ธนาคารกรุงไทยจัดมหกรรมขายทอดตลาดใน 3 จังหวัดใหญ่

26 Nov 2002

กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--ธ.กรุงไทย

ธนาคารกรุงไทยร่วมกับกรมบังคับคดี จัดขายทอดตลาดทรัพย์สินกว่า 1,000 รายการ ในจังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่นและนครสวรรค์ หลังประสบความสำเร็จในการขายทอดตลาดที่กรุงเทพฯ โดยสามารถขายทรัพย์สินได้กว่า 300 ล้านบาท นายอัสนี ทรัพยวณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการหนี้ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าธนาคารกรุงไทยร่วมกับกรมบังคับคดี จัดงานมหกรรมขายทอดตลาดทรัพย์ในส่วนของลูกหนี้ธนาคารด้วยวิธีการประมูล ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ จัดประมูลในวันที่ 30 พฤศจิกายน วันที่ 21 ธันวาคม 2545 วันที่ 11 มกราคม และ 8 กุมภาพันธ์ 2546 ณ โรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว มีทรัพย์สินที่จะจำหน่าย 500 รายการ จังหวัดขอนแก่น จัดประมูลในวันที่ 7 ธันวาคม 2545 และ18 มกราคม 2546 ณ โรงแรมเจริญธานี ปริ๊นเซส มีทรัพย์สินที่จะจำหน่าย 250 รายการ จังหวัดนครสวรรค์ จัดประมูลในวันที่ 14 ธันวาคม 2545 วันที่ 25 มกราคม และ 15 กุมภาพันธ์ 2546 ที่โรงแรมพิมาน มีทรัพย์สินที่จะจำหน่าย 290 รายการ โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ ตลอดจนที่ดินเปล่า ราคาเริ่มต้นที่ 50-80% ของราคาประเมินสำหรับงานมหกรรมขายทอดตลาดทรัพย์สินในกรุงเทพฯ 4 ครั้งที่ผ่านมา ธนาคารประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง สามารถจำหน่ายทรัพย์สินได้จำนวน 270 รายการ เป็นจำนวนเงิน 300 กว่าล้านบาท ในแต่ละครั้งมีผู้เข้าร่วมงานประมูลประมาณ 800 คน ทั้งนี้เพราะทรัพย์สินที่นำมาขายทอดตลาดราคาค่อนข้างถูก ผู้ที่ประมูลซื้อ เพียงวางเงินสดหรือแคชเชียร์เช็ค 40,000บาท และเมื่อประมูลซื้อได้ ยังสามารถใช้เงินดังกล่าวเป็นค่ามัดจำสินทรัพย์ที่ซื้อได้อีกด้วย

นายอัสนี ทรัพยวณิช คาดว่าการขายทอดตลาดใน 3 จังหวัด จะมีผู้สนใจร่วมประมูลจำนวนมากเช่นกัน เพราะทรัพย์สินค่อนข้างถูก และใช้เงื่อนไขการประมูลแบบเดียวกับที่จัดในกรุงเทพฯ ผู้ที่ประมูลซื้อทรัพย์ได้ ธนาคารให้การสนับสนุนสินเชื่อในวงเงินกู้ 90% และให้วงเงินกู้เพื่อซ่อมแซมปรับปรุงอาคารอีก 5% ผ่อนชำระนานถึง 30 ปี ไม่เสียค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยมีให้เลือก 3 แบบ คือ อัตราคงที่ 1 ปีแรก 3.5% หรืออัตราคงที่ 2 ปีแรก 4.25% หรืออัตราคงที่ 3 ปีแรก 4.75% หลังจากนั้นคิดอัตรา MLR - 0.75 ต่อปี ซึ่งขณะนี้ MLR เท่ากับ 6.50 % ดูรายละเอียดทรัพย์สินที่ www.ktb.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่หมายเลข 0-2290-1761,1763-9

สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ โทร. 0-2208-4174-7 วันที่ 26 พฤศจิกายน 2545--จบ--

-ศน-