กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--อาร์.เอส.โปรโมชั่น
                                                                                                                                      
                                                                                                                                      นายเกรียงไกร  เชษฐโชติศักดิ์  ประธานกรรมการบริษัท อาร์. เอส. โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน)  และนายกสมาคมเทปและแผ่นเสียง-ไทยเปิดเผยว่า  ภายหลังที่ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี  ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กำหนดมาตรการในการปราบปรามการค้าสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเด็ดขาด  โดยได้จัดพิธีลงนามบันทึกความตกลงว่าด้วยความร่วมมือปฏิบัติงานการป้องปรามการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งได้เชิญหน่วยงานราชการ  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กรมศุลกากร  กรมทรัพย์สินทางปัญญา  ผู้ว่าฯ จ.ภูเก็ต   จ.สงขลา  จ.ชลบุรี  จ.เชียงใหม่  และเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาประเภทลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า  รวม 17 องค์กร  เมื่อวันที่ 12  กันยายน  2546  แล้วนั้น ปรากฏว่าในช่วง เสาร์ - อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบ พื้นที่เป้าหมายโซนยุทธศาสตร์อันเป็นพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งการค้าขนาดใหญ่เกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา  เช่น  ตลาดบ้านหม้อ  คลองถม  สะพานเหล็ก   พันธ์ทิพย์ ฯลฯ  พบว่าบรรดาผู้ค้าขายของละเมิดฯ ได้เลิกจำหน่ายและเก็บแผงที่ตั้ง  ตลอดจนปกซีดีที่ตั้งโชว์ไว้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์   และยังพบความจริงใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่อีก  กล่าวคือ ได้ออกมารณรงค์แจกใบปลิวขอความร่วมมือให้ผู้ค้าขายของผิดกฎหมายเหล่านี้ได้ยุติการขาย  และให้ปรับตัวในการเปลี่ยนการค้าด้วยการขายของที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีพื้นที่ แม้ว่าจะอยู่ในโซนยุทธศาสตร์ซึ่งรัฐบาลกำหนดไว้ ไม่ให้มีการขายของที่ละเมิดฯก็ตาม  ก็ยังสามารถพบเห็นได้  เช่น  ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต  อันเป็นเขตของ สภ.อ.คูคต  และศูนย์การค้าฟิวเจอร์รังสิต  อันเป็นเขตของ สภ.ต.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์  ซึ่งจะได้แจ้งให้นายวัฒนา  เมืองสุข  รมช.พาณิชย์ ทราบต่อไป 
                                                                                                                                      นายเกรียงไกรกล่าวว่า  สมาคมเทปฯ มีแผนที่จะเสนอให้กระทรวงพาณิชย์  จัดทำบัญชีพื้นที่เฝ้าระวังเพิ่มเติมอีก  เพราะจากการเข้มงวดและกวดขันของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นแล้วปรากฏว่าได้มีบรรดาพ่อค้าหัวใสได้ย้ายพื้นที่การขายไปตามที่ต่าง ๆ และมีพฤติการณ์ที่มีการค้าขนาดใหญ่และมักปฏิบัติตนในการต่อสู้เจ้าพนักงานในการเข้าจับกุม อาทิ ศูนย์การค้าพาต้าปิ่นเกล้า  ศูนย์การค้าน้อมจิตต์   ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค  และในอำเภอกระทุ่มแบน  และอำเภอเมือง  จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรปราการ   จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดปราจีนบุรี 
                                                                                                                                      
                                                                                                                                      จังหวัดระยอง  จังหวัดจันทบุรี  จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดอุดรธานี  จังหวัดหนองคาย จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดนครสวรรค์  จังหวัดเชียงราย  จังหวัดเพชรบูรณ์   เป็นต้น  ซึ่งสมาคมเทปฯ เห็นว่า หากมาตรการนี้ประสบความสำเร็จ ก็น่าที่จะขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมต่อไปอีก เพราะวันนี้สถานการณ์ของประเทศไทยปรับเปลี่ยนไปมาก  ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่บรรดาเจ้าหน้าที่และบรรดาพ่อค้าของผู้ค้าขายของละเมิดฯ ที่เคยสนับสนุนหรือเกื้อกูลกันด้วยการขายของผิดกฎหมาย  ก็ต้องปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามครรลองของการค้าที่ถูกกฎหมายจะดีกว่า  ซึ่งจะได้ช่วยให้มีการพัฒนาการค้า และเป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกด้วย
                                                                                                                                      รายงานข่าวจากเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญารายหนึ่งแจ้งว่า  สาเหตุที่ทำให้มีการเข้มงวดกวดขันในการปราบปรามการขายของละเมิดทรัพย์สินทางปัญญานั้น  เนื่องมาจาก นายกรัฐมนตรี ต้องการปราบปรามการค้าของละเมิดฯ ให้หมดไป  โดยหวังผลให้การปราบปรามนี้เป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบและผลิตงานทรัพย์สินทางปัญญาออกมาจำหน่าย  อีกนัย ในเดือนตุลาคม 2546 จะมีการประชุมเอเปคที่ประเทศไทย  ประกอบกับประเทศไทยและ  สหรัฐอเมริกากำลังจะเจรจาการค้าระบบทวิภาคี  โดยให้ FTA เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย  และเมื่อวันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2546  นายกรัฐมนตรีได้เชิญหน่วยงานราชการที่สำคัญต่อการปราบปราม อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ผู้ว่าฯ ทั้ง 4 จังหวัด เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล  โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมมืออย่างจริงจัง  และหากมีการทำงานโดยผ่านการประเมินผล   จะมีรางวัลจากภาคเอกชนให้  และหากหย่อนยาน  รัฐบาลจะมีการทบทวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในท้องที่นั้น ๆ  จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมกวาดล้างอย่างหนัก  เพราะกลัวมาตรการนี้เหมือนกับการปราบปรามยาเสพติด   วินมอเตอร์ไซด์  หวยเถื่อน 
                                                                                                                                      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 
                                                                                                                                      โทร 0-2511-0555 ต่อ 170, 108
                                                                                                                                      มล-นฤมล แสงระ 0-1519-5290
                                                                                                                                      นิ้ง-สุธาสินี ไกรฤกษ์ 0-9793-3852--จบ--
                                                                                                                            
                                                                                                                            -สส-