บ.ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นเดินหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นป้อนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ ปี2548

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--ปตท. ย้ำประโยชน์ภาพรวมของโครงการ นอกจากเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแล้ว ยังสามารถช่วยประเทศประหยัดค่าพลังงานได้ 800 ล้านบาท ในเวลา 25 ปี ส่งผลให้สามารถแข่งขันกับสนามบินนานาชาติอื่นได้ วันนี้ (3 ก.พ.47) ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานพร้อมด้วย นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายสิทธิพร รัตโนภาส ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าและระบบน้ำเย็น ระหว่าง บริษัทผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด (DCAP) กับ Shinryo - Thai Shinryo Consortium และระหว่างบริษัทผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น กับ The consortium of Kawasaki Heavy Industries Ltd. and Sumitomo Corporation นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานกรรมการบริษัทผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น เปิดเผยถึงการลงนามสัญญาครั้งนี้ว่าบริษัทผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น ได้ลงนามในสัญญา 2 ฉบับ โดยสัญญาที่ลงนามกับบริษัท Shinryo - Thai Shinryo Consortium นั้น เป็นสัญญาว่าจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้ามีมูลค่าประมาณ1,268 ล้านบาท ส่วนสัญญาที่ลงนามกับ The Consortium of Kawasaki Heavy Industries Ltd.and Sumitomo Corporation เป็นสัญญาว่าจ้างติดตั้งระบบผลิตน้ำเย็น โดยมีมูลค่าสัญญาประมาณ 588 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังจากลงนามก่อสร้างผู้รับเหมาแล้ว คาดว่าบริษัทฯสามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและน้ำเย็นในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2548 ซึ่งทันกับความต้องการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นแบบ District Cooling นี้ ได้มีการใช้กับสนามบินสุวรรณภูมิเป็นแห่งแรกของประเทศ อยู่ในความดูแลของบริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 45 ล้านคน/ปี และในอนาคตจะเพิ่มเป็น 100 ล้านคนต่อปี มีการขนถ่ายสินค้าจำนวน 3 ล้านตันต่อปี และในอนาคตจะเพิ่มเป็น 6.4 ล้านตันต่อปี เพื่อให้การรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารจำนวนมหาศาล และสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่างๆให้มีประสิทธิภาพ ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าปริมาณสูง การนำระบบผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น หรือ District Cooling System and Power Plant หรือที่เรียกย่อๆว่า DCSPP ซึ่งเป็นระบบผลิตร่วม (Co-Generation Plant) ระหว่างไฟฟ้าและน้ำเย็นเข้ามาใช้จะทำให้ความต้องการไฟฟ้าลดลง เพราะถ้าหากใช้ระบบเดิมในการผลิตไฟฟ้า สนามบินจะต้องใช้ไฟฟ้าถึง 70 เมกะวัตต์ ขณะที่ระบบ DCSPP ใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้าเพียงแค่ 50 เมกะวัตต์และยังสามารถนำความร้อนที่เหลือ แทนที่จะปล่อยทิ้งสู่บรรยากาศ มาผลิตไอน้ำส่งไปใช้ในกระบวนการผลิตน้ำเย็นสำหรับระบบปรับอากาศให้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีความต้องการใช้น้ำเย็น 12,500 RT (Refrigerant Ton) ทำให้สามารถประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายของสนามบินได้ถึงจำนวน 800 ล้านบาทตลอดในเวลา 25 ปี นอกจากนั้นโรงไฟฟ้า DCSPP ยังสามารถเชื่อมโยงระบบไฟฟ้ากับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อใช้เป็นระบบไฟฟ้าสำรองได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมีความมั่นคงทางด้านพลังงานตลอดเวลา ส่วนระบบผลิตน้ำเย็นนั้นสามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ไม่มีการผลิตไฟฟ้า เพราะใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงโดยตรงในการผลิตไอน้ำ เพื่อนำไปใช้ในขบวนการผลิตน้ำเย็น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินการภายใต้การบริหารงาน โดย ปตท. กฟผ. และ กฟน. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่และความชำนาญในการจัดหาพลังงานของประเทศ เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่า โครงการ DCS PP จะมั่นคงและมีประสิทธิภาพในการให้บริการอย่างแน่นอน นายจิตรพงษ์ กล่าวว่า โครงการนี้นับว่าเป็นประโยชน์โดยรวมต่อประเทศชาติ ซึ่งภาครัฐบาลได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีเพราะช่วยให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถแข่งขัน กับสนามบินนานาชาติอื่นได้ เนื่องจากประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่าย ช่วยให้เกิดความมั่นคงทางด้านพลังงานของสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงหน่วยธุรกิจและอาคารพาณิชย์ต่างๆ ภายในสนามบิน สามารถประหยัดเงินลงทุนในการจัดหาระบบไฟฟ้าสำรองของตนเอง ซึ่งเป็นการช่วยลดการลงทุนของประเทศเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญนับว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ในการใช้ประโยชน์จากก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นทรัพยากรของประเทศอย่างคุ้มค่า เพราะระบบดังกล่าวเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานหรือก๊าซธรรมชาติได้สูงถึงร้อยละ 60 และยังช่วยลดมลภาวะทางอากาศได้อีกด้วย เพราะเป็นระบบที่ใช้น้ำเป็นสารทำงานในระบบทำความเย็นแทนสารเคมี ซึ่งทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ บริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด หรือ District Cooling System and Power Plant Co., Ltd (DCAP) เป็นรัฐวิสาหกิจที่ร่วมทุนโดยหน่วยงานด้านพลังงาน 3 แห่ง คือ ปตท. กฟผ. และ กฟน. ก่อตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2546 มีทุนจดทะเบียนขั้นต้น 100 ล้านบาทในสัดส่วน 35/35/30 ตามลำดับ มีลูกค้า 2 ราย คือ บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.) และ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทางบริษัทฯ จำหน่ายเฉพาะน้ำเย็นให้บริษัทการบินไทยเพียงอย่างเดียว--จบ-- -รก-

ข่าวการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย+พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดชวันนี้

GUNKUL จับมือ กฟผ. คว้างานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500kV ต่อยอดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ EEC เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ลงนามสัญญากับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย.หรือ กฟผ. โครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500 กิโลโวลต์ (500kV) มูลค่ากว่า 675 ล้านบาท เชื่อมต่อจาก บางละมุง ถึง ปลวกแดง ขยายขีดความสามารถในการรองรับความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (EEC) ย้ำวิสัยทัศน์ใหม่ด้านพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง คุณนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ

บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เข้ารับมอ... ล็อกซเล่ย์ รับมอบใบประกาศเจตนารมณ์ ร่วมเครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน ปี 2568 — บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เข้ารับมอบใบประกาศเจตนารมณ์เครือข่ายอนุรักษ์พลัง...

ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีปริมาณสูงจนเกิ... สวทช. - กฟผ. จับมือใช้ "ระบบตรวจวัดและจำแนกแหล่งกำเนิด PM2.5" หาต้นตอฝุ่นจิ๋ว — ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีปริมาณสูงจนเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะเขตภาคเหนือตอ...

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยทั... ผนึกกำลัง 'กรมอนามัย-ภาคีเครือข่าย' สร้างสุขภาพช่องปากที่ดีให้ผู้สูงอายุ 'บ้านบางแค' — กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสม...

RT ส่งมอบงานโครงการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำดิบ ... RT ส่งมอบงานก่อสร้างบ่อเก็บน้ำดิบ โรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กฟผ. มูลค่า 261.92 ลบ. — RT ส่งมอบงานโครงการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำดิบ โรงไฟฟ้าบางปะกง อำเภอบางป...