บทความ: แจ้งเบาะแสน้ำมันเถื่อน… สร้างประโยชน์ต่อสังคม..พ่วง…รับรางวัลนำจับ…

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--สนพ. โดย โครงการประชาสัมพันธ์การป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ตอนที่ 26 แจ้งเบาะแสน้ำมันเถื่อน… สร้างประโยชน์ต่อสังคม.. พ่วง…รับรางวัลนำจับ… ด่วน!! รางวัลนำจับ มูลค่าสูง.. หากร่วมแจ้งเบาะแสน้ำมันเถื่อน น้ำมันเถื่อนเป็นพิษร้ายบ่อนทำลายเศรษฐกิจและสังคมไทย มีลักษณะการกระทำแบบเป็นกระบวนการ ทั้งลักลอบนำเข้าน้ำมัน ส่งออกน้ำมันเป็นเท็จ ลักลอบนำน้ำมันดีเซลที่นำไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่องขึ้นบก และปลอมปนน้ำมันด้วยสารละลายประเภทไฮโดรคาร์บอน ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ปริมาณน้ำมันเถื่อนจะลดน้อยลงไปจากความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอย่างแข็งขันทั้งจากภาครัฐ-เอกชน และประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็น 3 ประสาน สร้างปราการเหล็กที่สำคัญ แต่ความร่วมมือนี้ต้องคงอยู่ต่อไป ป้องกันการหวนฟื้นคืนชีพของกระบวนการน้ำมันเถื่อน และกลไกสำคัญที่จะป้องกันได้ คือ การแจ้งเบาะแสข้อมูล ของกระบวนการค้าน้ำมันเถื่อนจากประชาชนทั่วไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม และผู้แจ้งยังได้ประโยชน์จากรางวัลนำจับหรือสินบนมราที่จะได้จากภาครัฐเมื่อคดีความสิ้นสุดอีกด้วย ทั้งนี้ เงินสินบนและรางวัลนำจับนั้น ได้ถูกกำหนดอยู่ในระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางในคดีจับกุม ผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 เพื่อเป็นแรงจูงใจในการแจ้งเบาะแส ในขณะเดียวกันเป็นแรงกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเร่งปราบปราบจับกุมดำเนินคดีแก่ผู้ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนจนถึงที่สุด โดยยิ่งจับกุมน้ำมันเถื่อนได้มูลค่าที่สูงเท่าใด เงินสินบนและเงินรางวัลนำจับก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยระเบียบนี้ใช้บังคับกับการกระทำความผิด สำหรับสินค้าที่ประกอบไปด้วย 1.น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน 2.สินค้าอื่นๆตามที่อธิบดีกรมสรรพสามิตประกาศกำหนด เงินสินบน-เงินรางวัลนำจับ..แตกต่างกันอย่างไร…. "เงินสินบน" หมายความว่า เงินที่ทางราชการจ่ายให้แก่ผู้แจ้งความนำจับเกี่ยวกับความผิดในคดีตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ซึ่งเป็นบุคคลที่มิใช่เจ้าพนักงานตามระเบียบนี้ ได้นำมาแจ้งแก่ผู้รับแจ้งความนำจับถึงเบาะแสหรือเค้าเงื่อนแห่งการกระทำความผิด และเป็นผลให้ทำการจับกุมได้สำเร็จเนื่องจากการแจ้งความนั้นๆ นั่นก็หมายถึงประชาชนทั่วไปที่แจ้งข้อมูลเข้ามาไม่ว่าจะเป็นผ่านโครงการรวมพลังต้านน้ำมันเถื่อน แจ้งกรมสรรพสามิต หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีโอกาสจะได้รับเงินสินบนนี้ "เงินรางวัล" หมายความว่า เงินที่ทางราชการจ่ายให้แก่ผู้จับกุมผู้กระทำความผิดในคดีตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพนักงานกรมสรรพสามิต พนักงานปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา สำหรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินนั้น จะมีการจ่ายต่อเมื่อศาลตัดสินว่าคดีสิ้นสุด พบว่าเป็นการกระทำผิดจริง โดยกรณีที่มีผู้แจ้งความนำจับทางการจะจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัล ร้อยละ 55 ของค่าปรับโดยให้แบ่งจ่ายเป็นเงินสินบนร้อยละ 30 และจ่ายเป็นเงินรางวัลร้อยละ 25 และในกรณีที่ไม่มีผู้แจ้งความนำจับให้จ่ายเป็นเงินรางวัลแก่ผู้จับ ร้อยละ 55 ของเงินค่าปรับ อย่างไรก็ตาม ตามระเบียบระบุด้วยว่าให้มีการจ่ายเงินรางวัลเพิ่มเติม เฉพาะกรณีที่จับกุมผู้กระทำผิดตามได้พร้อมทั้งของกลางหรือได้เฉพาะของกลางและของกลางนั้นตกเป็นของกรมสรรพสามิต ให้จ่ายเป็นเงินรางวัลเพิ่มเติมจากเงินค่าขายของกลางได้อีกไม่เกินร้อยละ 55 ของค่าภาษีที่ได้จากค่าขายของกลางแต่ละรายที่ขายได้ ยกตัวอย่าง กรณีพิสูจน์ว่าข้อมูลที่แจ้งมา คิดเปรียบเทียบปรับแล้วมีมูลค่ารวม ๑ ล้านบาท ในส่วนนี้จะคิดเป็นเงินสินบนและเงินรางวัล 550,000 บาท และในส่วนนี้ผู้แจ้งข้อมูล จะได้เงิน 300,000 บาท ในขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้ร่วมจับกุมก็จะได้เงินรางวัล 250,000 บาท แต่ในกรณีที่เจ้าหน้าที่เข้าสืบทราบและจับกุมด้วยจนเองไม่มีการแจ้งเบาะแสนำจับจากประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้เงินรางวัลรวมมูลค่า 555,000 บาท สำหรับการขอรับเงินสินบน เงินรางวัล ให้ผู้แจ้งข้อมูลเบาะแส ยื่นคำขอภายใน 90 วันนับแต่วันที่ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบปรับคดีได้เปรียบเทียบผู้ต้องหา หรือวันที่จำเลยได้ชำระค่าปรับต่อศาล หรือวันที่ศาลได้มีคำพิพากษา ให้ลงโทษจำเลยโดยคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว โดยหากคดีอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ผู้แจ้งเบาะแสต้องยื่นคำขอต่ออธิบดีกรมสรรพสามิต หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มีอำนาจพิจารณาจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัล ในขณะที่หากคดีอยู่ในส่วนภูมิภาค ให้ผู้แจ้งเบาะแสยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดของจังหวัดนั้นๆ และที่สำคัญผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินสินบนหรือรางวัลจะต้องขอรับเงินจากกรมสรรพสามิตภายใน 180 วัน นับแต่วันสั่งจ่ายเงินสินบนหรือเงินรางวัล จะเห็นได้ว่าเงินสินบนนำจับมีสัดส่วนที่สูง เนื่องจากทางการต้องสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อน ดังนั้น หากผู้ใดพบเห็นกระบวนการหรือบุคคลใด เข้าข่ายกระทำผิดหลีกเลี่ยงการหนีภาษี ไม่ว่ารูปแบบใดก็ควรแจ้งเบาะแสโครงการรวมพลังต้านน้ำมันเถื่อนหรือแจ้งต่อทางการ ซึ่งผู้รับแจ้งก็มีหลายระดับ เช่น. ปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมสรรพสามิต เจ้าหน้าที่สรรพสามิต ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอ หัวหน้ากิ่งอำเภอ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปจนถึงระดับที่รองลงมา ไปจนถึงสารวัตรสถานีตำรวจในท้องที่ต่าง ๆ เมื่อผู้แจ้งข้อมูลหรือเบาะแสแล้ว ผู้รับแจ้งความนำจับจะมีการจัดทำหลักฐานการรับแจ้งความเป็นหนังสือ โดยระบุการกระทำผิด รายละเอียดเกี่ยวกับชื่อบุคคล สถานที่ วันเวลาที่แจ้ง เสร็จแล้วลงลายมือชื่อตำแหน่งของผู้รับแจ้งความ โดยถ้าผู้แจ้งความนำจับประสงค์จะไม่เปิดเผยชื่อ ทางเจ้าหน้าที่จะต้องพิมพ์ลายนิ้วมือให้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าผู้แจ้งความไม่ประสงค์ที่จะปิดชื่อเป็นความลับ ให้เขียนชื่อที่อยู่ของผู้แจ้งความนำจับ และให้มีการลงลายชื่อเป็นหรือพิมพ์ลายนิ้วมือไว้เป็นหลักฐาน ในหนังสือแจ้งความ แล้วทำสำเนา 1 ฉบับ มอบให้ผู้แจ้งความนำจับไว้เป็นหลักฐาน และ เมื่อได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางแล้ว ให้ผู้จับกุมดำเนินการส่งของกลางดังกล่าวให้กรมสรรพสามิตตรวจพิสูจน์ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยให้ผู้มีอำนาจทำการตรวจพิสูจน์รับรองว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีหรือเสียภาษีโดยไม่ถูกต้องครบถ้วน ต่อจากนั้นจึงดำเนินการขั้นตอนกฏหมายแล้วจึงจ่ายเงินสินบนหรือรางวัลนำจับต่อไป การให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการแจ้งเบาะแสข้อมูล จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยากลำบากและยังมีโอกาสได้เงินสินบนอีกด้วย และทางการก็รับรองด้วยว่าจะปิดข้อมูลเป็นความลับสุดยอด เพื่อไม่ให้ผู้แจ้งได้รับผลกระทบจากการกระทำดี ดังนั้น ความร่วมมือจากประชาชนในลักษณะนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดที่จะปราบกระบวนการน้ำมันเถื่อนให้หมดสิ้นไป พบเบาะแส น้ำมันเถื่อน ติดต่อ ตู้ ปณ.345 ปณ.จ.พระโขนง กรุงเทพ 10100 โทร. 0-2662-3288 www.eppo.go.th/petrol-- จบ-- -ศน-

• ข่าวสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
• ข่าวประชาสัมพันธ์
• ข่าวน้ำมันดีเซล
• ข่าวแผนพลังงาน
• ข่าวสำนักงาน