"ไดโนโทเปีย" ภาพยนตร์ชิ้นเอกที่ใช้ทุนสร้างมหาศาลกว่า 3,000 ล้าน ทีไอจีเอพร้อมนำเด็กๆ ท่องดินแดนมหัศจรรย์ในรูปแบบวีซีดีลิขสิทธิ์แล้ว

11 Nov 2002

กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--PC&C

ทีไอจีเอนำเด็กไทยร่วมโลดแล่นไปกับเหล่าไดโนเสาร์แสนน่ารักในวีซีดีล่าสุด "ไดโนโทเปีย" จากสุดยอดผลงานภาพยนตร์โทรทัศน์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในยุโรปและอเมริกา ฮอลล์มาร์ค เอนเตอร์เทนเมนต์ ทุ่มทุนสร้างสุดอลังการกว่า 3,000 ล้านบาท ระดมทีมงานชั้นเลิศร่วมสร้างสรรค์เทคนิคพิเศษตระการตาเพื่อถ่ายทอดจินตนาการลึกล้ำจากนวนิยายอันลือลั่นระดับโลก

ไดโนโทเปีย (DINOTOPIA) มินิซีรี่ส์ความยาว 6 ชั่วโมง สร้างจากนวนิยายสำหรับเด็กของเจมส์ เกอร์นีย์ ที่เป็นหนังสือขายดีในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก และได้รับการแปลถึง 18 ภาษา นำเสนอเรื่องราวแห่งความสนุกสนานประทับใจ เมื่ออุบัติเหตุเครื่องบินตกทำให้สองพี่น้อง "คาร์ล" และ "เดวิด" พลัดหลงเข้าไปสู่ดินแดนมหัศจรรย์ที่ไดโนเสาร์หลากประเภท ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสงบสุขและช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยความจริงใจ แต่ขณะเดียวกันก็มีคนอันธพาลและไดโนเสาร์เหล่าวายร้าย ที่นำไปสู่การผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของสองพี่น้องในการค้นหา "หินสุริยัน" ที่ศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า

เพื่อช่วยพิทักษ์ดินแดนไดโนโทเปียให้รอดพ้นจากการล่มสลายเพราะพลังอิทธิพลชั่วร้าย พร้อมสอดแทรกเรื่องราวความรักกระจุ๋มกระจิ๋มมาแต่งแต้มให้ครบทุกรสชาติ

ร่วมตื่นตาตื่นใจกับความอลังการของงานสร้างและเทคนิคพิเศษที่ยิ่งใหญ่ตระการตาเพื่อสร้างสรรค์ให้จินตนาการปรากฏเป็นภาพได้อย่างสุดมหัศจรรย์ ทั้งฉากดินแดนเร้นลับที่งดงามราวกับนำเมืองเวนิซมาตั้งอยู่เหนือน้ำตกไนแอการา และเพลิดเพลินกับโลกไดโนเสาร์หลากพันธุ์ที่เป็นทั้งผู้ใช้แรงงานไปจนถึงผู้บริหารและนักวิชาการ โดยมีภาษาไดโนเสาร์สำหรับสื่อสารกันในดินแดนแห่งนี้ให้เรียนรู้อย่างสนุกสนานด้วย ตะลึงกับกองทัพอากาศแห่งไดโนโทเปียที่ประกอบด้วยไดโนเสาร์บินได้เหมือนนกที่สยายปีกได้ถึง 30 ฟุต และควบคุมการบินโดยมนุษย์

มินิซีรี่ส์สุดหฤหรรษ์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในยุโรปและอเมริกา โดย ฮอลล์มาร์ค เอนเตอร์เทน-เมนต์ ทุ่มงบประมาณถึง 3,000 ล้านบาท เพื่อสร้างสรรค์ "ไดโนโทเปีย" ให้เป็นผลงานชิ้นเอก ซึ่งถือเป็นมูลค่ามหาศาลในประวัติศาสตร์การจัดทำภาพยนตร์โทรทัศน์ โดยลงทุนเฉพาะในด้านเทคนิคพิเศษและคอมพิวเตอร์กราฟิคที่ล้ำสมัยที่สุดทุกรูปแบบถึง 800 ล้านบาท ใช้ทีมงานกว่า 400 คน นำโดยมาร์โค แบรมบิลลา ผู้กำกับที่มีผลงานจากโดดเด่นจากเรื่อง เดโมลิชั่นแมน, โรเบิร์ต ซาลมี่ ผู้อำนวยการสร้าง ที่ฝากฝีมือไว้ในเรื่องเมอร์ลินและอาราเบียนไนท์ พร้อมทีมโปรดิวเซอร์ ชั้นแนวหน้าผู้มีผลงานในเรื่องซูเปอร์แมน, วอล์คกิ้งวิธไดโนเสาร์, สลีพี่ฮอลโลว์ ฯลฯ วอลเตอร์ มาร์ติเชียส เป็นผู้ออกแบบงานสร้าง นำแสดงโดย เดวิด ธิวลิส, เคที่ คาร์, จิม คาร์เตอร์, อลิซ คริจ, ไทรอน เลทโซ, เวนท์เวิร์ธ มิลเลอร์, และ สจวร์ต วิลสัน เริ่มถ่ายทำตั้งแต่เดือนตุลาคม 2544 - มีนาคม 2545 ที่ประเทศอังกฤษโดยเป็นการใช้พื้นที่จัดสร้างฉากใหญ่ที่สุดในยุโรปและล่าสุดบริษัท ทีไอจีเอ จำกัด พร้อมนำเสนอความมหัศจรรย์แห่งจินตนาการแล้วในรูปแบบวีซีดี ลิขสิทธิ์รวม 3 ตอน ได้แก่ พิภพมหัศจรรย์, พลังหินสุริยัน, และผจญภัยสุดขอบฟ้า

พบกับวีซีดี "ไดโนโทเปีย" ตั้งแต่วันนี้ ที่เซเว่นอีเลฟเว่น และร้านจำหน่ายวีซีดีชั้นนำทั่วประเทศ

**********************************เรื่องย่อ

ไดโนโทเปีย เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของ 2 พี่น้อง "คาร์ล" และ "เดวิด" ผู้รอดตายจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ซึ่งทำให้ทั้งสองพลัดหลงไปอยู่ใน "ไดโนโทเปีย" - ดินแดนเร้นลับเหนือจินตนาการ ที่มนุษย์และไดโนเสาร์ ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไดโนเสาร์ทั้งหลายต่างพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์อย่างเป็นมิตร แตกต่างจากไดโนเสาร์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

ไดโนโทเปีย เป็นโลกเร้นลับที่สงบร่มเย็นเต็มไปด้วยสันติสุข ดำรงอยู่ด้วยกฎเกณฑ์ของสังคมที่ช่วยเหลือเกื้อกูล และเคารพนับถือกันระหว่างมนุษย์กับไดโนเสาร์ ทั้งคาร์ลและเดวิดได้รับการแนะนำให้รู้จักกับอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองอย่างน่าอัศจรรย์ของดินแดนแห่งนี้โดย "แมเรียน" ลูกสาวคนสวยของนายกเทศมนตรีแห่งเมืองน้ำตก (Waterfall City) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของไดโนโทเปีย

ไดโนเสาร์ส่วนใหญ่ในในไดโนโทเปียเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา โดยใช้ชีวิตและทำงานร่วมกับมนุษย์อย่าง กลมกลืน ไม่ว่าจะเป็น "แบรคคีโอซอรัส" ที่มีขนาดมหึมาและมีความอดทนเป็นเลิศ เหมาะกับการตรากตรำทำงานหนัก และมีหน้าที่ในการจัดสรรยวดยานสาธารณะ ในขณะที่ "สเตโนซอรัส" ผู้มีสติปัญญาชาญฉลาดก็เหมาะสมกับงานบริหารจัดการ ส่วน "เทโรซอร์" ผู้มีรูปร่างคล้ายนกและสามารถสยายปีกได้กว้างถึง 30 ฟุตนั้นก็รับหน้าที่เป็นขุมกำลังทางอากาศของไดโนโทเปียซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของ "สกายแบ็กซ์"

ไดโนโทเปียไม่ได้มีแต่ไดโนเสาร์ที่ดีทั้งหมด ยังมีพวกไดโนเสาร์กินเนื้อที่เป็นตัวอันตรายอย่าง "ไทรานโนซอรัส เร็กซ์" และ "โมซาซอร์" ที่มีลักษณะเหมือนจระเข้ขนาดยักษ์ที่แสนดุร้าย เป็นภัยคุกคามอันน่าสะพึงกลัวของดินแดนนี้ตลอดมา นอกจากนี้ก็ยังมีคนอันธพาลอย่าง "ไซรัส แครบบ์" ผู้สืบเชื้อสายมาจากโจรสลัดและใช้ชีวิตเยี่ยงอาชญากรนอกกฎหมาย เย้ยหยันกฎเกณฑ์ของชาวไดโนโทเปีย และปฏิเสธที่จะยอมรับนับถือเหล่าไดโนเสาร์ ผู้ที่มันตราหน้าเรียกว่า "ไอ้ยักษ์ตัวเกล็ด" (Scaleys)

คาร์ลและเดวิดมาถึงไดโนโทเปียในช่วงเวลาที่ดินแดนอันเร้นลับแห่งนี้เกิดวิกฤตการณ์สำคัญ เมื่อ "หินสุริยัน" ที่เปรียบเสมือนศูนย์รวมพลังอานุภาพของไดโนโทเปียอ่อนกำลังลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้อำนาจมืดและกลุ่มอิทธิพลที่อันตรายเข้ามารุกรานดินแดนแห่งอารยธรรมที่เคยมีแต่ความสงบสุขนี้

สองพี่น้องคือคาร์ลและเดวิดได้เข้าไปพัวพันกับการต่อสู้เพื่อปกปักษ์พิทักษ์ไดโนโทเปียจากการถูกทำลายล้าง โดยไม่ได้ตั้งใจและไม่เต็มใจ พวกเขาได้รับความช่วยเหลือในการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญจากไดโนเสาร์ผู้ปรารถนาดีที่ชื่อ "ซิปโป้" นักปราชญ์พันธุ์สเตโนซอรัสที่สามารถพูดทั้งภาษามนุษย์และไดโนเสาร์ได้ถึง 17 ภาษา

ทั้งคาร์ลและเดวิดต่างก็ไม่ใส่ใจกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่แมเรียนเป็นผู้แนะนำจัดหาให้เลย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งแรกที่ทั้งคู่ให้ความสนใจอย่างยิ่งนับตั้งแต่ได้มาถึงดินแดนไดโนโทเปียก็คือแมเรียนผู้งดงามนั่นเอง และสองพี่น้องต่างก็ตกหลุมรักเธอสุดหัวใจ และหวังที่จะพิชิตใจของเธอมาครอบครองให้ได้

ทั้งคาร์ลและเดวิดต้องต่อสู้กับตัวเองเพื่อเอาชนะความรู้สึกส่วนตัวที่ไม่ดีต่างๆ รวมถึงความลังเลและข้อขัดแย้งภายในใจ ตลอดจนความคิดที่แตกต่างกันทั้งหลายทั้งปวง เมื่อเขาตัดสินใจที่จะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปในโลกแห่งความมหัศจรรย์แห่งนี้ และทำตัวให้เป็นชาวไดโนโทเปียนโดยสมบูรณ์แบบ

***************************************************เพลิดเพลินกับ 3 ตอนสุดสนุกสนานของ "ไดโนโทเปีย"

: พิภพมหัศจรรย์, พลังหินสุริยัน, และ ผจญภัยสุดขอบฟ้า

พิภพมหัศจรรย์ (THE NEW WORLD)

ครอบครัวสก็อตต์ ที่ประกอบไปด้วย คุณพ่อ-แฟรงค์ (สจ๊วต วิลสัน) พร้อมด้วยลูกชายวัยรุ่น 2 คน คาร์ล (ไทรอน เลทโซ) และ เดวิด (เวนท์เวิร์ธ มิลเลอร์) กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังทะเลคาริบเบียน แต่ได้เกิดประสบอุบัติเหตุขึ้น เมื่อเครื่องบินของพวกเขาได้เผชิญเข้ากับพายุที่เกิดขึ้นแบบไม่รู้ตัวมาก่อน ทำให้แฟรงค์สูญหายไป เหลือแต่สองพี่น้องที่กลายเป็นผู้รอดชีวิต พร้อมๆ กับที่พวกเขาได้เดินทางมาพบกับดินแดนมหัศจรรย์ที่ชื่อ "ไดโนโทเปีย" ดินแดนที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ดำรงชีวิตร่วมกับไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆ มากมาย ภายใต้การนำของ นายกเทศมนตรี วาลโด้ (จิม คาร์เตอร์) ซึ่งทั้ง สองคนนั้นได้ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งรอบตัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเมืองน้ำตก, เมืองภูผา, หินสุริยัน ที่สามารถให้แสงสว่างและป้องกันภัยจากไดโนเสาร์ดุร้ายได้ หรือ "ซิปโป้" ไดโนเสาร์อัจฉริยะที่สามารถพูดภาษามนุษย์และไดโนเสาร์ได้ถึง 17 ภาษา และโดยเฉพาะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "แมเรียน" (แคธี่ คาร์) ลูกสาวคนสวยของวาลโด้ ที่ทั้งคาร์ลและเดวิดต่างก็แอบชอบเธอ ซึ่งสิ่งต่างๆ รอบตัวเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต

พลังหินสุริยัน (A POWER OF SUNSTONE)

เมื่อใช้ชีวิตอยู่ที่ไดโนโทเปียได้สักระยะ ทั้งคาร์ล และเดวิด ก็ได้ถูกส่งไปค้นหาตัวเอง โดยคำสั่งของโรสแมรี่ (อลิซ คริจ) ซึ่งเป็นแม่ของแมเรียน โดยคาร์ลนั้นได้ถูกสั่งให้คอยดูแลไข่ไดโนเสาร์หมายเลข 26 จนกระทั่งฟักเป็นตัว ทำให้คาร์ลได้รับรู้และเข้าใจกับชีวิตของมนุษย์มากยิ่งขึ้น พร้อมๆ กับในขณะที่ตัวเดวิดนั้นก็ถูกส่งไปรับการฝึกอบรมกับอูนน์ (คอลิน ซัลมอน) ทีมตำรวจเหินฟ้า ทั้งๆ ที่เขาเป็นโรคกลัวความสูงอย่างหนัก และที่สำคัญคือเขาจะต้องทำให้นกไดโนเสาร์เชื่อใจว่าตัวเขานั้นมีความเหมาะสมที่จะเป็นเจ้านายซึ่งสามารถจะบังคับมันได้ และในเวลาต่อมาทั้งสองพี่น้องก็ได้รับรู้ว่าหินสุริยันที่เป็นสิ่งสำคัญและล้ำค่าที่สุดของดินแดนไดโนโทเปียนี้ ซึ่งคอยให้แสงสว่างที่สามารถปกป้องรักษาเมืองนี้จากสิ่ง ชั่วร้ายต่างๆ ของพวกโลกมืด กำลังมีคนคิดที่จะขโมยไป เพราะมีเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในไดโนโทเปียได้เกิดขึ้น

ผจญภัยสุดขอบฟ้า (END OF JOURNEY)

และแล้วในที่สุด การดำเนินชีวิตในเมืองไดโนโทเปียของทั้งสองพี่น้อง-คาร์ลและเดวิดก็ตกอยู่ในอันตราย เมื่อพวกเขาถูก ไซรัส แครบบ์ (เดวิด ธิวลิส) ผู้ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่กับพวกโจรสลัดมาก่อน หลอกล่อให้ขโมยหินสุริยันเพื่อนำมาใช้ในการหลบหนีออกจากดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ แต่แล้วพวกเขาทั้งสามคนก็ไม่ประสบความสำเร็จในการเดินทางออกจาก

ไดโนโทเปีย ด้วยความตั้งใจของคาร์ลและเดวิด ที่รู้สึกถึงความโหดเหี้ยมของไซรัส จึงทำให้สองพี่น้องยินยอมที่จะไม่เดินทางออกนอกไดโนโทเปีย แต่ในขณะเดียวกันระหว่างที่ทั้งคาร์ลและเดวิดกำลังเผชิญหน้ากับไซรัสอยู่นั้น ไดโนโทเปียก็เกิดความวุ่นวายปั่นป่วนขึ้น เพราะต้องใช้แสงสว่างจากหินสุริยันเพื่อมาช่วยรักษาเมืองให้รอดพ้นจากภัยอันตรายในครั้งนี้ให้จงได้(ยังมีต่อ)

-ศน-