กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--อาร์.เอส.โปรโมชั่น
เป็นศิลปินวงดนตรีร็อคที่ตอนนี้ใครๆ ต่างก็พากันยอมรับในฝีมือและน้ำเสียงที่เป็น เอกลักษณ์ฟังที่ไหนก็จำได้ว่าเป็นผลงานเพลงของวงนี้แน่นอน ซึ่งจะเป็นนักร้องวงไหนไปไม่ได้นอกจากศิลปินในสังกัด "อาร์.เอส.ฯ" อย่าง 5 กระทิงหนุ่ม "เบบี้ บูล" ที่มีสมาชิกประกอบไปด้วย "อั้ม - นรินธร สุนทรเกตุ (ร้องนำ) , เอ - สุรชัย จึงศรีจันทร์ (กีต้าร์) , สิด - สิทธิพร สิงห์ไทยสงค์ (กีต้าร์) , เต้ - คุณาพจน์ แซ่เล้า (เบส) และ ไก่ - อาทิตย์ แซ่โง้ว (กลอง)" พิสูจน์ได้จากเพลงดังอย่าง "ประติมากรรมน้ำแข็ง" , "ไม่มีอะไรจริงๆ" , "เพราะเธอเป็นคนดี" ที่ "อั้ม - นรินธร สุนทรเกตุ" นักร้องนำของวง ถ่ายทอดออกมาได้อย่างกินใจและไม่เหมือนใครจริงๆ จนตอนนี้เพลงในอัลบั้ม "เบบี้ บูล" ฮิตติดชาร์ตเพลงอันดับต้นๆ ทั่วประเทศกันเป็นว่าเล่น ซึ่งเคล็ดลับในการร้องเพลงที่เป็นเอกลักษณ์แบบนี้ "บันเทิงไทยรัฐ" ก็ได้ไปสอบถามจากเจ้าตัวมาฝากให้กับแฟนๆ ทุกคนด้วย
ซึ่ง "อั้ม - นรินธร สุนทรเกตุ" นักร้องนำ "เบบี้ บูล" เปิดเผยให้ฟังว่า "ที่จริงแล้วการร้องเพลงเป็นอะไรที่ผมชอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็จะฝึกร้องเพลงของศิลปินคนอื่นเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ผมโชคดีหน่อยคือช่วงประมาณป. 5 - ป.6 คุณครูจะเริ่มสอนการอ่านทำนองเสนาะแล้วให้นักเรียนในห้องอ่าน ผมก็อ่านให้คุณครูฟังเหมือนเพื่อนๆ แหละครับ พอหลังเลิกเรียนตอนเย็นคุณครูก็เรียกไปพบคนเดียวแล้วฝึกให้ผมอ่านทำนองเสนาะแบบจริงจัง ซ้อมแบบหนักมาก ตอนนั้นยังเด็กคุณครูก็จะอ่านให้ฟังแล้วให้เราอ่านตาม แล้วก็จะประกวดการอ่านทำนองเสนาะทุกปี จนพอเริ่มอยู่ประมาณมัธยมปลายที่ "ร.ร. นวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา" ก็มีการประกวด "ขับเสภา" ผมก็ได้เป็นตัวแทนของร.ร. ไปเข้าแข่งขับเสภาด้วย ตอนนั้นรู้สึกจะเป็นโครงการของโฟนลิงค์ จัด ผมก็ได้รับ "รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1" มาด้วย จำได้ว่า "ขับเสภา" นี้ยากมากๆ ฝึกหนักกว่าตอน "อ่านทำนองเสนาะ" อีก หรือเพราะว่าผม "อ่านทำนองเสนาะ" มาตั้งแต่เด็กเลยรู้ทาง แต่ "ขับเสภา" มาเริ่มตอนโตแล้ว ซึ่งการ "ขับเสภา" จะมี "ลูกเอื้อน" ที่เยอะกว่า การแบ่งจังหวะจะยากและซับซ้อนกว่าและจะมีการใช้เครื่องดนตรีไทยคือ "กรับ" มาช่วยกำหนดจังหวะ แต่ตอนที่ผมประกวดใช้เป็นการขับกันสดๆ เลย ไม่ใช่เครื่องดนตรี พอได้รางวัลมาภูมิใจมากๆ อยากบอกว่าทั้งการ "อ่านทำนองเสนาะ" และ "ขับเสภา" จะมีเสน่ห์ในตัว เพราะไม่ว่าจะเป็นคำหรือภาษา ทำนองจะสวยงามมากๆ ซึ่งพื้นฐานจากตรงนี้แหละที่ผมนำมาใช้กับการเป็นนักร้อง ทำให้รู้วิธีการใช้เสียงที่ถูกต้อง ใช้เสียงที่ออกมาจากท้อง ไม่ใช่การตะโกนร้อง รู้จักการใช้และควบคุม "ไดนามิคเสียง" ก็คือการคุมเสียง "หนัก" และ "เบา" ตอนนี้ก็เลยค่อนข้างเสียดายที่ไม่ค่อยได้เห็นเด็กรุ่นใหม่ "อ่านทำนองเสนาะ" หรือ "ขับเสภา" ที่เป็นวัฒนธรรมของไทยเรากันแล้ว หาฟังยากมาก ผมก็เลยอยากฝากเพื่อนๆ น้องๆ แฟนเพลงทุกคนอยากให้ช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีนี้ของไทยเราเอาไว้ด้วย และอีกอย่างเป็นการช่วยในเรื่องการใช้เสียงของเราด้วย ถ้าเรามีทักษะที่ดีก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานอื่นๆ ได้ ฝากไว้ด้วยนะครับ"--จบ--
-รก-