ธ.ไทยพาณิชย์ ประกาศผลประกอบการและฐานะการเงินไตรมาสสองของปี 2546 ก่อนการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอิสระ: กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเกือบ 8 เท่าจากปีก่อน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--ธ.ไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการและฐานะการเงินไตรมาสสองของปี 2546 ก่อนการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอิสระ: กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเกือบ 8 เท่าจากปีก่อน ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งผลประกอบการเบื้องต้นสำหรับไตรมาสสองของปี 2546 ก่อนการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอิสระ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 2,895 ล้านบาท ใกล้เคียงกับกำไรสุทธิ 3,077 ล้านบาทในไตรมาส 1/2546 และเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 363 ล้านบาทในไตรมาส 2/2545 สำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2546 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 5,971ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 691 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ในไตรมาสนี้ธนาคารมีกำไรสุทธิสูงขึ้นจากปีก่อนเกือบ 8 เท่า เนื่องจากการตั้งสำรองที่ลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้นจากการบริหารสภาพคล่อง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือเพิ่มขึ้นตามภาวะธุรกิจที่ดีขึ้น ในไตรมาสนี้ ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการเคหะที่ธนาคารยังคงสามารถปล่อยกู้ได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สินเชื่อสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่และ SMEs มีแนวโน้มที่ดีขึ้น สำหรับโรค SARS ที่เริ่มระบาดในช่วงต้นไตรมาสได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินเชื่อและพฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตบ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อธนาคารมากนัก” ในด้านนโยบายการดำเนินธุรกิจต่อไปนั้น ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า “ธนาคารจะเน้นการทำธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจรายย่อยนั้น จะมีการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของธนาคารและเครือข่ายสาขาตามโครงการปรับปรุงธนาคาร รวมทั้งการนำเสนอบริการใหม่ๆ ซึ่งลูกค้าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงที่เหลือของปีนี้” รายละเอียดผลประกอบการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้ 1. รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิจากดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาสนี้ จำนวน 4,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 4,345 ล้านบาทในไตรมาสสองของปีก่อนและลดลงจาก 4,647 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 2.7 ในไตรมาสก่อน เป็นร้อยละ 2.6 ในไตรมาสนี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากมีเงินปันผลจากเงินลงทุนลดลงจากไตรมาสก่อน 2. รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาสนี้จำนวน 2,178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีจำนวน 2,163 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักดังนี้- รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นจำนวน 85 ล้านบาท ส่วนใหญ่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากบัตร ATM ธุรกรรมอิเลคทรอนิคส์ และจากการจัดจำหน่ายตราสารหนี้- ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อย/ร่วมเพิ่มขึ้นจำนวน 136 ล้านบาท เนื่องจากในปีก่อนมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของบริษัทย่อยอย่างไรก็ตาม กำไรจากเงินลงทุนลดลง 141 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสสองของปีนี้ มีการขายหุ้นจากการลงทุนในจำนวนที่น้อยลง และกำไรจากการปริวรรตเงินตราลดลง 76 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2546 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดก่อน คือ 2,178 ล้านบาท โดยธนาคารมีกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นตามภาวะตลาดหลักทรัพย์ มีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อย/ร่วมเพิ่มขึ้น และมีกำไรจากการปริวรรตเงินตราเพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการลดลง เนื่องจากการลดลงของค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตจากผลกระทบของโรค SARS ที่ทำให้การใช้จ่ายลดลง 3. ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย ธนาคารมีค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาสนี้ จำนวน 3,307 ล้านบาท ลดลงจาก 3,633 ล้านบาทในไตรมาสสองของปีก่อน เนื่องจากในปีก่อนมีการตั้งสำรองเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์รอการขาย 330 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 158 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์ เป็นผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงาน (Operating cost to income ratio) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นร้อยละ 50 แต่ยังคงต่ำกว่าร้อยละ 52.6 ของปี 2545 4. ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาส 2/2546 ธนาคารตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตั้งสำรองเป็นการทั่วไป (General reserve) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 ธนาคารมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 79,026 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อจัดชั้นมีปัญหาร้อยละ 64.6 งบดุล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 ธนาคารมียอดสินเชื่อ 487,853 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,742 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.6 จากสิ้นปี 2545 และเพิ่มขึ้น 5,978 ล้านบาทหรือร้อยละ 1.2 จากไตรมาสก่อน ธนาคารมียอดเงินฝาก 587,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2545 จำนวน 18,741 ล้านบาท ขณะที่ลดลงจากไตรมาสก่อน จำนวน 506 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.1 ทำให้สัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 82.0 ณ สิ้นไตรมาสแรก เป็นร้อยละ 83.1 ในไตรมาสนี้ธนาคารมีส่วนของผู้ถือหุ้น 60,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2545 จำนวน 8,077 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 5,265 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน จากผลกำไรของธนาคารในไตรมาสนี้ และกำไรจากการตีราคาหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเงินกองทุนตามกฎหมาย (ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2) ณ 30 มิถุนายน 2546 มีจำนวน 62,685 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 13.3 ของสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเป็นส่วนของเงินกองทุนชั้นที่ 1 ประมาณร้อยละ 7.7 ของสินทรัพย์เสี่ยง สินเชื่อจัดชั้นมีปัญหา ธนาคารมีสินเชื่อจัดชั้นมีปัญหาตั้งแต่ชั้นต่ำกว่ามาตรฐานลงมาซึ่งรวมดอกเบี้ยค้างรับ สินทรัพย์อื่นและเงินให้กู้ยืมแก่สถาบันการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 จำนวนทั้งสิ้น 122,471 ล้านบาทหรือร้อยละ 24.7 เทียบกับจำนวน 120,566 ล้านบาท (ร้อยละ 24.7) ณ สิ้นไตรมาส 1/2546 สำหรับสินเชื่อด้อยคุณภาพตามคำนิยามใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ สิ้นไตรมาส 2/2546 มีจำนวน 120,634 ล้านบาทหรือร้อยละ 24.5--จบ-- -สส-

ข่าวธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด+ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวนวันนี้

ธนาคารไทยพาณิชย์รับมอบประกาศเกียรติคุณสถาบันการเงินที่รับบริจาคโลหิตสูงสุด ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รับมอบใบประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่มีการรับบริจาคโลหิตสูงที่สุดในกลุ่มสถาบันการเงิน ประจำปี 2567 จากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ในงานประชุมผู้ประสานงานด้านการจัดหาผู้บริจาคโลหิต ประจำปี 2568 โดยมีนายศักดิ์สิทธิ์ ปิติพงศ์สุนทร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสายงานกิจกรรมเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์ รับมอบจากนายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ณ โรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ นายศักดิ์สิทธิ์ ปิติพงศ์สุนทร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสายงานกิจกรรมเพื่อสังคม ธนาคาร

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้... ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% มีผลวันที่ 15 สิงหาคม 2568 — ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% ต...

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ และ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ ที่ 'BBB' และ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)...

"PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลคร... "PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ — "PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ รวมสุดยอดโปร LPGA และโปรกอล์ฟชั้นนำของไทยกว่า ...