์ นั้นเป็นที่วิจารณ์ว่า เกิดจากความอุตสาหะของฌอน เลวีย์ ในการนำเสนอเรื่องราวโรแมนติคคอมเมดี้ในรูปแบบใหม่ "เราได้โลเคชั่นที่ตระการตา ซึ่งเติมเต็มให้กับหนังเรื่อง JUST MARRIED ในแง่ของภาพ" ผู้กำกับการแสดงกล่าว "แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมภูมิใจกับแอชตัน, บริตตานีย์ และนักแสดงของเราทุกคน ที่ได้ทำงานที่ยอดเยี่ยม ความมุ่งมั่นของพวกเขาทำให้ผมได้ผลงานที่มิได้เป็นเพียงคอมเมดี้ประทับใจ แต่ยังเป็นสถานการณ์จริงของคนจริงๆ" (ยังมีต่อ)

ข่าววอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส+ภาพยนตร์เรื่องวันนี้

Gossip News: ชมเบื้องหลังภาพยนตร์สุดสยองขวัญ “It โผล่จากนรก”

ช่อง 28 จะพาแฟนๆไปชมเบื้องหลังภาพยนตร์แนวสยองขวัญ วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส และนิวไลน์ ซีเนม่า ภาคภูมิใจเสนอ "It โผล่จากนรก" จากนวนิยายสุดสยองของ สตีเฟ่น คิงส์ สู่ความกลัวเขย่าขวัญสั่นประสาท "มันจะเสพความกลัวของคุณพาคุณล่องลอย...ไปสู่ความตาย!" ติดตามชมเบื้องหลังของภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่จะมาเขย่าสั่นประสาท "It โผล่จากนรก" วันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2560 เวลา 16.30-17.00 น. ทางช่อง 28 และรับชมผ่านทาง Application 3

ภาพข่าว: เมเจอร์ โบว์ล ฮิต จัดแข่งขัน “ซูเปอร์แมน รีเทิร์นส ชาเลนจ์”

อาทร เตชะตันติวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เมเจอร์โบว์ล กรุ้ป จำกัด ร่วมกับ มร.เฮนรี่ ทราน ผู้จัดการทั่วไป บริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส จำกัด เปิดแคมเปญ “เมเจอร์ โบว์ล ซูเปอร์แมน รีเทิร์นส ชาเลนจ์” การแข่งขัน...

(ต่อ3): วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ A Cinderella Story

คลิฟฟอร์ด เวอร์เบอร์ (ผู้อำนวยการสร้าง) ได้ผ่านการทำงานบริหารภาพยนตร์ให้กับบริษัท ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ๊อกซ์ ฟิล์ม คอร์ปอร์เรชั่นและวอร์เนอร์ บราเดอร์ส ตั้งแต่ปี 1986 มาจนถึงปี 1999 ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขายังได้ทำงานอย่างใกล้ชิด...

(ต่อ2): วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ A Cinderella Story

ดราตรี สีขาว เกาะอกไม่มีสายปักลูกปัดและกระโปรงผ้าโปร่งเหมือนในเทพนิยาย นั้นมาจากคอลเลคชั่นของ โมนิค ฮูลิเย่ ดีไซน์เนอร์จากเบเวอรี่ ฮิลล์ ผู้ซึ่งมีความชำนาญทางด้านชุดราตรีและชุดแต่งงาน งานของเธอนั้นเรียบง่ายแต่ดูดี วินเกทยกความดี...

(ต่อ1): วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ A Cinderella Story

อย่างที่รอสแมนวางไว้ว่า “เขาเป็นเจ้าชายที่ไม่อยากจะเป็นเจ้าชาย” “พวกเราประทับใจในตัวแชด พวกเราเลื่อนวันเปิดกล้องออกไปเพื่อให้สอดคล้องกับตารางซีรีส์ทางโทรทัศน์ของเขา” รอสแมนเล่าถึงการที่ได้ค้นพบตัวแสดงหลังจากผ่าน ขั้นตอนอัน “ยาวนาน...

วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ A Cinderella Story

ซินเดอเรลล่าเองยังไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อนเลย ในภาพยนตร์เรื่อง A Cinderella Story – เรื่องราวของเทพนิยายคลาสสิคที่กลับตาละปัดแต่แฝงด้วยความร่าเริงสนุกสนานที่ถูกนำกลับมาทำให้เข้าสมัย นักเรียนมัธยมปลาย แซม มอนโกเมอรี่ (ฮิลลารี่ ดัฟฟ์)...

(ต่อ 3) วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Hero"

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส คริสโตเฟอร์ ดอยล์ (ผู้กำกับภาพ) เกิดที่ซิดนีย์ เขาได้บินหนีความจืดชืดของชนบท และใช้เวลาส่วนใหญ่บนถนนชีวิต ในหลายช่วงเวลา เขาเคยเป็นกระทั่งคนขุดบ่อน้ำในอินเดีย, กลาสีบน...

(ต่อ 2) วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Hero"

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ผลงานภาพยนตร์ In the Mood for Love (2000) Sausalito (2000) Augustin, King of Kung Fu (1999) Those were the Days (1997) Chinese Box (1997) The Soong Sisters (1997) Comrades:...

(ต่อ 1) วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Hero"

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ในการค้นหาความสมบูรณ์แบบ จางได้เดินทางหลายร้อยไมล์เพื่อเสาะหาสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับแต่ละฉาก ทีมงานที่ขันแข็งจำนวน 300 คน เดินทางจากดุนฮวง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกวางสู ...

วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Hero"

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส เวลา สองพันปีก่อน สถานที่ จุดเริ่มต้นความป่าเถื่อนแห่งราชวงศ์ฉิน เรื่องราว ของว่าที่จักรพรรดิแห่งแผ่นดินจีน ผู้กำลังจะมีชัยในการครอบครองแผ่นดินที่ถูกย่ำยีด้วยพิษสงคราม ...