กทม. ประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบการที่จัดและจำหน่ายกระเช้าของขวัญ

กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--กทม. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.46) เวลา 10.00 น. นพ.ประพันธ์ กิติสิน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมชี้แจงผู้ประกอบการที่จัดและจำหน่ายกระเช้าของขวัญ โดยมี นพ.ปิตินันท์ ณัฐรุจิโรจน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นพ.เอี่ยม วิมุติสุนทร ผู้อำนวยการสำนักอนามัย น.ส.อัญชลี ปัทมาสวรรค์ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย นายวัชรา พรหมเจริญ ผู้อำนวยการกองอนามัยสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กทม. ตลอดจนผู้ประกอบการจัดและจำหน่ายกระเช้าของขวัญ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม เนื่องจากประชาชนนิยมซื้อกระเช้าของขวัญมอบให้แก่กันเพื่อเป็นการอวยพรและส่งความสุขในเทศกาลปีใหม่ กรุงเทพมหานครมีนโยบายควบคุมคุณภาพมาตรฐานสินค้าที่ใช้ในการจัดกระเช้า ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯ มีสถานประกอบการที่รับจัดและจำหน่ายกระเช้าของขวัญ ประมาณ 148 ราย ดังนั้น เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความปลอดภัยในการบริโภคอาหาร กรุงเทพมหานครจึงได้เชิญผู้ประกอบการดังกล่าวมาประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติในการจัดและจำหน่ายกระเช้าของขวัญใน เทศกาลปีใหม่ โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการดำเนินการ ดังนี้ 1. กระเช้าอาหารบรรจุภัณฑ์ ขอให้ผู้ประกอบการคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพดี แสดงรายการสินค้าในกระเช้าและมีเวลาก่อนหมดอายุอย่างน้อย 6 เดือน (โดยให้นับจากสินค้าชนิดแรกที่หมดอายุ) มีฉลากถูกต้อง รวมทั้งต้องติดตราสัญลักษณ์ของสถานประกอบการที่จัดและจำหน่ายกระเช้าของขวัญนั้นๆ ตลอดจนติดป้ายรับประกันสินค้า 2. กระเช้าของขวัญประเภทของสด เช่น ผัก ผลไม้ ให้ติดสติ๊กเกอร์วันที่บรรจุลงบนพลาสติกที่ห่อหุ้มกระเช้าของขวัญ และควรเก็บสินค้าก่อนวันที่ประเมินว่าสินค้าจะหมดอายุอย่างน้อย 3 วัน 3. ให้ผู้ประกอบการจัดทำแผ่นป้ายประกาศ ณ บริเวณที่จำหน่ายกระเช้าฯ เพื่อรับประกันสินค้า นอกจากนี้สินค้าประเภทชอคโกแลตและท๊อฟฟี่รสนม ขณะทำการบรรจุภัณฑ์ต้องอยู่ในห้องที่มีความเย็น เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า ทั้งนี้หากผู้บริโภคไม่พอใจคุณภาพสินค้าสามารถนำมาเปลี่ยนหรือคืนได้ ตั้งแต่วันที่ได้รับกระเช้าฯ จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2547 พร้อมกันนี้กรุงเทพมหานครยังได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการส่งเสริมการจัดจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ตลอดจนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครที่จะดำเนินการสุ่มตรวจคุณภาพสินค้าในกระเช้าของขวัญ ซึ่งอาจจะมีการแกะแผ่นพลาสติกตรวจสอบ นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการในการดูแล เฝ้าระวังคุณภาพอาหารพร้อมปรุงพร้อมบริโภค โดยการควบคุมและตรวจสอบอุณหภูมิของตู้แช่สำหรับเก็บอาหารสดให้อยู่ระหว่าง 0 - 7.2 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิตู้เก็บอาหารร้อนรอเสิร์ฟให้อยู่ระหว่าง 60 - 73 องศาเซลเซียส รวมทั้งขอให้ดูแลการจัดการด้านสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมของสถานประกอบการด้วย เพื่อไม่ให้มีสัตว์พาหะนำโรคต่างๆ เช่น แมลงสาบ หนู เป็นต้น สำหรับในปี 2547 รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น “ครัวของโลก” ดังนั้นการดำเนินมาตรการด้านสุขาภิบาลอาหารต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย--จบ-- -นห-

• ข่าวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
• ข่าวปิตินันท์ ณัฐรุจิโรจน์
• ข่าวอัญชลี ปัทมาสวรรค์
• ข่าวเอี่ยม วิมุติสุนทร
• ข่าวอนามัยสิ่งแวดล้อม