กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--คอร์ปอเรท พับลิค รีเลชั่น คอนซัลแตนท์
ชมรมนรีแพทย์ผ่าตัดผ่านกล้องแห่งประเทศไทย ก้าวไกลระดม 20 แพทย์มือดีระดับโลกร่วมประชุมใหญ่ผ่าตัดภายในผ่านกล้องในไทยครั้งแรก เผยวิธีรักษาโรคทางนรีเวชแบบใหม่ แก้ไขได้ทั้งชีสต์ เนื้องอกอวัยวะสืบพันธุ์ภายใน นอกจากจะเจ็บตัวน้อยแล้วยังใช้เวลาพักฟื้นไม่นานก็กลับไปทำงานได้
ศ.พ.ญ.คุณหญิงกอบจิตต์ ลิมปพยอม ประธานชมรมนรีแพทย์ผ่าตัดผ่านกล้องแห่งประเทศไทยประธานการจัดงาน ประชุมวิชาการ"การผ่าตัดทางนรีเวชผ่านกล้องนานาชาติ ครั้งที่ 6" กล่าวว่า ปัจจุบันโรคทางนรีเวชที่พบมากในผู้หญิงไทย มักเกิดจากภาวะติดเชื้อ รองลงมาคือ เนื้องอกอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น รังไข่ มดลูก และปากมดลูก เป็นต้น
ภาวะเนื้องอกของอวัยวะสืบพันธุ์ ในอดีตแพทย์จะวินิจฉัยโดยการตรวจภายใน และผ่าตัดรักษาด้วยการเปิดแผลใหญ่ที่หน้าท้องเพื่อผ่าตัดเนื้องอก ซึ่งคนไข้ต้องนอนอยู่โรงพยาบาลประมาณอีก 7 วัน แล้วก็กลับไปพักฟื้นที่บ้านอีก 6 สัปดาห์ แต่ปัจจุบันแพทย์ไทยได้นำวิทยากรใหม่ที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยการผ่าตัดผ่านกล้อง เช่น กรณีที่เนื้องอกขนาดไม่ใหญ่มากเกินไป หรือมีผังผืดเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ใช่ก้อนมะเร็ง แพทย์ก็สามารถทำการผ่าตัดได้โดยเจาะรูเล็กๆ ประมาณ 0.5-1 เซ็นติเมตร สำหรับส่องกล้องลงไปพร้อมเครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็ก เพื่อผ่าตัดในช่องเชิงกรานได้
"กรณีนี้ผู้ป่วยจะมีแผลขนาดเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น ประมาณ 2-3 แผลเท่านั้นและไม่เจ็บปวดมากนอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 24-48 ชั่วโมงแล้วกลับไปพักพื้นที่บ้านประมาณ 2 สัปดาห์ ก็สามารถกลับไปทำงานใช้ชีวิตปกติได้ภายใน 7-14 วัน วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับผู้หญิงทุกคน ทุกช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นการเอาชีสต์ที่รังไข่ออก การผ่าตัดเลาะผังผืดออกจากอุ้งเชิงกราน การตัดมดลูก หรือ กรณีที่มีก้อนขนาดใหญ่ในมดลูกก็สามารถสลายทิ้งได้ ขณะที่ผ่าตัดสามารถมองเห็นการทำงานได้ผ่านโทรทัศน์วงจรปิด อีกทั้งยังเป็นวิธีการที่ดีสำหรับเด็กสาวหรือวัยรุ่นที่อาจเกิดโรคในช่องท้อง แต่ไม่กล้ามาพบแพทย์จนปล่อยให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ทำให้โอกาสรักษาหายยากขึ้น"ศ.พ.ญ.คุณหญิงกอบจิตต์ กล่าว
สำหรับค่ารักษาพยาบาลนั้นแม้จะมากกว่าในการผ่าตัดปกติ เนื่องจากเครื่องมือที่ใช้ราคาแพง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายที่ลดลงเพราะไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลายวัน ไม่เสียเวลา สามารถกลับไปทำงานได้เร็วกว่าวิธีการผ่าตัดปกติ อีกทั้งได้คุณภาพชีวิตที่ดีกว่ามาก นับว่าเป็นวิธีที่คุ้มค่า และในกรณีที่จำเป็นยังสามารถทำซ้ำได้หลายครั้ง
"ในกรณีของคนไข้ที่เป็นหมันบางคนพอผ่าตัดแก้ไขแล้วนานไปเกิดเป็นผังผืดขึ้นมากมาย ก็ต้องกลับมาผ่าตัดอีก แต่ถ้าใช้วิธีการผ่าตัดผ่านกล้องนี้ ผังผืดจะเกิดน้อยมาก วิธีการผ่าตัดผ่านกล้องนี้ในประเทศไทยมีการใช้มาเป็นระยะเวลาร่วม 20 ปี โดยใช้เป็นการทำหมันผ่านกล้อง แต่การผ่าตัดนี้ทำมาประมาณ 10 ปี และยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก" ประธานชมรมนรีแพทย์ผ่าตัดผ่านกล้องแห่งประเทศไทย กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยยังต้องการแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้อีกจำนวนมาก ซึ่งวิธีการผ่าตัดผ่านกล้องนี้ ผู้ป่วยจะต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเคยผ่านการฝึกอบรมพิเศษเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมฯ ได้ดำเนินโครงการจัดฝึกอบรมการผ่าตัดทางนรีเวชผ่านกล้องให้กับแพทย์ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยได้เพิ่มการฝึกอบรมพิเศษระยะสั้นสำหรับแพทย์และพยาบาลในแต่ละโรงพยาบาลให้มาร่วมฝึกเป็นทีมงานเสมือนจริงเพื่อกลับไปปฏิบัติต่อผู้ป่วยของโรงพยาบาลตนเองได้ในอนาคต และยังได้เข้าร่วมในการสอนแสดงการผ่าตัดและช่วยผ่าตัดในผู้ป่วยจริงด้วย ซึ่งนรีแพทย์ที่รับการอบรมจะสามารถเพิ่มทักษะในการใช้กล้องตรวจวินิจฉัยโรคทางช่องท้อง รวมถึงทำการผ่าตัดทางนรีเวชผ่านกล้อง และมีทักษะพื้นฐานในการส่องกล้องตรวจวินิจฉัยโรคภายในโพรงมดลูก
สำหรับการประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นโดย ชมรมนรีแพทย์ผ่าตัดผ่านกล้องแห่งประเทศไทย (TSGE) ราชวิทยาลัยสูตนรีแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมนรีแพทย์ผ่าตัดผ่านกล้องนานาชาติ ร่วมจัดประชุมวิชาการเรื่อง "Laparoscopy และ Hysterroscopy" หรือการผ่าตัดทางนรีเวชผ่านกล้อง ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเพื่อแสดงถึงศักยภาพของวงการสูตินรีแพทย์ไทยที่ได้มีการพัฒนาการแพทย์แขนงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก กว่า 20 ประเทศเป็นวิทยากร รวมทั้งมีการจัด Workshop การผ่าตัดผ่านกล้องครั้งแรกในเอเชียและประเทศไทย โดย C.H.Koh แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจากอเมริกา ในระหว่างที่ 12-15 พฤศจิกายนนี้ ณ โรงแรมแชงกรีลา
"เราหวังว่าจะช่วยให้แพทย์ไทยได้รับวิทยาการใหม่ๆ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมากมาย วิทยากรมีตั้งแต่คนที่ผ่าตัดมดลูกทางกล้องคนแรก จากอเมริกา และแพทย์ที่ทำการผ่าตัดทุกชนิดในช่องท้องซึ่งมาจากเยอรมัน เรามีวิทยากรประมาณ 20 คนจากต่างประเทศ และมีผู้เข้าลงทะเบียนประมาณ 27 ชาติแล้วขณะนี้ และที่สำคัญเพื่อต้องการให้ต่างชาติเห็นถึงศักยภาพของแพทย์ไทยว่าสามารถทำได้และทำได้ดีด้วย ซึ่งในต่างประเทศใช้วิธีการนี้กันอย่างแพร่หลาย วิธีการนี้ทำให้เราไม่สูญเสียแรงงาน แม้ค่าลงทุนจะสูงในครั้งแรก แต่ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว" ประธานชมรมนรีแพทย์ผ่าตัดผ่านกล้องแห่งประเทศไทย กล่าว--จบ--
-กจ/นห-