กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ประกาศให้การสนับสนุนเต็มรูปแบบแก่บริษัทไดนามิค ลอจิสติกส์ จำกัด ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์ชั้นนำ ในเครือซีพี เปิดให้บริการเอาซอร์สซิ่งโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์อย่างครบวงจรขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยตั้งเป้าไปที่องค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีระบบการจัดการคลังสินค้าและระบบการจัดการขนส่ง ระบบสำรองข้อมูล การสนับสนุนด้านเทคนิค และบริการที่แข็งแกร่ง
นายธำรง เกียรติวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการธุรกิจอุตสาหกรรม และธุรกิจทั่วไป บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “การให้การสนับสนุนด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานแก่ไดนามิค ลอจิสติกส์นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของไอบีเอ็มในการทำตลาดองค์กรธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี โดยเลือกเฟ้นพันธมิตรธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อนำโซลูชั่นคุณภาพระดับโลกมาให้บริการแก่เอสเอ็มอีของไทยในรูปแบบของเอาท์ซอร์สซิ่ง นอกจากอุตสาหกรรมการผลิตที่เป็นหัวใจหลักของประเทศแล้ว ธุรกิจบริการด้านลอจิสติกส์ก็นับว่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะระบบการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพจะมีส่วนช่วยในการลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจลงได้ ปัจจุบันธุรกิจบริการด้านลอจิสติกส์มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ยิ่งการบริการที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้า และการจัดการขนส่งนั้นกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งนี้การที่ไอบีเอ็มมีเทคโนโลยีที่มีเสถียรภาพ มีความยืดหยุ่นและความปลอดภัยสูง ผสานรับกับโซลูชั่นระบบการจัดการคลังสินค้าและระบบการจัดการขนส่งที่ครบวงจรของไดนามิค ลอจิสติกส์ เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าวางใจในการเลือกใช้บริการเอาท์ซอร์สซิ่งดังกล่าวเป็นอย่างมาก”
โครงสร้างสถาปัตยกรรมด้านไอทีของไอบีเอ็มที่ไดนามิค ลอจิสติกส์เลือกใช้ในการให้บริการเอาท์ซอร์สซิ่ง ครั้งนี้ประกอบด้วย IBM eServer pSeries เซิร์ฟเว่อร์ระดับไฮเอนดน์ชั้นเยี่ยม ด้วยเทคโนโลยีไมโครโปรเซสเซอร์ POWER4 เปี่ยมประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของเซิร์ฟเวอร์ระดับไฮเอนด์สามารถแบ่งออกเป็นเซิร์ฟเวอร์ ?เสมือน(Virtual)? ช่วยให้ผู้ใช้ สามารถรวบรวม ระบบงานต่างๆ ที่ ทำงานอยู่บนระบบที่มขนาดเล็กได้ eServer ใหม่นี้เป็นการนำเสนอระบบที่ดีที่สุด ให้แก่ ลูกค้าผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ในทุกๆ ตระกูล และ IBM TotalStorage ซึ่งไอบีเอ็มเป็นผู้นำของโลกด้วยเทคโนโลยีในการเก็บบันทึกข้อมูล โซลูชันการเก็บบันทึกข้อมูลแบบเปิดของ ไอบีเอ็ม นั้นถูกออกแบบมาสำหรับข้อจำกัดของการร่วมงานกันในอี-บิสสิเนส ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีโมดุลแบบผสมต่างๆ ได้แก่ดิสก์เทป เครือข่ายการเก็บบันทึกข้อมูล และสื่อเก็บบันทึกข้อมูลด้านภาพ โปรเซสเซอร์อันทรงพลัง และซอฟต์แวร์ต่างๆ มากมายพ
นายพีรบูลย์ ไพบูลย์ธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดนามิค ลอจิสติกส์ จำกัด กล่าวว่า “การเปิดให้บริการเอาซอร์สซิ่งโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากไอบีเอ็ม ในการวางระบบฮาร์ดแวร์ที่เป็นแบบ end-to-end ทำให้เรามีโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการที่แข็งแกร่ง และนับเป็นบริษัทที่เปิดให้บริการเอาท์ซอร์สซิ่งโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์ที่ครบวงจรเป็นรายแรกในประเทศไทย โดยจะให้บริการทั้งด้านระบบการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System) และระบบการจัด การขนส่ง (Transportation Management System) ทั้งนี้การเปิดให้บริการดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าเพิ่มศักยภาพในการบริหารซัพพลายเชนของตน ลดค่าใช้จ่ายในการบริหารคลังสินค้า และการขนส่งสินค้า โดยการใช้โซลูชั่นในรูปเอาท์ซอร์สซิ่งข้างต้นนี้ จะช่วยประหยัดทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายในการใช้ระบบ เพราะลูกค้าสามารถเชื่อมเข้ามาใช้บริการได้ทันที นอกจากนี้ยังไม่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านซอฟท์แวร์ และฮาร์ดแวร์ แต่ชำระค่าใช้จ่ายแบบรายเดือน อีกทั้งยังช่วยประหยัดได้อย่างมากในระยะยาว"
“ทางบริษัทฯ เชื่อว่า ในการเปิดให้บริการเอาท์ซอร์สซิ่งโซลูชั่นลอจิสติกส์ในครั้งนี้ การที่บริษัทฯเลือกใช้เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานของไอบีเอ็ม จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในกลุ่มองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีเสถียรภาพเพื่อรองรับการทำธุรกิจในรูปของอีบิสซิเนสในลักษณะนี้โดยเฉพาะ บวกกับการให้การสนับสนุนที่ดีทางด้านเทคนิค ซึ่งมีการรับประกันการวางระบบ ตลอดจนมีการการอัพเกรด และการบำรุงรักษาระบบอยู่ตลอดเวลา เมื่อรวมเข้ากับโซลูชั่นเฉพาะทางด้านลอจิสติกส์ของบริษัทฯ แล้ว จึงทำให้เรามีความมั่นใจว่าเราเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่สามารถให้บริการที่สมบูรณ์แบบและครบวงจรที่สุดในขณะนี้"
โซลูชั่นระบบการจัดการคลังสินค้าที่นำมาให้บริการ คือ EXceed Fulfill Suite ซึ่งผลิตโดยบริษัทอีเอ็กซ์อี (EXE Technologies Inc.) ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีการทำงานที่รองรับการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นแบบ collaborative ซึ่งเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการสินค้าคงคลัง และการกระจายสินค้าข้ามระหว่างศูนย์กระจายสินค้า และบริษัทคู่ค้าต่างๆ โดยช่วยลดระยะเวลาในการวางตลาดของสินค้า เพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ลดค่าใช้จ่ายในการจัดการ และเพิ่มความแม่นยำในระบบสินค้าคงคลังเป็นต้น ปัจจุบันมีการนำระบบนี้มาใช้ในธุรกิจการผลิตและกระจายสินค้าอุปโภค บริโภคเช่น เนสท์เล่ ยูนิลีเวอร์ ธุรกิจค้าปลีก เช่น ซีพี เซเว่น-อีเลฟเว่น ท็อปส์ และธุรกิจการให้บริการลอจิสติกส์ เช่น ลีแอนด์ฟุง และเมย์นลอจิสติกส์ เป็นต้น
ในส่วนของโซลูชั่น ระบบการจัดการขนส่งที่นำมาให้บริการ คือ RoadNet EE และ Territory Planner ซึ่งผลิตโดยบริษัทยูพีเอส (UPS Logistics Technologies Inc.) ที่ให้คุณสมบัติการทำงานที่ก้าวล้ำ RoadNet EE นั้น เป็นโซลูชั่นที่ช่วยในการจัดเส้นทาง เพิ่มระวางการบรรทุกและวางตารางการขนส่ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้การพิจารณาจากหลายตัวแปรประกอบกัน อาทิ จำนวนพนักงานขับรถ และรถ บรรทุกที่สามารถปฏิบัติงานได้ ณ เวลานั้น ค่าแรงพนักงานขับรถ สภาพรถบรรทุกความเร็วที่จำกัด ระยะเวลาที่ต้องการใช้ในการขนส่ง และตารางเวลาในการขนส่งที่กำหนดไว้ เป็นต้น
ซึ่งประโยชน์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับ คือ การลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง มีการบริการลูกค้าที่ดีขึ้น ช่วยยกระดับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานขับรถบรรทุก ลดเวลาในการจัดสายการขนส่ง และช่วยในการจัดการงานที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ Territory Planner นั้นจะช่วยในการสร้างความสมดุลในการวางแผนงาน และเส้นทางการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ โดยซอฟท์แวร์จะช่วยในการวิเคราะห์ และปรับระบบการขนส่งอย่างเหมาะสม ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการปรับเส้นทางการขนส่งใหม่ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ช่วยให้มีระบบการขาย และการกระจายสินค้าที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น เป็บซี่ ซึ่งนำระบบดังกล่าวมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขนส่งและกระจายสินค้าภายใต้เครือข่ายที่กว้างขวางและซับซ้อน
“ทั้งอีเอ็กซ์อี และยูพีเอส นั้นเป็นสองผู้นำโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์ของโลก ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำทั่วโลกวางใจเลือกใช้ จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีขององค์กรธุรกิจไทยในสภาพการแข่งขันทางการตลาดในปัจจุบัน ที่จะได้ใช้โซลูชั่นระดับโลกเช่นนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการด้านลอจิสติกส์ของตน” นายพีรบูลย์กล่าว ?ตัวอย่างในการใช้บริการเอาท์ซอร์สซิ่งของบริษัทนั้น ลูกค้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการจัดการของระบบการจัดการคลังสินค้าได้ถึง 10-15% และประหยัดค่าใช้จ่ายในการนำระบบมาใช้ได้มากถึง 40% หรือขณะที่ลูกค้าที่มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าราว 20 ล้านบาทต่อปี จะสามารถประหยัดค่าขนส่งได้ถึง 3 ล้านบาท เมื่อใช้บริการเอาท์ซอร์สซิ่งระบบการจัดการขนส่งดังกล่าว ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพและเงื่อนไขในการปฏิบัติงานของลูกค้าโดยรวม”
ข้อมูลเกี่ยวกับไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็ม เป็นบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยครองความเป็นผู้นำในการช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สรรค์สร้างนวตกรรมใหม่มานานกว่า 80 ปี จากการใช้แหล่งทรัพยากรจากไอบีเอ็มทั่วโลกและพันธมิตรทางธุรกิจรายสำคัญ ไอบีเอ็มจึงสามารถให้บริการ โซลูชั่น และเทคโนโลยีต่างๆ มากมายที่ช่วยให้ลูกค้าทั้งรายใหญ่ และรายเล็กได้รับประโยชน์จากโลกยุคใหม่แห่งอี-บิสิเนสได้อย่างเต็มที่ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมของไอบีเอ็ม กรุณาเยี่ยมชมที่ http://www.ibm.com
ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทไดนามิค ลอจิสติกส์ จำกัด
บริษัท ไดนามิค ลอจิสติกส์ จำกัด ผู้นำในการให้บริการด้านระบบลอจิสติกส์แบบ Third PartyLogistics (3PL) ในประเทศไทย ในเครือซีพีกรุ๊ป ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2543 ดำเนินธุรกิจในการช่วยลูกค้าพัฒนาและยกระดับความสามารถในระบบบริหารซัพพลายเชน ปัจจุบันได้ให้บริการด้านลอจิสติกส์และดิสทริบิวชั่นในทุกๆ ด้าน แก่กลุ่มลูกค้าครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การวางแผนงานด้านระบบซัพพลายเชน ไปจนถึงการบริหารคลังสินค้า และการขนส่ง ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการบริหารเครือข่ายลอจิสติกส์ โดยได้มีความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจชั้นนำ อาทิ ไอบีเอ็ม อีเอ็กซ์อี เทคโนโลยี และยูเอสพี ลอจิสติกส์ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการ และการสนับสนุนด้านเทคนิคที่ดีเยี่ยม
ไดนามิค ลอจิสติกส์ เป็นบริษัทแรก และบริษัทเดียวในประเทศไทย ที่ให้บริการเอาท์ซอร์สซิ่งโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์ด้วยระบบการจัดการคลังสินค้า หรือ Warehouse Management (WMS) และระบบการจัดการขนส่ง หรือ Transportation Management System (TMS) เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานโซลูชั่นคุณภาพระดับโลกในราคาที่ต่ำกว่า โดยบริการดังกล่าวประกอบด้วย Transportation Management, Facility Management และ Logistics Solution Management.
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย:
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด บริษัทไดนามิค ลอจิสติกส์ จำกัด
คุณกฤษณา ศิลประเสริฐ คุณปาริฉัตร สงวนวงศ์วานน
โทรศัพท์: 0-2273-4639 โทรศัพท์: 0-26930593 ต่อ 1414--จบ--
-ศน-
บริษัท ยูไนเต็ด ไทย ชิปปิ้ง จำกัด หรือ ท่าเรือยูนิไทย เปิดตัวอุปกรณ์ปั้นจั่นพลังงานไฟฟ้ายกตู้สินค้าชุดใหม่หน้าท่า (New Ship-To-Shore Crane) ได้รับมอบจาก Wuxi HuaDong Heavy Machinery Co., Ltd. (HDHM) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมเครื่องจักรสำหรับท่าเรือ เชี่ยวชาญในการผลิตปั้นจั่นหลายประเภท พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการที่มีความรวดเร็วและแม่นยำในการยกและเคลื่อนย้ายตู้สินค้า เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของท่าเรือ บริการขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ และการจัดการคลังสินค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ชิปซี่ (Shipsy) ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ Saas (Software as a Service) ชั้นนำ สยายปีกขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยการเข้าซื้อกิจการสต๊อกโคน (Stockone) ซึ่งเป็นผู้...