(ต่อ1) วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ภูมิใจเสนอภาพยนตร์เรื่อง "TORQUE"

23 Jan 2004

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส

เครื่องยนตร์ร้อนแรง

นับตั้งแต่บิลลี่และกัปตันอเมริกาได้ท่องผ่านจอภาพยนตร์ใน Easy Rider ก็ไม่มีหนังเรื่องไหนที่เดินเรื่องด้วยการขี่มอเตอรไซค์ท่องไปตามถนนให้เห็นอีก ในเรื่อง Torque มนุษย์กับเครื่องยนต์ได้ถูกนำมารวมกันในหนังแอ็คชั่นอ็อคเทนสูง กับพลังแรงสูงของบรรดารถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นศิลปะแสนงามบนท้องถนนของทุกวันนี้

ตลอดการแข่งรถเพื่อล้างมลทินของเขา ฟอร์ดใช้รถรุ่น Aprilia Mille RSV มอเตอร์ไซค์จากอิตาลีที่รู้จักกันในยุคเริ่มแรกว่าเป็นเครื่องยนตร์แข่ง รถ Aprilia Mille RSV สามารถวิ่งด้วยความเร็วที่สูงถึง 180 ไมล์/ช.ม. อัตราเร่งจาก 0-100 ในเวลา 6.4 วินาที ใช้เครื่องยนตร์ระบบหล่อเย็น 60-องศา วี-ทวิน รถ Mille RSV เป็น "ซูเปอร์ไบค์" รุ่นที่มีราคาแพงและรูปร่างสวยรุ่นหนึ่ง ซึ่งมีสนนราคาสำหรับผู้คลั่งไคล้อยู่ในราว $25,000 หรือสูงกว่า

เชนขี่รถ Triumph TT 600 สีน้ำเงิน เครื่องยนตร์ของ TT600 เป็นชนิดหล่อเย็น DOHC 4-สูบ ที่เข้ากับแรงบิด 599cc ระบบหัวฉีดต่อเนื่องอีเล็คโทรนิคส์มัลติพอยท์ ด้วยแรงเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้า ช่วยให้รถรุ่นนี้เร่งได้สูงสุดที่ระดับ 110PS (108 แรงม้า) ที่ 12,750 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุดในระดับ 68Nm (5-0.5ft.lbf) ที่11,000 รอบต่อนาที

สองสมุนของฟอร์ดขี่ฮอนด้าทั้งคู่: ดัลตันใช้รุ่น RC 51 ซึ่งมีเครื่องยนตร์ขนาด 999cc หล่อเย็น 90-องศา วี-ทวิน เกียร์หกจังหวะและหัวฉีดน้ำมันตั้งโปรแกรมได้ (PGM-F1) ด้วยสองหัวฉีดต่อกระบอกสูบ รถซูเปอร์ไบค์รุ่น RC 51 นำมาซึ่งเทคโนโลยีล่าสุดแห่งท้องถนน วาลขี่ฮอนด้า CBR 954 - ที่เกือบจะแรงเท่ากับรุ่น RC 51 ซึ่งรุ่น CBR ใช้เครื่องยนต์ 954cc หล่อเย็น สี่สูบ และหัวฉีดน้ำมันตั้งโปรแกรมได้(PGM-F1) เพิ่มเติมด้วยแผงไฟฟ้าอัตโนมัติ

ส่วน Triumph นั้นก็ได้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์เช่นกัน เห็นได้ชัดสำหรับรุ่น Daytona 955i ซึ่งขี่โดยเทรย์ หัวหน้าแกงค์เหล่าอันธพาล

รุ่น 955i เป็นเครื่องระบบหล่อเย็น 3-สูบ DOHC ระบบหัวฉีดต่อเนื่องอีเล็คโทรนิคส์มัลติพอยท์ แรงบิดสูงสุดได้ถึง 100Nm (74ft.lbf) ที่ 8,200 รอบต่อนาทีและอัตราเร่งสูงสุด 149PS (147 แรงม้า) ที่ 10,700 รอบต่อนาที เฮนรี่ หัวหน้าแกงค์คู่แข่ง ขี่รถ Yamaha Roadstar Warrior รถของเฮนรี่ได้รับการตกแต่งและดูดุร้ายมากขึ้นด้วยมือจับที่ยกสูงขึ้น แผ่นโครเมียมและเปลวไฟที่ถังน้ำมันและด้านท้าย กระบอกสูบ 97mm เครื่องยนตร์ที่มีระบบทำความเย็นด้วยอากาศ 102 ลูกบาศก์เมตร วีทวิน (1670 cc) กำลังแรงสูง

ระหว่างการไล่ล่าท้าโลกครั้งสุดท้ายในเรื่อง Torque รถ Y2K ซึ่งหาได้ยาก กับความเร็วสูงพิเศษ และแพงเป็นพิเศษ ได้มาร่วมเข้าฉากด้วย เป็นรถรุ่นพิเศษที่ผลิตโดย Marine Turbine Technologies ในหลุยเซียน่า โดยมีเพียงสิบคันเท่านั้นในโลก ซึ่งสี่คันอยู่ในสหรัฐฯ (หนึ่งในนั้นเป็นของผู้คลั่งไคล้มอเตอร์ไซค์ เจย์ ลีโน) ส่วน Y2K คันที่ 11นั้นกำลังอยู่ระหว่างการผลิต ทีมงานโชคดีมากที่ได้รับอนุญาตให้ใช้รถนี้ ที่มักจะถูกกล่าวถึงว่ามีความเร็วที่สุดในโลก - และอย่างมีเหตุผลเสียด้วย รถ Y2K มีตัวถังภายในเป็นคาร์บอน ใช้เครื่องยนต์เจ็ทของโรลส์ รอยซ์ อัลลิสัน รุ่น 25O-C18 ในตอนแรกมันถูกออกแบบเพื่อใช้สำหรับเฮลิคอปเตอร์ ด้วยกำลังมากกว่า 300 แรงม้าและแรงบิด 450 ฟุต/ปอนด์ , รถ Y2K อัตราเร่งจาก 0-227 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 15.0 วินาที (อัตรเร่งสูงสุดในทางทฤษฏีของรอบเครื่องยนต์เจ็ทคือมากกว่า 250 ไมล์ต่อชั่วโมง)

จักรยานยนตร์กว่า 70 คันถูกนำมาใช้งานโดยทีมถ่ายทำ นอกเหนือจาก Triumphs, Hondas และ Yamahas ในเรื่อง Torque มีช็อปเปอร์สี่คันที่ผลิตโดยผู้ออกแบบมอเตอร์ไซค์ชื่อดังอย่าง เจสซี เจมส์ ซึ่งรถ West Coast Choppers ถูกทำให้เพรียวลมขึ้น และใช้เครื่องยนตร์ปรับปรุงใหม่ตั้งแต่ปี l989 ด้วยความเอาใจใส่และฝีมือเป็นอย่างมาก รถแต่ละคันใช้เวลา 18 เดือนในการผลิตและมีราคาตั้งแต่ $60,000 ถึง $150,000 เจสซี เจมส์เคยตบแต่งรถอย่างน่าภูมิใจให้กับลูกค้าชื่อดังหลายคน รวมทั้ง Shaquille O'Neal, Keanu Reeves และ Kid Rock

เจมส์ไม่เพียงแต่ผลิตรถให้หนัง เขายังได้ร่วมแสดงด้วย - ผู้ที่มีสายตาดีคงเห็นเขาได้ไม่ยากในฉากการแข่งแรลลี่ ในบทลูกค้าที่มาผิดเวลาไปหน่อยเมื่อเข้าไปขัดจังหวะการกลับมาพบกันระหว่างฟอร์ดกับเชน

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนของครุยเซอร์หรือชอปเปอร์ ซูเปอร์ไบค์หรือรถเครื่องทั่วไป ในเรื่อง Torque คุณจะได้เห็นทุกรุ่นที่เยี่ยมและแรงสูง กับหนังมอเตอร์ไซค์เรื่องแรกนับแต่ปี 1969 เมื่อ Easy Rider ได้เคยเติมเต็มจินตนาการของคนรุ่นนั้น และ Torque อาจเป็น 'นักบิดสุดขั้ว' ของพวกเรา - หนังแอ็คชั่นที่นักขี่มอเตอร์ไซค์ตัวจริงจะชื่นชม

เกลียวกับน็อต

Torque เริ่มต้นการถ่ายทำเป็นเวลา 59 วัน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่แลงคาสเตอร์ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งอุณหภูมิสูงกว่า 110 องศา โดยมีบรรดาตึกเก่าๆ ตั้งอยู่รวมกันเป็นหมู่ ท่ามกลางทะเลทรายอ้างว้างที่ทอดยาวไม่รู้จบ สถานที่นี้นับว่าเหมาะที่สุดสำหรับการขี่รถไล่ล่าด้วยความเร็วสูงอย่างดุเดือดของหนัง

ต่อมากองถ่ายได้เดินทางไปยังโลเคชั่นอีกหลายแห่งในบริเวณลอสแอนเจลิส รวมทั้งโรงงานเก่าของ Sun Chemical ในย่านดาวน์ทาวน์ ที่ซึ่งใช้สร้างเป็นร้านขายมอเตอร์ไซค์ของเชน ; สะพาน 6th Street Bridge; ส่วนที่ไม่ได้เปิดใช้ของฟรีเวย์ 210 ซึ่งทีมงานสามารถใช้ถ่ายทำฉากการไล่ล่าด้วยความเร็ว ได้อย่างปลอดภัย ; และหัวมุมถนน Flower และ 7th Street ในย่านดาวน์ทาวน์ของแอลเอ ที่ซึ่งใช้ทำเป็นฉากระเบิดใหญ่และงานสตันท์ ท่ามกลางความตื่นเต้นระทึกใจของคนดูหลายร้อย

เมื่อฟอร์ดย้อนกลับเข้าเมืองมาเป็นครั้งแรก เขาได้พบกับบรรดาผู้คนที่เขาละทิ้งไว้ข้างหลังอีกครั้ง - ซึ่งบางคนก็ดีใจมากกว่าคนอื่นที่ได้เจอเขาอีก - ในการแข่งแรลลี่มอเตอร์ไซค์ที่โกลาหล ฉากแรลลี่ถ่ายทำกัยที่ปิรู แคลิฟอร์เนีย ชุมชนเกษตรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของลอสแอนเจลิส และเป็นเวลาสามวันที่ทั้งเมืองได้พบกับบรรยากาศงานออกร้านบนถนน คนคลั่งมอเตอร์ไซค์กว่า 1,000 คนและตัวแสดงประกอบ 300 คนมาชุมนุมกันในวันเสาร์ที่ 21 กันยายน ปี 2002 ในวันที่ยิ่งใหญ่ของการถ่ายทำ ที่ทำให้เมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศที่คล้ายคลึงกับการครอบครองของแบรนโด้และสหาย ในเรื่อง The Wild One นักขี่สตันท์ของ Torque มีโอกาสได้โชวืฝีมือของพวกเขาจริงๆ และฝูงชนที่สวมชุดหนังก็เป็นผู้ชมที่ชื่นชอบ รถมอเตอร์ไซค์หลายร้อยคันจอดเรียงบนถนนไปจนสุดสายตา และการถ่ายทำในวันนั้นเป็นไปอย่างไม่มีที่ติ

"เราพยายามเลียนแบบแรลลี่จริงๆ" ผู้อำนวยการสร้างแบรด ลัฟฟ์ทบทวน "มันเป็นความท้าทาย แต่ก็ยังน่าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นนักขี่ทุกคนมาช่วยเราสร้างฉากนั้น"

เป็นเวลาสิบวันที่กองถ่ายจัดฉากร้านขึ้นมาที่ Southwest Marine บนท่าเรือในซานเปโดร เพื่อให้เป็นฉากปาร์ตี้โรงงานรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมจูเนียร์ น้องชายของเทรย์ ตัวประกอบกว่า 100 คนซึ่งแต่งตัวในชุดที่ดีที่สุดของพวกอันธพาลมาเพิ่มบรรยากาศของฉากที่ให้ความรู้สึกเป็นโรงงาน

ผู้ออกแบบฉาก ปีเตอร์ แฮมพ์ตันทบทวนให้ฟังว่า "เดิมงานเลี้ยงถูกกำหนดให้เป็นในป่า แต่โจเซฟกับผมตัดสินใจว่ามันจะน่าสนใจกว่าถ้าจะให้เกิดขึ้นในโรงงาน ผมได้อุปกรณ์หลายอย่างที่ใช้ตกแต่งเพดานสูงลิ่ว รวมทั้งท่อน้ำ อุโมงค์ยักษ์ และเสาต้นใหญ่ๆ"เมื่อจัดแสงสีฟ้าและควันเพิ่มเข้าไปและเสียงดนตรีจากวงฮาร์ดร็อค Monster Magnet ที่แผดเสียงดังสนั่นมาจากบนเวทีแล้ว คาห์นและแฮมพ์ตันก็ได้ฉากโรงงานที่ดูเถื่อนอย่างที่พวกเขาต้องการ

กองถ่ายมุ่งหน้าไปทางตะวันตก และใช้เวลาสิบวันที่ Palm Springs ซึ่งถิ่นทะเลทรายได้กลายเป็นโลเคชั่นหลักหลายแห่งด้วยกัน ทัศนียภาพที่ตระการตาเมื่อมองจากบนไฮเวย์ 74 และภายในที่ดูมืดครึ้มของ Desert Sun Date Grove ที่แฮดลีย์ เป็นฉากที่ใช้ในการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างฟอร์ดกับแกงค์รีพเปอร์ และใช้เป็นทางสำหรับฉากไล่ล่าด้วยมอเตอร์ไซค์ที่น่าทึ่ง อีกสองโลเคชั่นที่ใช้ใกล้กับ Palm Springs คือโรงสีที่สูงสง่าแถว Interstate 10 และ Box Canyon บริเวณผาหินที่ห่างไกลแถว Salton Sea

ทะเลทรายที่ราบเรียบด้านนอกของชุมชนบลิธ แคลิฟอร์เนีย เป็นจุดสุดท้ายของกองถ่าย เป็นเวลาเจ็ดวันที่ทีมงานและดราราถ่ายทำฉากอันปราณีตทั้งในและนอกรถไฟบุลเล็ตสีเงินที่เช่ามาจากสแตน การ์ดเนอร์ แห่ง Monad Trains ในลามิราด้า ช่วงนั้นใช้ตัวแสดงสตันท์โดยเฉพาะ และฉากซับซ้อนที่ไม่เพียงแต่ทำให้ยูนิตที่หนึ่งมีงานยุ่ง แต่รวมไปถึงยูนิตที่สองและยูนิตย่อยอีกด้วย

การถ่ายในทะเลทรายที่ Southern California ในช่วงฤดูร้อนและต้นใบไม้ร่วง ทำให้เกิดความท้าทายในแบบของมันเอง ผสมกันระหว่างความร้อน แมลงวัน แดด ลม และพายุทราย นับเป็นความท้าทายของทีมงานในทุกโลเคชั่น ผู้อำนวยการสร้างมอริทซ์รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย เขาบอกว่า "เราถ่ายหนังส่วนใหญ่ในทะเลทรายช่วงหน้าร้อน เราจึงตระหนักดีว่ามันจะร้อนยิ่งกว่านรก และเราต้องระวังเป็นอันมาก"

ทางกองถ่ายได้ใช้ความพยายามทุกวิถีทางในอันที่จะปกป้องดาราและทีมงานจากอาการเพลียความร้อน การทำให้ไม่ขาดน้ำและความเย็นเป็นเรื่องที่ต้องกังวลอย่างมาก หน่วยบริการจึงทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็งเพื่อดูแลให้มีน้ำและเครื่องดื่มนักกีฬาอย่างพอเพียงและพร้อมเสมอ ทุกๆ คนจะถูกบอกให้ดื่มน้ำมากๆ ร่มและเต๊นท์ถูกจัดหามาให้และทุกคนได้รับคำเตือนให้ทาครีมกันแดดและสวมหมวก

นักแสดง

ด้วยการผสมผสานความหน้าตาดีและความสามารถในการแสดง มาร์ติน เฮนเดอร์สัน (แครี่ ฟอร์ด) เป็นสมาชิกใหม่ที่น่าตื่นเต้นของบรรดานักแสดง 'คลื่นลูกใหม่' ทีกำลังอยู่บนเส้นทางสู่ฮอลลีวู้ดจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เมื่อเร็วๆ นี้เขาเพิ่งจบจากการทำงานในภาพยนตร์เรื่อง Pride and Prejudice-The Bollywood Musical ของผู้กำกับฯ กูรินเดอร์ ชาด์ดา (Bend it Like Beckham) เฮนเดอร์สันยังเพิ่งเสร็จจากงานแสดงในภาพยนตร์อิสระของอังกฤษเรื่อง Skagerrak ของผู้กำกับ โซเรน เกรค เจคอบสัน แสดงคู่กับ ไอเบน เจจิลี เฮนเดอร์สันมีผลงานให้ชมเมื่อเร็วๆนี้ในหนังสุดฮิตเรื่อง The Ring แสดงคู่กับ นาโอมิ วัตส์

เกิดและโตในเมืองโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ เฮนเดอร์สันได้รู้จักกับการเป็นนักแสดงเมื่อรายการ Strangers ซึ่งเป็นรายการทีวีท้องถิ่น ได้ไปเปิดการคัดตัวนักแสดงที่โรงเรียนประถมของเขา เขาอายุได้ 13 ปีเมื่อเขาได้รับคัดเลือกในซี่รี่ส์เรื่องนี้และเขาก็เป็นนักแสดงอาชีพตั้งแต่นั้นมา

ต่อจากนั้นเขาได้ไปแสดงในดราม่าของนิวซีแลนด์เรื่อง Shortland Street เป็นเวลา 3 ปี ในปี 1993 เฮนเดอร์สันได้ถูกเสนอชื่อและได้รับรางวัล 'Best Male Dramatic Performance in Television Show ที่ New Zealand Television และ Film Awards (เหมือนกับรางวัลเอ็มมี่ในสหรัฐอเมริกา) สำหรับบทของเขาที่แสดงเป็น 'Stuart' ในเรื่อง Shortland Street

ในปี 1995 เฮนเดอร์สันได้ย้ายมาที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ที่เขาได้เล่นเป็นนักกีฬาโอลิมปิค ที่อยู่ระหว่างการฝึก ในซีรีส์เรื่อง Sweat ต่อมาได้แสดงคู่กับ ราดา มิทเชลล์ ในภาพยนตร์เรื่อง Kick ภาพยนตร์เกี่ยวกับโลกบัลเล่ต์ของซิดนีย์ หลังจบการทำงานภาพยนตร์ เฮนเดอร์สันตัดสินใจหยุดพักเพื่อไล่ตามความฝันของนักแสดงทุกคน : ฮอลลีวู้ด เพื่อเป็นการเตรียมตัวของเขาเองสำหรับการแสดงในสหรัฐอเมริกา เฮนเดอร์สันได้ย้ายมาที่นิวยอร์คในปี 1997 และเริ่มโปรแกรมการเรียน 2 ปีที่ Neighborhood Playhouse ในคอร์สการเรียนของเขา เขาได้แสดงในละครนอกบอร์ดเวย์เรื่อง Ophelia Thinks Harder ที่ Samuel Beckett Theatre

ปัจจุบันเฮนเดอร์สันอาศัยอยู่ในลอสแอนเจลิส

ในฐานะผู้นำของบริษัทสร้างภาพยนตร์ของตัวเอง Cube Vision ไอซ์ คิวบ์ (เทรย์) ได้เขียนบท, สร้างและแสดงในภาพยนตร์เรื่องฮิตร่วมสมัย Friday และภาคต่อที่ประสบความเร็จเรื่อง Next Friday และ Friday After Next บทสุดท้ายในหนังหลายภาคเรื่อง Friday Cube Vision ยังได้รับดูแลงานสร้างในเรื่อง The Players Club ซึ่งเป็นการกำกับการแสดงครั้งแรกของเขา ปัจจุบัน Cube Vision อยู่ในการเตรียมงานสร้างในภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่อง Are We There Yet? แสดงกับ ไนเอ ลองและจะเริ่มดำเนินงานทันทีในภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง XXX

นอกเหนือจากนั้น ไอซ์ คิวบ์ ได้แสดง รวมทั้งเป็นผู้อำนวยการบริหารในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเรื่อง Barbershop ซึ่งร่วมแสดงโดย อีฟ, ฌอน แพทริค โธมัส และ Cedric the Entertainer, และกำลังจะแสดงในภาคต่อเรื่อง Barbershop 2 ที่จะออกฉายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 ผลงานภาพยนตร์อื่นๆ ของเขาได้แก่ ภาพยนตร์ที่ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์เรื่อง Three Kings แสดงคู่กับ จอร์จ คูลนีย์ และมาร์ก วาช์ลเบิร์ก, เรื่อง Anaconda แสดงกับเจนนิเฟอร์ โลเปซ และ จอน วอยท์ เรื่อง Trespass และ Higher Learning คิวบ์แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในภาพยนตร์คลาสสิคของจอห์น ซิงเกิลตัน เรื่อง Boyz N the Hood

คิวบ์ยังเป็นหนึ่งในบรรดานักร้องเพลงฮิพ-ฮอพที่เป็นที่รู้จักในวงการเพลงอย่างต่อเนื่อง อาชีพนักดนตรีที่รุ่งเรืองของเขา รวมถึงสองอัลบั้ม กับความสำเร็จในระดับดับเบิ้ลแพลทตินัมที่ได้รับรวมทั้งกับอัลบั้มคู่ของเขา War and Peace ในฐานะนักร้องนำคิวบ์ได้บันทึกอัลบั้มที่ฮิตมากได้แก่ Lethal Injection, Bootlegs & B-Sides, The Predator และ Amerikkka's Most Wanted ความพยายามร่วมมือกับ Mack-10 และ WC ได้ก่อให้เกิดกลุ่ม Westside Connection ซึ่งอัลบั้มที่สองของพวกเขา Terrorist Threats ได้ออกจำหน่ายในเดือนธันวาคมปี 2003 และนับเป็นผลงานที่ตามมาหลังจากรางวัลดับเบิ้ลแพลทตินัมเมื่อปี 1996 จาก Bow Down คอลเล็คชั่นของผลงานฮิตของเขา ซึ่งประกอบด้วยเพลงใหม่สองเพลง ได้รับการจัดจำหน่ายโดย Priority Records เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2001

โมเน็ต มาเซอร์ (เชน) เป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีความสามารถหน้าใหม่ที่น่าสนใจที่สุดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เธอมีผลงานให้ชมที่แสดงคู่กับ แอชตัน คุตเชอร์และบริตตานีย์ เมอร์ฟี่ในภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่อง Just Married และแสดงกับ โจช ฮาร์ตเน็ต Josh Hartnett ในเรื่อง Forty Days and Forty Nights มาเซอร์ยังได้แสดงในเรื่อง Blow, Angel Eyes, The Mod Squad, Addams Family Values และหนังของ เจย์ โรช เรื่อง Austin Powers: International Man of Mysteryนอกเหนือจากนั้นผลงานอื่นๆของเธอได้แก่ ภาพยนตร์อิสระเรื่อง Stark Raving Mad แสดงคู่กับ ซีแอน วิลเลี่ยม สก๊อตต์,เรื่อง Kiss the Bride และเรื่อง Comic Book Villains

มาเซอร์เกิดในลอสแอนเจลิสและโตในมาลิบู แคลิฟอร์เนีย ปลายปีนี้เธอจะแสดงในเรื่อง Whirlygirl และแสดงคู่กับ เจเรมี่ ซิสโต้ในดราม่าเรื่อง In Memory of My Father

อดัม สก๊อตต์ (แม็คเฟอร์สัน) เมื่อเร็วๆนี้เพิ่งเสร็จจากงานสร้างของวอร์เนอร์ บราเดอร์สเรื่อง The Aviator ของผู้กำกับฯ มาร์ติน สกอร์เซสซี โดย ลีโอนาโด้ ดิคาปรีโอ้, เคต แบล์งเชตต์, เคต เบคกินเซล และ จอห์น ซี เรลลี่ ร่วมแสดงด้วย ภาพยนตร์มีกำหนดออกฉายในเดือนธันวาคมหน้า

เมื่อเร็วๆนี้สก๊อตต์ได้แสดงในภาพยนตร์ของ คาร์ล แฟรงก์กลินเรื่อง High Crimes แสดงคู่กับ มอร์แกน ฟรีแมน, แอชลีย์ จัดด์และ อาแมนด้า พีต,และในการกลับมารับบทอีกครั้งในภาพยนตร์ที่ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ของ HBOเรื่อง Six Feet Underผลงานภาพยนตร์อื่นๆของสก๊อตต์ได้แก่ เรื่อง Star Trek: First Contact แสดงกับ แพตทริค Patrick Stewart และเจมส์ ครอมเวลล์ , รวมทั้งการแสดงในบทในภาพยนตร์อิสระต่างๆได้แก่ หนังของ ฌอน แม็คกินเลย์เรื่อง Two Days และหนังของคริสโตเฟอร์ เฮฟลีย์ เรื่อง Ronnie

ในภาพยนตร์โทรทัศน์ ผลงานของสก็อตต์ได้แก่ การกลับมารับบทอีกครั้งในเรื่อง Party of Five, Wasteland และ Murder One, รวมทั้งหนังประจำสัปดาห์ของ ABC เรื่อง Payback, นอกเหนือจากนั้นรับบทรับเชิญในเรื่อง NYPD Blue และ ER

จากบทนักแสดงร่วมของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Blade, Boys and Girls, The Transporter, Blade II และ The Fast and the Furious, แม็ตต์ ชูลซ์ (เฮนรี่) ไต่ขึ้นสู่อันดับอย่างรวดเร็วสู่ความเป็นหนึ่งในบรรดานักแสดงนำของฮอลลิวู้ด

ชูลซ์เป็นคนเซนต์ หลุยส์ มิซซูรี่โดยกำเนิด และได้ย้ายมาแอตแลนต้าเมื่อตอนวัยรุ่นอายุ 16 ได้เรียนกีต้าร์ที่สถาบันทรงเกียรติ Atlanta Institute of Music ช่วงเวลาสั้นๆหลังจากนั้น เขากลับมาที่เซนต์ หลุยส์ ที่เขาได้สอนกีต้าร์ช่วงสั้นๆ ก่อนที่มุ่งไปทางตะวนตกของลอสแอนเจลิสเพื่อไล่ตามความฝันทางดนตรีของเขา จากนั้นก็ทำงานเดินแบบอย่างไม่จริงจังเท่าใดนัก ก่อนเบนเข็มความสนใจไปสู่ความปรารถนาทางการแสดงของตนเอง และไม่นานต่อมาชูลซ์ก็ได้กลายเป็นแขกรับเชิญของรายการโชว์โทรทัศน์ เช่นเรื่อง Charmed ก่อนรับบทผู้แสดงสนับสนุนครั้งแรกของเขา เป็น Crease แวมไพร์ในภาพยนตร์สุดฮิตของบ๊อกซ์ออฟซิศเรื่อง Blade และบทนำในภาพยนตร์อิสระเรื่อง Downward Angel

ชูลซ์ดูเหมือนจะเบรคไม่อยู่เสียแล้วเมื่อถึงจุดนั้น - เขาจึงได้รับเลือกให้เป็น พอลเพื่อชายของแคลร์ ฟอร์ลานี อย่างไม่ชักช้า ในเรื่อง Boys and Girls และได้รับบท วินซ์ ผู้อาศัยตัวร้าย ที่แสดงแบบขโมยซีนของเขาในเรื่อง The Fast and the Furious เขายังได้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับ เจสัน สเตเธม ในเรื่อง The Transporter เป็น แดร์เรนใน "Wall Street" Bettencourt ก่อนจะกลับมาในตอนต่อของเรื่อง Blade เป็น Chupa ในเรื่อง Blade II

ชูลซ์มีผลงานเรื่องถัดไปในภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง Out of Reach แสดงคู่กับ สตีเว่น ซีกัล ของผู้กำกับฯ โป-ชิห์ เหลียงและเรื่อง The Heart Is Deceitful Above All Things แสดงคู่กับ วิโนน่า ไรเดอร์ ปัจจุบันชูลซ์มีบ้านอยู่ในฮอลลีวู้ดและยังคงสร้างแรงผลักดันในอาชีพที่รุ่งอยู่แล้วของเขา

เจย์ เฮอร์นานเดซ (ดัลตัน) ดังระเบิดในจอภาพยนตร์ด้วยบทนำโรแมนติค คู่กับ เคอร์สเตน ดันทส์ ในเรื่อง Crazy/Beautiful ตามมาอย่างรวดเร็วด้วยผลงานในหนังฮิตของดิสนีย์ The Rookie แสดงคู่กับเดนนิส เควด และเรื่อง Joy Ride แสดงกับสตีฟ ซาห์น และพอล วอร์คเกอร์

เจย์เกิดและเติบโตในมอนเตเบลโล แคลิฟอร์เนีย เจย์อยู่ในฮอลลีวู้ดกับพ่อแม่เมื่อ เขาได้ถูก "ค้นพบ" ในงานแฟชั่นหนังคลาสสิค ตอนนั้นครอบครัวเฮอร์นานเดซลงลิฟท์ไปพร้อมกับโฮเวิร์ด ไทเนอร์ ผู้จัดหานักแสดง และพอพวกเขาถึงล็อบบี้ ก็ได้งานทันที งานการแสดงครั้งแรกของเขาคือในภาพยนตร์อิสระเรื่อง Living the Life และ ได้รับเลือกให้แสดงในคอมเมดี้ซีรีส์ประจำของ NBC ทุกเช้าวันเสาร์ Hang Time

ต้นปี 2004 เจย์จะมีผลงานให้ชมในภาพยนตร์ของดิสนีย์ Ladder 49, คู่กับ โจอาควิน ฟีนิกซ์ และจอห์น ทราโวลต้า ขณะนี้ เฮอร์นานเดซกำลังอยู่ระหว่างการทำงานเรื่อง The Nomad ซึ่งมีกำหนดออกฉายในปี 2004

ทีมงาน

โจเซฟ คาห์น (ผู้กำกับการแสดง) มีผลงานจำนวนมากที่ทำมาชั่วชีวิต กับแกรมมี่เขาเคยได้รับรางวัลมากมายทั้ง MTV Music Video Award และ Music Video Production Association Award เขายังคงครอบครองโลกของมิวสิควิดีโอ ไปพร้อมกับการสร้างผลงานใหม่ๆ ให้กับหนังโฆษณาและภาพยนตร์

คาห์นเริ่มอาชีพกำกับการแสดงตั้งแต่เพิ่งพ้นจากเป็นวัยรุ่น ถ่ายทำวิดีโอให้กับศิลปินฮิพฮอพท้องถิ่นในบ้านเกิดที่ฮูสตัน เพียงอีกไม่กี่ปีต่อมาเขาก็ได้ทำให้ห้องสมุดท่วมไปด้วยวิดีโอกว่า 200 ม้วน แต่ละม้วนเป็นการฝึกทักษะ พัฒนารูปแบบ และสร้างชื่อเสียงในความเป็นผู้สร้างสรรค์รสนิยมให้กับเขา ด้วยความตั้งมั่นที่จะเอาชนะตัวเองกับทุกโปรเจ็คที่ได้ทำ เขาจึงฝ่าขีดจำกัดของเทคโนโลยีและรูปแบบ จนทำให้มิวสิควิดีโอถูกยกระดับและในตอนนี้เขากลายเป็นหนึ่งในบรรดาผู้กำกับฯมิวสิควิดีโอที่ได้รับการถามหามากที่สุด และในประวัติการทำงานของคาห์น มีผลงานที่ทำร่วมกับบรรดาศิลปินชื่อดังที่หลากหลายอย่าง : Eminem, U2, Mariah Carey, DMX, Britney Spears, TLC, Aerosmith, Faith Hill, Moby, Nelly and Justin Timberlake, George Michael, Wu-Tang Clan, Garbage, KoRn, Janet Jackson, Enrique Iglesias, Destiny's Child, และงานโฆษณาอีกมากมาย คาห์นได้ก่อตั้งบริษัทโปรดักชั่นของเขา SuperMega ในปี 1999

Torque เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา ขณะนี้มีงานภาพยนตร์หลายเรื่องที่อยู่ระหว่างการเตรียมงาน รวมทั้ง Droid กับโจเอล ซิลเวอร์ และ Invisiblz กับ โจนี ไซห์แวตสัน และเขาเพิ่งตกลงร่วมทุนกับ HSI และจะยังคงทำงานมิวสิควิดีโอและโฆษณาต่อไปอีก

นีล เอช มอริทซ์ (ผู้อำนวยการสร้าง) เป็นเจ้าของ Original Film บริษัทโปรดักชั่น ภาพยนตร์ โทรทัศน์ โฆษณา และมิวสิควิดีโอ มอริทซ์ได้รับปริญญาทางเศรษฐศาสตร์จาก UCLA และอีกหนึ่งปริญญาจากโปรแกรมสร้างภาพยนตร์ของ Peter Stark ที่ University of Southern California

ผลงานของมอริทซ์รวมถึงหนังยอดฮิตจำนวนมาก ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา ได้แก่ Out of Time กับเดนเซล วอชิงตัน และ S.W.A.T. นำแสดงโดยโคลิน ฟาร์เรลและแซมมวล แอล แจ็คสัน มอริทซ์ยังได้อำนวยการสร้างหนังฮิตที่กวาดรายได้กว่า $145 ล้านเหรียญอย่าง The Fast and the Furious นำแสดงโดย วิน ดีเซล, พอล วอล์คเกอร์, มิเชล โรดริกูเอซ และจอร์ดานา บริวสเตอร์ และภาคต่อที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้กันใน The Fast and the Furious 2 ทั้งสองตอนกับผู้กำกับฯ ร็อบ โคเฮน หนังเรื่องอื่นที่ทั้งสองเคยร่วมงานกัน ได้แก่ The Skulls ซึ่งร่วมแสดงโดย พอล วอล์คเกอร์ และโจช แจ็คสัน และหนัง HBO เรื่อง The Rat Pack กับเรย์ ลิออตต้า ดอน เชเดิล ซึ่งได้เข้าชิงรางวัลเอ็มมี่ถึง 11 รางวัล

ผลงานของมอริทซ์ก่อนหน้านั้นได้ช่วยส่งให้เขากลายเป็นหนึ่งในบรรดาผู้สร้างที่ทำเงินมากที่สุดในฮอลลีวู้ด Juice เป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของเขา ตามมาด้วยเรื่องฮิต I Know What You Did Last Summer ซึ่งได้กลายเป็นผลงานแสดงที่สร้างชื่อให้กับเจนนิเฟอร์ เลิฟ ฮิววิตต์, ซาร่า มิเชล เกลล่า, ไรอัน ฟิลลิป และเฟรดดี้ ปรินซ์, จูเนียร์ และภาคต่อ I Still Know What You Did Last Summer ที่ตามมา สร้างความนิยมเพิ่มขึ้นให้กับทีมนักแสดงชื่อดัง หนังเรื่องต่อมาของมอริทซ์ Urban Legend และตามมาด้วยภาคต่อที่ประสบความสำเร็จ Urban Legends: Final Cut. Cruel Intentions ที่เป็นหนังเรื่องแรกของ Original Film ที่ใช้ทุนของตัวเองในการสร้าง

ผลงานสร้างเรื่องอื่นๆ รวมถึงหนังเรื่องดัง Not Another Teen Movie, XXX กับวิน ดีเซล และ Sweet Home Alabama นำแสดงโดย รีส วิทเธอร์ สปูน และหนังคอมเมดี้นักศึกษาวิทยาลัย Slackers นำแสดงโดยเจสัน ชวาทซ์แมน และเดวอน ซาวา, Volcano, Blue Streak กับมาร์ติน ลอว์เรนซ์, Saving Silverman กับแจ็ค แบล็ค, สตีฟ ซาห์น และเจสัน บิกส์, และนักแสดง Leelee Sobieski ใน The Glass House

มอริทซ์กำลังทำงานให้กับซีรีส์โทรทัศน์เรื่องฮิตของ Fox - Tru Calling นำแสดงโดย เอลิซา ดัชกุ และมีโครงการสร้างหนังดราม่าครอบครัว Still Life เพื่อออกอากาศในเดือนมกราคม และ Fox ภาพยนตร์เรื่องต่อไป ได้แก่ภาคต่อของหนังเรื่องฮิต XXX, XXX2, Click กับอดัม แซนด์เลอร์ และ Stealth กำกับการแสดงโดย ร็อบ โคเฮน

แบรด ลัฟฟ์ (ผู้อำนวยการสร้าง) ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง President of Production แห่ง Morgan Creek Productions ก่อนเข้าร่วมงานกับ Morgan Creek ล่าสุดลัฟฟ์ได้สร้างหนังฮิตติดบ็อกซ์ออฟฟิศ เรื่อง Not Another Teen Movie และ Saving Silverman นำแสดงโดยเจสัน บิกส์, สตีผ ซาห์น, แจ็ค แบล็ค และอาแมนด้า พีทให้กับ Original Film ผลงานของลัฟฟ์ ได้แก่ Urban Legend, Urban Legends: Final Cut, Implicated และภาพยนตร์โทรทัศน์ Monster ของ UPN

ลัฟฟ์มีโครงการภาพยนตร์หลายเรื่องที่จะตามมา รวมทั้ง Untitled Repo Man หนังคอมเมดี้ครอบครัวโดยผู้เขียนเรื่อง Big Daddy รวมทั้งหนังแอ็คชั่น Rapid และคอมเมดี้เรื่อง Skip Day นำแสดงโดยลูเดคริส และ Planet Terry โดย New Line Cinema

ก่อนหน้าทำงานที่ Morgan Creek Productions ลัฟฟ์ยังเคยเป็น Executive Vice President of Production ที่ Original Film เขาเคยทำงานที่ Fox Broadcasting Company กับ Fox Night at the Movies และเคยเป็น Vice President of Production ที่ Harpster and Associates บริษัทโปรดักชั่นที่ทำธุรกิจครั้งแรกกับ New Line Cinema ก่อนหน้าที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง เขาเคยทำงานเป็นนักวิเคราะห์ทางการเงิน เขาจบการศึกษาจาก UCLA และปัจจุบันอาศัยอยู่กับคู่หมั้นสาวในลอสแอนเจลิส

แม็ท จอห์นสัน (ผู้เขียนบทภาพยนตร์) เกิดที่เท็กซัส และใช้เวลาวัยเด็กโตขึ้นมาแถวทางใต้ จอห์นสันได้ขายบทภาพยนตร์ออริจินัลให้กับ New Line, Universal, Paramount, Fox 2000 และ Warner Bros. Pictures Torque เป็นเรื่องแรกของจอห์นสันที่ได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์

ขณะนี้จอห์นสันกำลังถ่ายทำหนังแอ็คชั่น/ผจญภัยเรื่อง Into the Blue กำกับการแสดงโดย จอห์น สต็อกเวลล์ และแสดงโดย พอล วอล์คเกอร์ และเจสซิก้า แอลบา ปัจจุบันมีบ้านอยู่ที่เวนิส แคลิฟอร์เนีย กับภรรยาและลูกสาว

(ยังมีต่อ)

-รก-