กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--กระทรวงแรงงานฯ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย เข้าล้อมจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ลาว และเขมร ร่วม 100 คน ณ สถานที่ก่อสร้างอาคารโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ 2
วันนี้ (3 ธ.ค. 2545) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และพลตำรวจโทชิตชัย วรรณสถิตย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำคณะทำงานเฉพาะกิจปราบปราม จับกุม และควบคุมส่งกลับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง พร้อมกำลังตำรวจกว่า 100 นาย จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจนครบาล และตำรวจตระเวนชายแดน เข้าตรวจค้นอาคารโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ 2 เลขที่ 488 / 800 ถ. ดำรงลักษณ์ มหานาค เขตป้อมปราบ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ พบแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ลาว และชาวเขมร ทั้งชาย หญิงกว่า100 คน โดยแบ่งเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่มีบัตรอนุญาตทำงาน 20 คน และแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีบัตรอนุญาตทำงานถึง 81 คน จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ทราบว่าหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และต้องเสียค่าหัวคิวต่อการข้ามาทำงานในประเทศ รายละ 3,000 บาท โดยมีการลักลอบนำเข้ามาทางด่านแม่สาย จังหวัดเชียงราย และตามแนวชายแดนจังหวัดสระแก้ว เป็นส่วนใหญ่ โดยได้รับค่าแรง วันละ 150 บาท
ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้สั่งการให้ดำเนินคดีกับบริษัทพรหม มหาราชพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีนายสุธิพงษ์ วสุวานิชพันธ์ เป็นกรรมการผู้จัดการ ตามมาตรา 22 ว่าด้วยการรับแรงงานต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตโดนจำคุก 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และนายพงษ์ศักดิ์ เวชานุเคราะห์ ผู้รับผิดชอบโครงการ ตามมาตรา 64 ว่าด้วย ผู้ใดให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้นแรงงานต่างด้าว โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนั้น นายสุวัจน์ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เป็นปัญหาที่นายก รัฐมนตรีให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับทั้งปัญหาความมั่นคง ปัญหาสังคม ปัญหาสาธารณสุขของประเทศ ต่อไปจะต้องมีการปราบปรามจับกุมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อลดจำนวนแรงงานต่างด้าวให้ลดน้อยลงทุกปี และหมดไปในที่สุด--จบ--
-สส-