ผลการประชุมกลุ่มศึกษาตะกั่วและสังกะสีระหว่างประเทศแนวโน้มตะกั่วและสังกะสีในตลาดโลกดีขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นายอนุสรณ์ เนื่องผลมาก อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม แถลงผลสรุปจากการประชุมกลุ่มศึกษาตะกั่วและสังกะสีระหว่างประเทศ (International Lead and Zinc Study Group : ILZSG) ครั้งที่ 48 ซึ่งไทยเป็นสมาชิก ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 8-10 ตุลาคม 2546 ซึ่งผลจากการประชุมดังกล่าวสรุปว่า ปี 2546 แนวโน้มการบริโภคตะกั่วและสังกะสีทั่วโลกดีขึ้น คาดว่าอยู่ที่ระดับ 6.7 ล้านตัน และ 9.6 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2545 ร้อยละ 1 และร้อยละ 2 ตามลำดับ และแนวโน้มในปี 2547 คาดว่า การบริโภคตะกั่วและสังกะสีจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านตันและ 10 ล้านตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.4 และร้อยละ 3.5 ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการในจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การประชุมครั้งนี้มีผู้แทนจากประเทศสมาชิก 24 ประเทศ โดยคณะผู้แทนไทยประกอบด้วย นายอนุสรณ์ เนื่องผลมาก อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นายยงยุทธ เพ็ชรสุวรรณ ประธานสภาการเหมืองแร่ นายปัญญา ดุลยพิจิตร เลขาธิการสภาการเหมืองแร่ และนายพินิต วงศ์มาสา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ที่ประชุมได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะตลาดโลกและแนวโน้มปี 2547 ตลอดจนแผนการดำเนินงานของกลุ่มศึกษา โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ ปี 2546 แนวโน้มการบริโภคตะกั่วและสังกะสีทั่วโลกดีขึ้น คาดว่าอยู่ที่ระดับ 6.7 ล้านตัน และ 9.6 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2545 ร้อยละ 1 และร้อยละ 2 ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการในเอเชียเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของจีนเป็นหลัก ในขณะที่การผลิตตะกั่วและสังกะสีทั่วโลกตลอดปี จะมีปริมาณ 6.6 ล้านตัน และ 9.7 ล้านตัน ใหล้เคียงกับปีที่ผ่านมา สำหรับแนวโน้มปี 2547 คาดว่า การบริโภคตะกั่วและสังกะสีจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านตันและ 10 ล้านตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.4 และร้อยละ 3.5 ตามลำดับ เป็นผลจากความต้องการในจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การผลิตตะกั่วคาดว่า จะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากการปิดตัวของโรงถลุงทรายและการลดการผลิตในยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ในขณะที่ปริมาณการผลิตสังกะสีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 จากการเพิ่มการผลิตในเบลเยี่ยม ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และสเปน รวมถึงอิหร่าน เม็กซิโก และเกาหลี นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีการนำเสนอด้านเทคนิค โดยได้กล่าวถึงการพัฒนาการผลิตสังกะสีจากแร่ที่อยู่ในรูปออกไซด์ และการเพิ่มมูลค่าในรูปสารเคมีและโลหะผสม ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับอุตสาหกรรมสังกะสีของไทย เนื่องจากในประเทศมีแหล่งสังกะสีออกไซด์ขนาดใหญ่ รวมทั้งสามารถพัฒนาการเพิ่มมูลค่าสังกะสีเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ สี ยาง แบตเตอรี่ ปุ๋ย ยา เครื่องสำอาง เหล็กเคลือบป้องกันสนิม และโลหะผสม ซึ่งจะส่งผลให้การใช้สังกะสีในประเทศสูงขึ้น อนึ่ง การประชุมครั้งนี้ ได้ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมกับกลุ่มศึกษาทองแดงระหว่างประเทศ (International Copper Study Group) และกลุ่มศึกษานิกเกิลระหว่างประเทศ (Internation Nickel Study Group) เพื่อให้เกิดพัฒนาโลหะพื้นฐานแบบบูรณาการอันจะเป็นประโยชน์ของภาครัฐและผู้ประกอบการ โดยได้เริ่มกิจกรรมแรก คือ Joint Study Group's Workshop on Metal Recycling เมื่อวันที่ 10-11 กันยายน 2546 ณ เมืองเซนต์ปีเตอร์เบอรก สหพันธรัฐรัสเซีย สำหรับการปรับโครงสร้างองค์กร และความร่วมมือด้านอื่นจะได้ร่วมหารือในการประชุมกลุ่มย่อยต่อไป ในส่วนของประเทศไทย ปี 2546 คาดการณ์ว่า การบริโภคตะกั่วจะมีจำนวน 130,000 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เนื่องจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่งผลให้มีความต้องการใช้ตะกั่วสำหรับผลิตแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาในประเทศปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงปลายปีตามสถานการณ์ราคาโลหะในตลาดโลก สำหรับการบริโภคสังกะสีในปีนี้ คาดว่าจะมีปริมาณ 130,000 ตัน และการผลิตเต็มกำลังคือ 105,000 ตัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา อันเป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและความต้องการของอุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ ส่งผลให้การส่งออกลดลงประมาณร้อยละ 15 เนื่องจากผู้ประกอบการเน้นการจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก ความต้องการในประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกับความต้องการในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจโลก ทำให้ราคาสังกะสีปรับตัวสูงขึ้นโดยมีราคาในตลาดโลกประมาณ ตันละ 900 เหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มจะปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง--จบ-- -วอ/รก-

ข่าวกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่+กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานวันนี้

STGT ชูแนวคิด Waste to Value สร้างคุณค่าทางสังคมและเศรษฐกิจ ภายใต้งาน "พัฒนาองค์กร ก้าวสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน" ปีที่ 4

นางสาวธัญญ์รวี ฐานนท์วรพงษ์ (ที่ 4 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายสิ่งแวดล้อม สาขาอันวาร์ และสาขาสะเดา พี.เอส. บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ได้ร่วมบรรยายและแบ่งปันประสบการณ์ในหัวข้อ "การสร้างมูลค่าและโอกาสทางธุรกิจด้วยแนวคิด Waste to Value" ผ่านกลยุทธ์ "Upcycling" ภายใต้งานสัมมนา "พัฒนาองค์กร ก้าวสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน ปีที่ 4" จัดโดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) โดยหนึ่งในโครงการที่ STGT

นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้... สภาการเหมืองแร่ — นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นประธานเปิดงาน "การประชุมสามัญประจำปี 2567" พร้อมบรรยายพิเศษหัวข้อ ...

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งช... สวทช. ผนึกกำลัง กพร. ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 — สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และกรมอุตสาหกรรมพื...

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งช... สวทช. ผนึกกำลัง กพร. ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 — สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และกรมอุตสาหกรรมพื...

คุณศักดิ์สิทธิ์ บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน... TPBI ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการรับรองแห่งชาติ (มตช.9-2565) — คุณศักดิ์สิทธิ์ บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) เป็นตัว...

บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน... CHOW มุ่งยกระดับธุรกิจสู่องค์กร"คาร์บอนต่ำ"เปิดทางสู่ตลาดโลก — บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์...