กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--บางจาก
นายวัฒนา โอภานนท์อมตะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากฯ (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2546 ได้มีมติเห็นชอบให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นและเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติลดทุนจดทะเบียนบริษัทฯ จาก 7,720,409,400 เป็น 5,220,409,400 บาท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ได้เคยขออนุมัติไว้นานแล้วแต่ยังไม่ได้จำหน่ายออกไป และให้ลดทุนจดทะเบียน บริษัทฯ จาก 5,220,409,400 บาท เป็น 522,040,940 บาท โดยลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากเดิมหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท การลดมูลค่าหุ้นดังกล่าวเป็นการดำเนินการทางบัญชีเท่านั้น ไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นตามบัญชี ซึ่ง ณ 30 มิถุนายน 2546 อยู่ที่ 7.30 บาทต่อหุ้น การดำเนินการดังกล่าวเพื่อจะให้บริษัทฯ สามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้เร็วขึ้น เพราะลดผลขาดทุนสะสม ณ สิ้นไตรมาส 1 ลงได้จาก 7,900 ล้านบาท เหลือ 600 ล้านบาท หรือเหลือเพียง 8% ซึ่งหากบริษัทฯ มีกำไรเกิน 600 ล้านบาทจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ทันที แต่ถ้าไม่ลดขาดทุนสะสมต้องใช้เวลาอีกหลายปี จึงจะจ่ายเงินปันผลได้ นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในอนาคตด้วย
นายวัฒนากล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการยังมีมติเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นบางจากฯ ขอเพิ่มทุน โดยเสนอขายให้กับกองทุนที่จะจัดตั้งขึ้นตามที่ ครม. อนุมัติ โดยกองทุนจะระดมทุนจากตลาดทุน ทั้งจากสถาบันการเงินและประชาชนทั่วไป เงินกองทุนนี้จะนำไปลงทุนในบริษัท บางจากฯ โดยกระทรวงการคลังจะรับประกันการลงทุนของเงินต้น หรือกระทำการอื่นที่เป็นการประกันเงินต้นของหน่วยลงทุนที่ออกโดยกองทุน สำหรับรายละเอียดอยู่ระหว่างการศึกษาของที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับหุ้นสามัญที่คาดว่าจะจัดสรรในปีนี้ มีจำนวนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น โดยราคาหุ้นที่จะเสนอขายอยู่ระหว่างการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ส่วนหุ้นที่เหลือจำนวน 860 ล้านหุ้น จะขอจดทะเบียนไว้ก่อนเพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพ และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว
บริษัทฯ จะนำมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ดังกล่าวเข้าเสนอในที่ประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญในวันที่ 29 สิงหาคม 2546 เวลา 13.00 น. เพื่อขออนุมัติดำเนินการต่อไป
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ในไตรมาส 3 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนั้นตามที่บริษัทฯ ได้ร่วมมือทางธุรกิจกับ ปตท. และไทยออยล์ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ในไตรมาส 2 กำลังกลั่นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 72,000 บาเรลต่อวัน สูงกว่าไตรมาสแรก 15% และไตรมาส 3 คาดว่ากำลังกลั่นของบางจากฯ จะเพิ่มขึ้นอีก 10-15% เป็น 80,000 บาเรลต่อวัน ซึ่งทั้งสองปัจจัยจะส่งผลด้านบวกต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
ส่วนประชาสัมพันธ์ โทร.0-2335-4554 31 กรกฎาคม 2546--จบ--
-สส-