กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--กทม.
นายสุวิทย์ ศิลาทอง ผู้อำนวยการกองกฎหมายและคดี สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ กองกฎหมายและคดี กำลังประสบปัญหานิติกรสมองไหล โดยเฉพาะนิติกรที่มีความรอบรู้และชำนาญการขอโอนย้ายไปยังหน่วยงานอื่น ที่มีอัตราเงินเดือนสูงกว่า เช่น สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด รวมทั้งมีหน่วยงานอื่นอีกหลายหน่วยงาน ที่มีทั้งเงินเดือนที่สูงกว่าและมีเงินเพิ่มพิเศษตามตำแหน่งให้ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นต้น เช่น ระดับ ซี 3 มีเงินเพิ่มพิเศษ 3,000 บาท ระดับ ซี 6 มีเงินเพิ่มพิเศษ 6,000 บาท เป็นต้น ประกอบกับงานในด้านกฎหมายของกรุงเทพมหานครมีเพิ่มขึ้นจากเดิม กล่าวคือ มีคดีปกครองของหน่วยงานและของเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกัน การฟ้องคดี และต่อสู้คดี รวมทั้งเมื่อคดีความต่าง ๆ ที่ถึงที่สุดแล้วก็ต้องเร่งบังคับคดีก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ทำให้กรุงเทพมหานครขาดนิติกรผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ซึ่งมีน้อยอยู่แล้วไปทุกที
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน นิติกรของกองกฎหมายและคดีขอลาออกหรือโอนย้ายไปแล้ว จำนวน 6 คน ซึ่งยังไม่รวมถึงนิติกรในหน่วยงานอื่นของกรุงเทพมหานครก็มีแนวโน้มสมองไหลเช่นกัน และในเดือนต.ค.46 นี้ ก็มีนิติกรอีก 2 คน ที่จะขอออกไปเป็นตุลาการศาลยุติธรรม ทำให้ขาดอัตรากำลังนิติกรที่มีความชำนาญการของกรุงเทพมหานคร และการปฏิบัติงานของกองกฎหมายและคดีที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการพิจารณาทางด้านกฎหมายและคดีความทุกสำนัก รวมทั้ง 50 สำนักงานเขต ย่อมได้รับผลกระทบ อีกทั้งเมื่อมีนิติกรลาออกหรือโอนย้ายไปทำให้ภาระหนักตกแก่นิติกรที่เหลือ ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้นเพียง 47 ตำแหน่งเท่านั้น
ดังนั้น ในเร็ว ๆ นี้ ตนจะขอเข้าหารือกับนางณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาสมองไหล ดังกล่าว เบื้องต้นมีแนวคิดปรับปรุงเงินเพิ่มพิเศษนิติกร เสนอให้คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) พิจารณาเพิ่มเงินพิเศษสำหรับนิติกรให้ทัดเทียมกับหน่วยงานอื่นเพื่อเป็นสิ่งจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และเป็นการรักษานิติกรที่มีคุณภาพให้ อยู่กับกรุงเทพมหานครมากขึ้น--จบ--
-นห-