กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--เพนเนอร์-แมดิสัน
บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ส่วนคอนซูมเมอร์ซิสเตมส์โพรดักตส์ ส่งโปรเจ็คเตอร์รุกตลาดอุปกรณ์พรีเซนเทชั่นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2546 พร้อมกันถึง 5 รุ่น ได้แก่ LV-S3, LV-5210, LV-7210, LV-7215 และ LV-7555 เลเซอร์พรินเตอร์ 2 รุ่น ได้แก่ เลเซอร์พรินเตอร์สี LBP-2410 และเลเซอร์พรินเตอร์ ขาว-ดำ LBP-3200 ที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ CAPT และ SCoA อันโดดเด่นเฉพาะตัว และเป็นรายเดียวที่มีอุปกรณ์พรีเซนเทชั่นและอุปกรณ์สำนักงานครบโซลูชั่น เหมาะสำหรับทุกกลุ่ม ตั้งแต่เอเจนซี่ที่ต้องพรีเซนต์งานนอกสถานที่ ห้องประชุมในองค์กร สถานศึกษา ขยายไปถึงกลุ่มโรงภาพยนตร์
นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ส่วนคอนซูมเมอร์ซิสเตมโพรดักตส์ กล่าวถึงสถานการณ์และแนวโน้มของตลาดว่า “ในปีที่ผ่านมา ตลาดโปรเจ็คเตอร์ในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 16,000 เครื่อง กำลังซื้อเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 เนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ โดยรวม นอกจากนี้ ตลาดอุปกรณ์พรีเซนเทชั่นยังมีการใช้งานกว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะในหน่วยงานธุรกิจ ภาคเอกชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคการศึกษาหรือแม้แต่ธุรกิจขนาดย่อมที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา อีกปัจจัยที่สำคัญ คือ การแข่งขันด้านราคา และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ก็มีส่วนให้มีการใช้งานมากขึ้น”
นายวรินทร์ กล่าวต่อไปว่า “แคนนอนทำตลาดอุปกรณ์พรีเซนเทชั่นที่มีทั้งโปรเจ็คเตอร์, Visualizer, Network Camera, Presentation Assistant และเครื่องสแกนเอกสาร เรียกได้ว่าครอบคลุมอุปกรณ์นำเสนอ มากที่สุด โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยยอดจำหน่ายสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 20% เนื่องจากเรามี ความเชี่ยวชาญ และชื่อเสียงในเลนส์ของกล้องถ่ายรูปซึ่งพัฒนามาไว้ในเครื่องโปรเจ็คเตอร์ ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพและความคมชัด สำหรับโปรเจ็คเตอร์ทั้ง 5 รุ่น รวมถึงอุปกรณ์ในพรีเซนเทชั่นโซลูชั่นทั้งหมดนั้น แคนนอนตั้งเป้าหมายการขายไว้ไม่ต่ำกว่า 1,000 เครื่อง ภายในปี 2547 หรือคิดเป็นอัตราเติบโตไม่น้อยกว่า 35% โดยจะขยายเข้ากลุ่มโรงภาพยนตร์ โชว์รูมต่าง ๆ สถานศึกษา ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องโปรเจ็คเตอร์ และเลนส์แบบพิเศษที่มีให้เลือกหลายแบบตามการใช้งาน”
“สำหรับตลาดเลเซอร์พรินเตอร์โดยรวมเติบโตขึ้นอย่างมากต่อเนื่องทุกปี เนื่องจากเป็นอุปกรณ์สำนักงานที่สามารถตอบสนองความต้องการงานพิมพ์ในสำนักงานได้อย่างแท้จริง แคนนอนเป็นผู้ผลิตเลเซอร์พรินเตอร์ รายใหญ่ที่ support ให้กับแบรนด์อื่นๆ ลงสู่ตลาดมากที่สุด ในปีนี้ แคนนอนตั้งเป้าการจำหน่ายเลเซอร์พรินเตอร์ ไว้ที่กว่า 7,000 เครื่อง และคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าการขายนี้ได้อย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาตลาดโตขึ้นอย่างมากตามที่เราคาดเอาไว้ โดยเฉพาะกลุ่มองค์กร SMEs ที่ขยายตัวอย่างมากในปีนี้ สำหรับ ปี 2547 แคนนอนได้ตั้งเป้าหมายการขายไว้กว่า 10,000 เครื่อง” นายวรินทร์ กล่าว
ด้านผลิตภัณฑ์
เทคโนโลยีโปรเจ็คเตอร์ของแคนนอนนั้นถือว่านำหน้าในวงการอุปกรณ์นำเสนอ ในฐานะผู้นำในด้านเลนส์ กล้องถ่ายภาพซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวได้ถูกพัฒนามาไว้ในเครื่องโปรเจ็คเตอร์แคนนอนทุกรุ่น ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ ในเรื่องคุณภาพและความคมชัด นอกจากนี้ แคนนอนยังพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะเพื่อสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย โดยได้พัฒนาเลนส์ ตามการใช้งานในสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีทั้งเลนส์ Wide และเลนส์ซูม ไม่ว่าจะเป็นในโชว์รูม, Window Display หรือแม้แต่ในโรงภาพยนตร์
นอกจากนี้ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี Wide Zoom Lens ที่ทำให้ฉายภาพขนาด 100 นิ้ว ได้จากระยะ ใกล้เพียง 2.5 เมตร เท่านั้น จึงไม่ต้องใช้พื้นที่มาก อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นใหม่ในการจัดการภาพ เช่น การจัดค่าสี (Color Management), การควบคุมความมืดและสว่าง (Auto Picture Control), การปรับภาพเคลื่อนไหวให้นิ่มนวล (New Progressive Scanning) และการพัฒนาเพื่อรองรับกับความต้องการอื่นๆ เช่น การนำเสนอ แบบไร้สาย (Wireless Presentation) เพื่อการต่อเชื่อมกับ PC มากกว่า 1 เครื่อง, Network Imager ควบคุมโปรเจ็คเตอร์หลายๆ เครื่องโดย PC เครื่องเดียว, การนำเสนอโดยใช้ Media Card รวมไปถึงการใช้งาน ร่วมกับอุปกรณ์ต่อเชื่อมอื่นๆ เช่น เครื่องฉายภาพ 3 มิติ (Visualizer) สแกนเนอร์สำหรับนำเสนอ (Presentation Assistant) Digitizer Pointer กล้องดิจิตอล หรือดิจิตอลวิดีโอ และเครื่องเล่น DVD
สำหรับเลเซอร์พรินเตอร์ แคนนอนได้ปฎิวัติการพิมพ์งานด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ “CAPT & SCoA” อันเป็นเทคโนโลยีเอกลักษณ์เฉพาะของแคนนอน ทำให้เลเซอร์พรินเตอร์ไม่จำเป็นต้องมีหน่วยความจำในเครื่องมากเหมือนแบรนด์อื่น เพราะเทคโนโลยี CAPT จะทำการประมวลผลโดยใช้หน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี SCoA ทำการบีบอัดข้อมูลให้เล็กลงแล้วจึงทยอยส่งไปยังพรินเตอร์เพื่อป้องกัน การสำลักข้อมูลและทำให้เครื่องแฮงค์ จึงไม่จำเป็นต้อง upgrade memory ของเครื่อง เทคโนโลยี CAPT & SCoA มีอยู่ในเลเซอร์พรินเตอร์รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น รวมถึงเทคโนโลยี On Demand Fixing ที่ไม่ต้องเสียเวลาในการ warm up เครื่อง ทำให้งานพิมพ์ทำได้รวดเร็ว ทั้งการพิมพ์แผ่นแรกจึงประหยัดเวลาได้มาก
กลุ่มเป้าหมายในการทำตลาด
โปรเจ็คเตอร์ รุ่น LV-S3 จะเน้นกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการนำเสนองานนอกสถานที่ ตั้งแต่เอเจนซี่ไปจนถึง สำนักงาน และห้องประชุมขนาดเล็ก-กลาง เนื่องจากจุดเด่นในเรื่องขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม สามารถฉายภาพขนาดใหญ่ถึง 100 นิ้ว ได้ในระยะใกล้เพียงแค่ 3.2 เมตร และต่อเชื่อมได้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้หลายชนิด ทั้งคอมพิวเตอร์ระบบ Windows และ Mac OS รวมถึง DVD จึงง่าย และสะดวกต่อการนำเสนอนอกสถานที่
ส่วนโปรเจ็คเตอร์ รุ่น LV-7215, LV-7210 และ LV-5210 จะเน้นไปที่กลุ่มองค์กรขนาดเล็ก-กลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งจุดเด่นของผลิตภัณฑ์จะอยู่ที่ฟังก์ชั่นการนำเสนอแบบไร้สาย ด้วยอุปกรณ์เสริม Multi-Card Imager เพื่อการนำเสนอแบบไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ ด้วย Compact Flash Card และสามารถสั่งงานผ่าน Wireless LAN Card และ เพิ่มความสะดวกสบายในการนำเสนอได้มากขึ้น รวมไปถึงการต่อเชื่อมอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับนำเสนอต่างๆ ในรูปแบบ Presentation เพื่อให้การนำเสนอมีความเป็นมืออาชีพ
โปรเจ็คเตอร์ รุ่น LV-7555 โดดเด่นด้วยความสว่างสูงสุดถึง 4600 ANSI lumens เพื่อความสว่างชัดใสทุกรายละเอียด สำหรับการนำเสนองานหรือการประชุมในห้องประชุมขนาดใหญ่ โชว์รูม และโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก นำเสนอแบบไร้สายด้วยอุปกรณ์เสริม Network Imager เชื่อมต่อโปรเจ็คเตอร์เข้ากับ Network เพื่อสั่งงานจากคอมพิวเตอร์ได้ทุกจุด และควบคุมโปรเจ็คเตอร์หลายเครื่องจากศูนย์ควบคุมเพียงจุดเดียว
สำหรับเลเซอร์พรินเตอร์สี LBP-2410 มีเทคโนโลยีที่โดดเด่น oil-less S toner โดยผงหมึกมีความมัน อยู่ในเม็ดสีจึงไม่ใช้ Silicon เคลือบ ทำให้มีความคมเรียบเนียน และสามารถเขียนข้อความเพิ่มเติมบนงานพิมพ์ได้ทันที อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับ Network เพื่อการพิมพ์งานส่วนรวม เหมาะสำหรับออฟฟิศตั้งแต่ SOHO ไปจนถึง เอเจนซี่ Graphic house ที่ต้องการงานพิมพ์สีระดับมืออาชีพ แต่ยังคงต้องการงานพิมพ์ในปริมาณมากซึ่งเครื่องพิมพ์ Inkjet ไม่สามารถรองรับได้ เนื่องจากต้นทุนในระบบ inkjet ยังสูงกว่าระบบเลเซอร์
เลเซอร์พรินเตอร์ ขาว-ดำ LBP-3200 ให้ความเร็วถึง 18 แผ่น/นาที และแผ่นแรกใช้เวลาเพียง 10 วินาที ด้วยดีไซน์ที่เล็ก สวยงาม ประหยัดพื้นที่การวางแต่ยังคงรองรับงานหนักด้วยถาดจุกระดาษได้ถึง 250 แผ่น ถาดรับกระดาษที่ออกแบบให้กันฝุ่นเข้าทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องพิมพ์ได้นานยิ่งขึ้น เพื่อความคุ้มค่าต่อการใช้งาน และประหยัดด้วยโทนเนอร์ที่พิมพ์ได้สูงสุดถึง 2,500 แผ่น เหมาะกับออฟฟิศที่เน้นการพิมพ์เอกสารในปริมาณมาก
กลยุทธ์การตลาด และการขาย
สำหรับกิจกรรมการตลาดของโปรเจ็คเตอร์ และเลเซอร์พรินเตอร์จะเน้นไปที่การจัดสัมมนา และจัด Office Roadshow ต่อเนื่องควบคู่ในรูปแบบ Total Office Solution นอกจากนี้โปรเจ็คเตอร์จะเน้นการ โปรโมตเพื่อสร้าง Brand value ตามสื่อต่างๆ เพื่อขยายกลุ่มผู้ใช้ เช่น การนำเสนอในแม็กกาซีนและหนังสือพิมพ์เฉพาะกลุ่ม สื่อวิทยุ การนำเสนอผ่านสื่อภายนอกอาคารสำหรับกลุ่มที่มีกำลังซื้อจริงๆ โดยเริ่มจากในสนามกอล์ฟเป็นอันดับแรก สำหรับเลเซอร์ พรินเตอร์เน้นการกระจายสินค้าให้ดีลเลอร์ไอที และ superstore เพื่อให้ผู้ใช้สามารถหาซื้อได้ง่าย นอกจากนี้ จะมีการขายตรงสำหรับกลุ่ม SI อีกด้วย นายวรินทร์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่น และราคาที่แข่งขันได้ บวกกับกลยุทธ์ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ทำให้เรามั่นใจว่า โปรเจ็คเตอร์ ทั้ง 5 รุ่น และเลเซอร์พรินเตอร์ทั้ง 2 รุ่นของแคนนอนจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งสองกลุ่มอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในเรื่องเทคโนโลยี และยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์นำเสนอ และอุปกรณ์พิมพ์งานเอกสารต่างๆ ให้ตอบสนองรูปแบบการใช้งานของลูกค้าให้มากที่สุดอีกด้วย”
ราคาและการวางจำหน่าย
โปรเจ็คเตอร์ทั้ง 5 รุ่นได้แก่ รุ่น LV-S3 ราคา 71,000 บาท รุ่น LV-5210 ราคา 119,000 บาท รุ่น LV-7210 ราคา 189,000 บาท รุ่น LV-7215 ราคา 210,000 บาท และรุ่น LV-7555 ราคา 480,000 บาท สำหรับเลเซอร์พรินเตอร์สี LBP-2410 ราคา 36,200 บาท และเลเซอร์พรินเตอร์ ขาว-ดำ LBP-3200 ราคา 13,175 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด โทร. 0-2344-9999 ต่อ 176-177 แฟกซ์. 0-2344-9967-8
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทแคนนอน
บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 เพื่อให้บริการด้านการขาย และการตลาด แก่ผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ของแคนนอน ได้แก่ Digital Cameras, SLR Cameras, Digital Camcorders, Copying Machines, Digital Multifunction Machines, Facsimile Machines, Calculators, Micrographic Equipment, Electronic Filing Systems, Visualizers, Scanners, Laser Beam Printers, Bubble Jet Printers, Multimedia Projectors และสินค้าอื่นๆ ปัจจุบัน บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) มีศูนย์ให้บริการ 117 สาขาทั่วประเทศ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Arunee Na Songkhla
Media Relations Executive
Penner-madison & Co.,Ltd.
Phone: (662)711-6891-9 # 108
Mobile : 0-9445-5545
Fax: (662)381-8791
E-mail :
[email protected]จบ--
-นห-