กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--กทม.
น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ โฆษกสภากรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.46) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ได้มีการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 (ครั้งที่ 4) ประจำปี พ.ศ.2546 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาญัตติของนายกวี ณ ลำปาง ส.ก.เขตพญาไท เรื่องขอให้กรุงเทพมหานคร จัดหาที่พักให้แก่ผู้สูงอายุ และที่พัก ชั่วคราวให้แก่เด็กเร่ร่อน
โฆษกสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของญัตติดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากในปัจจุบันสถานสงเคราะห์คนชราในกรุงเทพมหานครมีจำนวนน้อยแห่ง ไม่เพียงพอต่อจำนวนคนชราซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นผลจากความเจริญก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ทำให้ประชาชนมีอายุยืนยาวขึ้น ประกอบกับลักษณะครอบครัวของสังคมไทยเป็นแบบครอบครัวเดียวมากขึ้น ทำให้คนชราถูกทอดทิ้ง และตามมาตรา 89 (23) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 กำหนดให้กรุงเทพมหานครมีอำนาจดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการสังคมสงเคราะห์ และมาตรา 16 และ 17 ประกอบกับมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 กำหนดให้กรุงเทพมหานครมีอำนาจและหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นเกี่ยวกับการสังคมสงเคราะห์ การพัฒนา คุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส
นอกจากนี้กรุงเทพมหานครก็กำลังประสบปัญหาเด็กเร่ร่อนซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และเด็กเร่ร่อนดังกล่าวมักจะพักอาศัยในที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น บริเวณสนามหลวง สวนสาธารณะ ใต้สะพาน และศาลาที่พัก ผู้โดยสาร เป็นต้น ส่งผลให้เกิดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยและเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีแก่กรุงเทพมหานครและประเทศชาติ ดังนั้นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเด็กเร่ร่อนและเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตลอดจนภาพลักษณ์ที่ดีของกรุงเทพมหานครและประเทศชาติ จึงขอให้กรุงเทพมหานครจัดหาที่พักชั่วคราวให้แก่เด็กเร่ร่อนดังกล่าว ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานครร่วมอภิปรายสนับสนุนญัตติดังกล่าว อาทิ กทม.ควรจัดหา สถานที่พักที่เหมาะสม มีสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี และดูแลเด็กเร่ร่อนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สถาบันครอบครัว สังคมดีขึ้น ส่วนหน่วยงานที่ดูแลสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสควรจัดให้เป็นหน่วยงานหลักโดยระบุสังกัดชัดเจน เป็นต้น
ด้านนายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภายในเดือนต.ค. นี้ งานช่วยเหลือคนเร่ร่อนของกรมประชาสงเคราะห์จะโอนเข้ามาในสังกัดกรุงเทพมหานคร กทม.ได้มีการเตรียมพร้อมเต็มที่ในการรับโอนภารกิจดังกล่าว โดยในส่วนของผู้สูงอายุจะจัดเป็นนิคมคนชรา ใช้พื้นที่ในเขตหนองจอก ซึ่งสามารถพัฒนาได้ จัดให้มีสัดส่วน หาอาชีพให้ฝึกทำเพื่อเพิ่มพูน รายได้ สำหรับปัญหาเด็กเร่ร่อน ขณะนี้ปลัดกรุงเทพมหานครได้มีการจัดตั้งศูนย์บริการด้านเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ประจำทุกเขต ซึ่งการดำเนินงานครอบคลุมถึงการดูแลเด็ก เร่ร่อนด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมสภากทม.มีมติเห็นชอบญัตติดังกล่าว โดยจะนำเสนอฝ่ายบริหารกรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป--จบ--
-นห-