ททท. ขอเชิญชมการแสดงคีตนาฏกรรมประกอบเเสง เสียง ฟื้นตำนานวัดใหญ่ทักขิณาราม เรื่อง "บ้านใหญ่ทักขิณาราม"

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ททท. ภาคกลางเขต 8 ททท. ขอเชิญชมการแสดงคีตนาฏกรรมประกอบเเสง เสียง ฟื้นตำนานวัดใหญ่ทักขิณาราม เรื่อง "บ้านใหญ่ทักขิณาราม"วันที่ ๑ - ๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ ตั้งแต่เวลา ๑๘.๓๐ น. เป็นต้นไป ณ วัดใหญ่ทักขิณาราม อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นางจันทิพา ไชยนันทน์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลางเขต ๘ กล่าวว่า วัดใหญ่ทักขิณาราม (วัดใหญ่ลาว) แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดนครนายก เป็นแหล่งที่ก่อเกิดวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม มีคุณค่าทางด้านจิตใจ และมีพระอุโบสถที่งดงามควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาให้ดำรงสืบต่อไป จังหวัดนครนายก ประชาชนชาวบ้านใหญ่ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลาง เขต ๘ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงร่วมใจกันกำหนดจัดงาน ฟื้นฟูตำนานวัดใหญ่ทักขิณาราม (วัดใหญ่ลาว) โดยจัดเป็นการแสดงประกอบแสง เสียง เรื่อง "บ้านใหญ่ทักขิณาราม" ในวันที่ ๑-๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ ณ วัดใหญ่ทักขิณาราม อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ให้เป็นกิจกรรมหนึ่งของงาน นครนายก มรดกธรรมชาติและงานกาชาด ประจำปี 2545 การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และอนุรักษ์สถาปัตยกรรมของจังหวัดนครนายก สร้างแนวคิดให้ประชาชนในท้องถิ่นรักและหวงแหนศิลปวัฒนธรรมรวมทั้งวิถีชีวิตของตนไว้อย่างยั่งยืน และเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนกิจกรรมภายในงาน "ฟื้นฟูตำนานวัดใหญ่ทักขิณาราม (วัดใหญ่ลาว)"ุ ชมวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีจากอดีตสู่ปัจจุบัน และสัมผัสแรงศรัทธาในพุทธศาสนาของชาวลาวเวียงในการแสดงคีตนาฏกรรมประกอบแสง - สี - เสียง เรื่อง "บ้านใหญ่ ทักขิณาราม" ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. นำแสดงโดย ชาวชุมชนบ้านใหญ่, กำกับการแสดง-เขียนบท-แต่งเพลงโดย นายพงษ์อนันต์ สรรพานิช ผู้อำนวยการ กองอนุรักษ์ ททท.ุ ร่วมรับประทานอาหารค่ำ "เปิบสำรับ ฟื้นความหลัง" โดยฝีมือชุมชนชาวบ้านใหญ่ ในบรรยากาศแบบไทย ๆ ย้อนยุค ในราคาเพียงสำรับละ ๗๐๐ บาท (สำหรับ ๗ ท่าน) สามารถจองได้ที่สำนักงานจังหวัดนครนายก นางจันทิพา ไชยนันทน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากงานวิจัยประวัติศาสตร์เมืองนครนายก โครงการที่ดำเนินการตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยกองวิชาประวัติศาสตร์ส่วนการศึกษา โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า พ.ศ.๒๕๓๙ กล่าวว่าราว พ.ศ.๒๓๒๒ เมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไปตีล้านช้าง ได้กวาดต้อนเอาชาวลาวเวียงและลาวหัวเมืองฟากโขงตะวันออกมาไว้ที่ สระบุรี ลพบุรี ฉะเชิงเทรา ราชบุรี จันทบุรีและนครนายก กลุ่มชนเหล่านี้ได้สร้างสิ่งปลูกสร้างที่มีศิลปะแบบเวียงจันทน์มากมาย โดยเฉพาะการสร้างวัดวาอาราม ซึ่งถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชนและคนในชุมชนจะใช้เป็นสถานที่ทำกิจกรรมพบปะแลกเปลี่ยนความรู้และวิธีคิดร่วมกัน ในพ.ศ.๒๓๒๓ ชาวลาวเวียงที่ตั้งถิ่นฐานในนครนายกได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้น เรียก วัดใหญ่ลาว และต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๘๔ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดใหญ่ทักขิณาราม ในปัจจุบันสถาปัตยกรรมที่สร้างโดยช่างชาวเวียงจันทน์ที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในวัดที่มีสภาพสมบูรณ์ คือ พระอุโบสถที่มีอายุราว ๒๒๒ ปี มีความงดงามและทรงคุณค่ามาก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจังหวัดนครนายก โทร.๐-๓๗๓๑-๓๕๔๖, ๐-๓๗๓๑-๑๒๗๓ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต ๘ โทร. ๐-๓๗๓๑-๒๒๘๒, ๐-๓๗๓๑-๒๒๘๔--จบ-- -ศน-

ข่าวการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย+การท่องเที่ยวแห่งประเทศวันนี้

โรงแรมเคปฟาน เกาะสมุย เข้าร่วมโครงการ Carbon Footprint Hotels ร่วมกับ ททท.

มร. ทอม สโตร์อัพ (คนที่ 4 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเคปฟาน เกาะสมุย พร้อมด้วย มนัสนันต์ วริทธินันทกานต์ (คนที่ 5 จากซ้าย) หัวหน้าแผนกบัญชี, กิตติพงศ์ คงเหลา (คนที่ 1 จากซ้าย) หัวหน้าวิศวกร และพนักงานโรงแรมฯ วัลทิพย์ หวังหลี (คนที่ 3 จากซ้าย), ไพฑูรย์ ทอนกำไร (คนที่ 6 จากซ้าย), ปัณณพร สำลี (คนที่ 7 จากซ้าย), สุภาวดี เรืองเกษม (คนที่ 2 จากซ้าย) ร่วมแสดงความยินดี ในโอกาสที่โรงแรมฯ ได้รับใบประกาศนียบัตรเข้าร่วมโครงการ CF-Hotels หรือ Carbon Footprint Hotels จากการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ โรง

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ และก... ขอเชิญร่วม "งานบวร ๑๐"การจัดนิทรรศการศิลปะเฉลิมพระเกียรติ — พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ และการประกาศผลการประกวดวาดภาพบนพัดจีบ ชิงถ้วยพระราชทาน ณ ...