กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--กสอ.
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหวังโครงการ "พันธมิตรอุตสาหกรรม" หรือ "คลัสเตอร์" ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมไทยดึงผู้บริหารจากหอการค้าไทยและสภาพัฒน์ จัดเสวนาให้ความรู้พร้อมกลยุทธ์การรวมกลุ่มในลักษณะคลัสเตอร์แก่ผู้ประกอบการไทย ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้
นางสุมลมาลย์ กัลยาศิริ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้เล็งเห็นความสำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย ตามนโยบาย ของภาครัฐที่ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้แข่งขันกับต่างชาติในเวทีการค้าโลกจึงได้จัดทำโครงการพันธมิตรอุตสาหกรรม หรือคลัสเตอร์ ขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเหมือนกัน คล้ายกัน หรือเชื่อโยงกัน และอยู่ในพื้นที่เดียวกันหรือใกล้เคียงกันมารวมกลุ่มกัน เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองทางด้านธุรกิจ ทั้งด้านต้นทุนวัตถุดิบ ด้านการตลาด ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้นโดยกรมส่งเสริม อุตสาหกรรมจะเป็นหน่วยงานทีช่วยกระตุ้นและประสานระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคสถาบันการเงินและสถาบันการศึกษาเพื่อให้เข้ามาสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงได้จัดงานเสวนา "คลัสเตอร์รวมใจ นำอุตสาหกรรมไทยสู่สากล" ขึ้นในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ ที่โรงแรม โซฟิเทล เซ็นทรัลพลาซ่า เพื่อให้ความรู้และชี้ให้เห็นถึงประโยชน์และความจำเป็นที่ผู้ประกอบการไทยต้องรวมกลุ่มกัน โดยเชิญผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมให้ความรู้ อาทิ นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ,นายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานหอการค้าไทย และนางสาววิไพร ลิ่วเกษมศาสต์ จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์
นอกจากการเสวนาในครั้งนี้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมก็จะมีการจัดอบรมสัมนาผู้ประกอบการเป็นระยะ ๆ ต่อไปอีกด้วย
"การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการไทยต้องมีการพัฒนาเพื่อให้ทัดเทียมกับต่างชาติ ดังนั้นการรวมกลุ่มในลักษณะและคลัสเตอร์ก็จะเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยยกระดับความสามารถของอุตสาหกรรมไทยได้"
โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเหมือนกันหรือเชื่อมโยงกันก็มักจะเจอกับปัญหาและอุปสรรคที่เหมือนกันๆ การรวมกลุ่มกันทำธุรกิจก็จะทำให้มีอำนาจในการต่อรองเพิ่มมากขึ้นในการที่จะแก้ปัญหาและอุปสรรคหรือขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ในระยะเริ่มต้นกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้คิดเลือกอุตสาหกรรมนำร่องใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมด้วยกัน คือ 1. อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารในเขตภาคกลาง เนื่องจากประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพดี มีศักยภาพสูงสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ นอกจากนั้นยังเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้มาก เนื่องจากใช้วัตถุดิบในประเทศเกือบทั้งสิ้น รวมทั้งภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างจริงจังเพื่อมุ่งหวังให้ไทยเป็น Kitchen of the World
2. อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ภาครัฐมีนโยบายให้การสนับสนุนและส่งเสริมอย่างจริงจัง เพื่อมุ่งหวังให้ไทยเป็น Detroit of Asia
และ 3. อุตสาหกรรมสิ่งทอในจังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากในจังหวัดชัยภูมิเริ่มมีการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการสิ่งทอ ที่ย้ายฐานและขยายการผลิตจากกรุงเทพฯและจังหวัดอื่นๆ ประกอบกับภาครัฐและเอกชนในท้องถิ่นมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นจุดเด่นและจุดขายของจังหวัด นอกจากนี้อุตสาหกรรมสิ่งทอยังจัดอยู่ในอุตสาหกรรมกลุ่มแฟชั่น ซึ่งรัฐมีนโยบายที่จะสนับสนุนอย่างจริงจังด้วย
สอบถามเพิ่มเติมได้ที
โสรยา พงษ์ประยูร
โทร.02-663-3226 ต่อ 51 หรือ 01-697-9100--จบ--
-สก/พห-