พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ทรงเจิมเรือ "ชลธารานุรักษ์"

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--ศูนย์ ปชส. กระทรวงคมนาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเจิมเรือ "ชลธารานุรักษ์" ณ ศูนย์ฝึกพาณิชยนาวี ตำบลบางด้วน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2545 เวลา 17.00 น. โดยมี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิเชษฐ สถิรชวาล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ข้าราชการกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระมหากรุณาพระราชทานนามเรือ "ชลธารานุรักษ์" อันเป็นเรืออเนกประสงค์ขนาด 292.53 ตันกรอส พร้อมอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมัน อุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์ดับเพลิง เรือเล็กสำหรับการปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมัน และเรือสำหรับปฏิบัติงานช่วยชีวิต ซึ่งกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กระทรวงคมนาคม ดำเนินการจัดหาด้วยภารกิจในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลัก ในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ด้วยตระหนักถึงปัญหามลพิษจากน้ำมันรั่วไหลในน่านน้ำไทยว่าเป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว ปัจจุบัน กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี มีเรือขจัดคราบน้ำมันในทะเล 1 ลำ คือ เรือ "เด่นสุทธิ" เป็นเรืออเนกประสงค์เพื่อขจัดคราบน้ำมัน ค้นหา ช่วยชีวิตและดับเพลิง ปฏิบัติงานในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2538 และมีการกำหนดพื้นที่ในการควบคุมดูแลแบ่งเป็น 3 พื้นที่ คือ - พื้นที่อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี ถึงจังหวัดตราด รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 9,500 ตารางกิโลเมตร - พื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดระนอง ถึงจังหวัดสตูล รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 12,000 ตารางกิโลเมตร - พื้นที่ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงจังหวัดนราธิวาส รวมพื้นที่รวมทั้งสิ้น 25,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งบริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง เนื่องจากเป็นเขตที่มีฐานขุดเจาะน้ำมัน และมีการวางท่อใต้ทะเลเข้าสู่ชายฝั่งหลายแห่ง การขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสู่จังหวัดชายทะเลต่างๆ และมีปริมาณเรือประมงในพื้นที่จำนวนมาก จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุทางน้ำและการรั่วไหลของน้ำมันสูง นอกจากนี้ บริเวณตอนกลางของพื้นที่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญของประเทศ เช่น เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า เป็นต้น หากเกิดอุบัติเหตุน้ำมันรั่วไหลในบริเวณดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและระบบนิเวศวิทยา เนื่องจากเรือ "เด่นสุทธิ" ไม่เพียงพอที่จะปฏิบัติงานในพื้นที่ทั้ง 3 แห่งได้ ประกอบกับ ขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการเตรียมการ การป้องกัน การขจัด และความร่วมมือเกี่ยวกับมลพิษที่มีสาเหตุจากน้ำมัน ค.ศ. 1990 ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและขจัดมลพิษทางทะเลเนื่องจากน้ำมัน รัฐภาคีมีพันธกรณีจะต้องจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์สำหรับป้องกัน และขจัดคราบน้ำมันในน่านน้ำของรัฐภาคีและมีขีดความสามารถในการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศอื่นในภูมิภาคได้เมื่อมีการร้องขอ ดังนั้น กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี จึงได้จัดหาเรืออเนกประสงค์ขนาด 292.53 ตันกรอส พร้อมอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมันอุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์ดับเพลิง 305 ล้านบาท โดยทำการวางกระดูกงูเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2541 และประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2543 ใช้เวลาในการต่อสร้างทั้งสิ้น 720 วัน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานนามอันเป็นมงคลแก่เรือขจัดคราบน้ำมันลำนี้ว่า "ชลธารานุรักษ์" การเสด็จพระราชดำเนิน ทรงเจิมเรือ "ชลธารานุรักษ์" ในครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ อีกทั้งเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ธำรงรักษาสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติทางน้ำ อันเป็นสมบัติที่ทรงคุณประโยชน์แก่การดำรงชีวิตของประชาชนชาวไทยสืบไป--จบ-- -ปส-

ข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว+สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจวันนี้

"สุริยะ" เปิดนิทรรศการ "73 พรรษา ทศมราชัน ขวัญประชา" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 กระทรวงคมนาคมได้จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "73 พรรษา ทศมราชัน ขวัญประชา" บริเวณด้านหน้ากระทรวงคมนาคม เพื่อเผยแพร่พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจและพระอัจฉริยภาพให้ประชาชนได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา อันก่อให้เกิดคุณูปการต่อประเทศไทย ผู้บริหาร และพนักงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ขอแสดงความจงรักภักดีและความสามัคคี พร้อมน้อม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปร... บางจากฯ เชิญชวน สัมผัสน้ำพระราชหฤทัยจากฟ้าสู่มหานคร ในงาน "โครงการหลวง 56" — พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมร...

สศร.จัดกิจกรรมจิตอาสาสำนักงานศิลปวัฒนธรรม... สศร.จัดกิจกรรมจิตอาสา — สศร.จัดกิจกรรมจิตอาสาสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ศิลป์สร้างสรรค์สร้างสุขเพื่อสังคม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ...