กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่น
บริษัท สุนทรฟิล์ม จำกัด บริษัทผู้ผลิตงานกราฟฟิกในระบบการเตรียมพิมพ์ (Prepress) ที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศ เปิดตลาดนำมาตรฐานเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสู่อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ไทย มุ่งมั่นแข่งขัน กับบริษัทชั้นนำของโลก โดยสุนทรฟิล์มทุ่นเงินกว่า 18 ล้านบาท เพื่อนำไฮเดลเบิร์ก ทอป เซ็ตเตอร์102 พรีเพรส คอมพิวเตอร์-ทู-เพลท (The Heidelberg Topsetter 102 Prepress Computer -to-Plate) และ PDF Workflow อุปกรณ์การเตรียมพิมพ์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากบริษัท ไฮเดลเบิร์ก กราฟฟิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้นำเสนอโซลูชั่นกระบวนการทำงานที่เพิ่มขีด ความสามารถให้ระบบการเตรียมพิมพ์ และยกระดับคุณภาพของงานพิมพ์ในตลาดพรีเพรสได้อย่างไร้คู่แข่ง
คุณณรงค์ศักดิ์ มีวาสนาสุข ผู้จัดการทั่วไปและบุคคล บริษัท สุนทรฟิล์ม จำกัด กล่าวว่า "เทคโนโลยี ที่ใช้ในธุรกิจการพิมพ์ของไทยล้าหลังกว่าสหรัฐ และยุโรปอยู่หลายปี บริษัทสุนทรฟิล์มจึงตัดสินใจ นำอุปกรณ์สุดยอดเทคโนโลยีของไฮเดลเบิร์กมาใช้เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพสู่สากล ซึ่งทำให้ ความสามารถของอุปกรณ์ของเรา รวมทั้งคุณภาพผลงานเทียบเท่ากับผู้ผลิตงานในระบบการเตรียม พิมพ์จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่าง ประเทศที่ต้องการงาน คุณภาพเยี่ยมได้เป็นอย่างดี"
ไฮเดลเบิร์ก ทอปเซ็ตเตอร์ 102 พรีเพรส คอมพิวเตอร์-ทู-เพลท (The Heidelberg Topsetter 102 Prepress Computer-to-Plate) และ PDF Workflow เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยส่งงานกราฟฟิกดีไซน์จาก คอมพิวเตอร์ไปสู่เพลทได้ทันทีโดยอาศัยซอฟต์แวร์คุณภาพของไฮเดลเบิร์ก จึงเป็นการเพิ่ม ประสิทธิผลให้งานพิมพ์และลดความผิดพลาดจากขั้นตอนการเตรียมงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ถ่ายฟิล์ม ทำปรู๊ฟ และขั้นตอนอื่นๆ
คุณณรงค์ศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า "นี่เป็นพัฒนาการที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของเราในการเพิ่มขีดความ สามารถและยกระดับคุณภาพบริการด้านการเตรียมพิมพ์ในประเทศไทย เนื่องจากได้ขจัดความ ผิดพลาดที่อาจเกิดจากการทำงานของคน เช่นในขั้นตอนการถ่ายฟิล์มของเจ้าหน้าที่และจากอุปกรณ์ อื่นๆ ด้วยการยกเลิกขั้นตอนทั้งหมด นอกจากนั้นยังเป็นการลดต้นทุนการเตรียมพิมพ์ และความ สิ้นเปลือง เพราะไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบต่างๆ ในขั้นตอนการผลิตอีกต่อไป"
ไฮเดลเบิร์ก ทอปเซ็ตเตอร์ 102 พรีเพรส คอมพิวเตอร์-ทู-เพลท ยังมีความสามารถในการลดความ ผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกรณีดีไซน์ต้นแบบเปลี่ยนไปเมื่อนำมาถ่ายฟิล์มให้เหลือเพียง 1 % รวมถึง ช่วยเร่งการส่งงานกราฟฟิกดีไซน์ไปให้ลูกค้าตรวจปรู๊ฟให้เร็วขึ้นโดยผ่านระบบออนไลน์อีกด้วย
"เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับการส่งงานไปให้ลูกค้าตรวจปรู๊ฟ เพราะการตรวจปรู๊ฟทุกอย่าง สามารถกระทำได้อย่างรวดเร็วด้วยการส่งไฟล์ภาพดิจิตอลกราฟฟิกทางอินเทอร์เน็ต แม้แต่การส่ง ปรู๊ฟไปให้ลูกค้าที่อยู่คนละมุมโลกตรวจก็ยังสามารถทำได้ง่ายดาย และรวดเร็วพอๆ กับการส่งให้ กับลูกค้าในกรุงเทพฯ"
"สามสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด ได้แก่ คุณภาพที่ยอดเยี่ยม ราคาที่เหมาะสม และกระบวนการ ตอบสนองที่รวดเร็ว ทั้งภายในประเทศและทั่วโลก ซึ่งการลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าวจะทำให้ การตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าพัฒนาขึ้นอย่างมาก พร้อมกับพัฒนาโซลูชั่นการพิมพ์สู่ ความเป็นผู้นำในตลาด ยิ่งกว่านั้น ทอปเซ็ตเตอร์ 102 ยังทำให้เราจัดเก็บและค้นหาข้อมูลได้มากถึง 6 เทราไบต์ ซึ่งจะทำให้เราสามารถมีห้องสมุดภาพดิจิตอลกราฟฟิกเล็กๆไว้สำหรับเก็บงานที่ ลูกค้าต้องการหลายครั้งหรือใช้บ่อยๆ " คุณณรงค์ศักดิ์กล่าว
มร. อลัน วีเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของบริษัท ไฮเดลเบิร์ก กราฟฟิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าการนำเทคโนโลยีระดับสูงของไฮเดลเบิร์กเข้ามาใช้ จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการอัน รวดเร็วและต่อเนื่งอของอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย ซึ่งมีมูลค่าถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
"ราคาและคุณภาพงานพิมพ์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยเป็นที่นิยมของลูกค้าต่างชาติ หาก เสริมกำลังด้วยการลงทุนและการนำเทคโนโลยีระดับสูงของไฮเดลเบิร์กเข้ามาใช้ อย่างที่บริษัท สุนทรฟิล์มทำ ย่อมจะทำให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมีความมั่นใจในบริการมากขึ้น และทำให้ เราสามารถจัดการกับงานพิมพ์ที่ยุ่งยากต่างๆ ได้เป็นอย่างดี"
"เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยพัฒนาธุรกิจการพิมพ์ไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ซึ่งคอมพิวเตอร์-ทู-เพลท เป็นตัวอย่างที่ดียิ่งสำหรับการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ย่นระยะ เวลาในการทำงาน ลดต้นทุน และเพิ่มคุณภาพ" มร.วีเมอร์กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าบริษัท สุนทรฟิล์ม จะได้นำเอาเทคโนโลยีใหม่นี้เข้ามาใช้ แต่ก็ยังไม่ได้ละทิ้ง การใช้เครื่องมือแบบเดิมที่มีอยู่ โดยพนักงานทั้ง 220 คน ก็ยังคงใช้เครื่องมือเหล่านั้นสำหรับผลิต งานให้แก่ลูกค้าเดิมที่มีอยู่
"เทคโนโลยีใหม่นี้จะลดการสิ้นเปลืองแรงงาน ต้นทุน และวัตถุดิบสำหรับงานที่มีความซับซ้อน แต่นั่นมิได้หมายความว่าจะตัดงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันออกไป ดังนั้นเราจะฝึกอบรมพนักงานของเรา ให้สามารถใช้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมืออันทันสมัยของไฮเดลเบิร์ก ซึ่งช่วยเพิ่มมิติใหม่ให้กับ ระบบการเตรียมพิมพ์ที่มีอยู่ของเรา ยิ่งเมื่อเรานำเทคโนโลยีใหม่มาใช้มากขึ้น ความรู้ความสามารถ และ ความเชี่ยวชาญของพนักงานของเราก็จะก้าวตามไปด้วยเช่นกัน"
"ในโลกยุคดิจิตอล อุตสาหกรรมการพิมพ์ของไทยจำเป็นต้องพัฒนาการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า และการบริหารงานไปสู่ระดับสากลให้ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออก และทำให้เรากลายเป็นส่วน หนึ่งของวงการกราฟฟิกเพื่อการพิมพ์ของโลกซึ่งกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย" นาย ณรงค์ศักดิ์กล่าวในตอนท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณชนัตถ์ แนวณรงค์ หรือ คุณชูจิตร ภิรมย์อรรถ
บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทร. 0-2653-2717-9
แฟกซ์. 0-2653-2725
อีเมล์.
[email protected] จบ--
-ศน-