กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--สกว.
ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน การไม่มีเงินบาทเป็นอุปสรรคในการผลิตและความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น ทั้ง ๆ ที่ในแต่ละชุมชน ยังคงมีปัจจัยในการดำรงชีพและการผลิต เช่น วัตถุดิบตามธรรมชาติและแรงงาน "เบี้ยกุดชุม"เป็นต้นแบบของระบบการแลกเปลี่ยนชุมชน มีการนำไปทดลองใช้กับชุมชนอย่างน้อย 45 แห่ง ผลที่ได้มีทั้งที่ยอมรับและไม่ยอมรับ สกว.จึงสนับสนุนให้เกิดศึกษาต่อเพื่อหารูปแบบระบบแลกเปลี่ยนชุมชนที่เหมาะสม และกำหนดจัดสัมมนาเรื่องระบบแลกเปลี่ยนชุมชนในวันที่ 9 ธันวาคมนี้
ศ.ดร.อภิชัย พันธเสน ผู้อำนวยการสถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคมฯ หัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาระบบการแลกเปลี่ยนชุมชนเพื่อการพึ่งตนเอง ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า จากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์และเงินบาทส่งผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นผ่านราคาสินค้าที่ชุมชนต้องซื้อหาจากภายนอก การสร้างระบบแลกเปลี่ยนย่อย ๆ ขึ้นมาในท้องถิ่นจะทำให้เกิดกิจกรรมการแลกเปลี่ยน กระตุ้นการผลิตเพื่อการพึ่งตนเองในชุมชนและช่วยสมาชิกออมเงินบาท ภายใต้ระบบแลกเปลี่ยนชุมชน สมาชิกสามารถกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนได้ตามความสมัครใจของผู้ซื้อผู้ขาย การได้พบปะเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้ากันในชุมชนช่วยรื้อฟื้นความสัมพันธ์ในชุมชนทำให้เกิดความอาทรเกื้อกูลกัน เป็นพลังสู่ความร่วมมือในการทำกิจกรรมอื่น ๆ ของชุมชนชาวบ้านกุดชุมได้เริ่มใช้ระบบนี้ในปี พ.ศ.2543 แต่ต้องระงับชั่วคราวจากการท้วงติงของรัฐ แต่ด้วยการสนับสนุนของ สกว. โครงการวิจัยระบบแลกเปลี่ยนชุมชนเพื่อการพึ่งพิงตนเองจึงเกิดขึ้น แนวคิดเรื่องระบบแลกเปลี่ยนถูกนำไปทดลองใช้ในชุมชนต่าง ๆ 45 แห่ง ทั่วประเทศ มีทั้งชุมชนที่ปฎิเสธและชุมชนที่ยอมรับแนวคิดนี้นำไปทดลองใช้เกิดเป็นรูปแบบระบบแลกเปลี่ยนที่แตกต่างหลากหลายไปตามความเหมาะสมของชุมชนท้องถิ่นนั้น ๆ
ศ.ดร.อภิชัย กล่าวว่า การศึกษาดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและพัฒนารูปแบบการแลกเปลี่ยนของชุมชนที่ส่งเสริมให้เกิดการพึ่งตนเอง เพื่อสร้างนักบริหารจัดการของชุมชนในการวางฐานระบบเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็งในอนาคต โดยการศึกษาบทเรียนของต่างประเทศและการศึกษาภาคสนามโดยนำประสบการณ์จากกุดชุมและจากต่างประเทศมาประยุกต์ใช้ มีการจัดเวทีชาวบ้าน เล่นบทบาทสมมุติ จัดตลาดนัดชุมชนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนารูปแบบ สร้างตัวบ่งชี้และวิเคราะห์ข้อมูลการพัฒนาและผลของระบบแลกเปลี่ยนชุมชน
ศ.ดร.อภิชัย กล่าวว่า ระบบการแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นมี 2 รูปแบบใหญ่ ๆ คือ ระบบแลกเปลี่ยนในชุมชน กับ ระบบแลกเปลี่ยนระหว่างชุมชน โดยระบบแลกเปลี่ยนในชุมชน ได้แก่ 1) ระบบแลกเปลี่ยนสินค้ากับสินค้า เป็นระบบที่เกิดขึ้นง่ายที่สุด ต้นทุนการบริหารจัดการต่ำ ไม่ซับซ้อนและเป็นพื้นฐานของวัฒนธรรมชุมชน กลุ่มที่ใช้ระบบนี้ได้แก่ กลุ่มแม่บ้านมิตรภาพพัฒนา กลุ่มทอผ้าบ้านวังทอง กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ต.ม่วงงาม กลุ่มบ้านวังตอตั้ง ศูนย์การเรียนรู้พลังชุมชน ต.ห้วยบง กลุ่มบ้านโหล่น กลุ่มอนุเยาวชนรักต้นน้ำชี กลุ่มบ้านเขาน้อย
2) ระบบที่ใช้สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เป็นระบบที่สะดวกในการแลกเปลี่ยนเพราะไม่ต้องรอให้ความต้องการสินค้าตรงกัน แต่มีต้นทุนในการจัดการของส่วนกลาง กลุ่มที่ใช้ระบบนี้ได้แก่ กลุ่ม อ.กุดชุม กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ จำกัด และ 3) ระบบการหักบัญชี ยังเกิดขึ้นน้อย เนื่องจากความไม่คุ้นเคยในการลงบัญชีและต้องมีความไว้วางใจกันสูง จงเหมาะกับกลุ่มที่มีร้านค้าชุมชนเป็นศูนย์กลาง กลุ่มที่ใช้ระบบนี้ได้แก่ กลุ่มแม่บ้านมิตรภาพพัฒนาและกลุ่มผู้ผลิตกรงนกและหัวกรงนก
ส่วน ระบบแลกเปลี่ยนระหว่างชุมชน เกิดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าที่ชุมชนผลิตได้กับสินค้าที่ชุมชนขาดแคลน มีการระดมทุนในการผลิตและกระจายสินค้า โดยแต่ละชุมชนสำรวจการผลิตและความต้องการของสมาชิกในชุมชนเพื่อรวบรวมสินค้าจากสมาชิกและกระจายสินค้าที่แลกเปลี่ยนมาได้สู่สมาชิกโดยตรง กลุ่มที่ใช้ระบบนี้ได้แก่ กลุ่มเพื่อน-เสี่ยว-เกลอ แลกอาหารทะเลและมะพร้าวจากภาคใต้ กับข้าวและหอมกระเทียมจากภาคกลางและภาคอีสาน
จากการศึกษาพบว่า ระบบแลกเปลี่ยนชุมชนมีส่วนช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกในชุมชน ก่อให้เกิดการผลิตที่หลากหลาย เพราะชุมชนได้เรียนรู้ความต้องการและความสามารถในการผลิตของตน ความขัดแย้งในชุมชนมีแนวโน้มลดลงและมีความร่วมมือกันมากขึ้น สามารถออมเงินบาทได้มากขึ้น ส่วนผลต่อระบบเศรษฐกิจมหภาคยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากกลุ่มมีขนาดเล็กและใช้ระบบเฉพาะในกลุ่มสมาชิก อีกทั้งยังพบว่า มีปัญหาบางประการที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนชุมชน เช่น กลุ่มที่อยู่ใกล้เมืองและมีระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับภายนอกมากจะไม่เห็นประโยชน์ของระบบแลกเปลี่ยน หรือเห็นเป็นเรื่องยุ่งยาก กลุ่มที่มีกิจกรรมมากจะขาดผู้นำในการดำเนินกิจกรรม และบางกลุ่มยังไม่รู้ความต้องการของสมาชิก ทำให้มีการแลกเปลี่ยนน้อย
ดังนั้นเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการแลกเปลี่ยนชุมชน โครงการฯจึงกำหนดจัดงานสัมมนาเรื่อง ระบบแลกเปลี่ยนชุมชน ขึ้นในวันอังคารที่ 9 ธันวาคม 2546 เวลา 08.30-16.30 น. ณ โรงแรมเอเชีย ถนนพญาไท กรุงเทพฯ โดยในงานจะมีการนำเสนอประเด็นที่น่าสนใจได้แก่ ความสำคัญของระบบการแลกเปลี่ยนชุมชนเพื่อการพึ่งตนเอง ระบบการแลกเปลี่ยนชุมชนในต่างประเทศ ทัศนะทางกฎหมายของระบบแลกเปลี่ยนชุมชน ฟังทัศนะจากชุมชนที่จัดทำระบบแลกเปลี่ยนโดยตัวแทนจากชุมชนต่าง ๆ และระบบแลกเปลี่ยนชุมชนในประเทศไทย เป็นต้น จึงขอเชิญนักวิชาการ บุคลากรจากภาครัฐ ,เอกชน NGOs ตัวแทนชุมชน และผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมรับฟังการสัมมนาดังกล่าวได้ตามวันและเวลาที่กำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โครงการฯ สถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม โทร. 0-29413756,5797044.--จบ--
-รก-