คู่รักไทยมีเพศสัมพันธ์ 103 ครั้งต่อปี หรือเฉลี่ยประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นจำนวนเฉลี่ยใกล้เคียงกับทั่วโลก
คนไทยเป็นเจ้าเหรียญทองการใช้เวลาเล้าโลมก่อนการมีเพศสัมพันธ์น้อยที่สุด (โดยเฉลี่ยเพียง 11.5 นาที)
คนไทยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่อายุเฉลี่ย 18.3 ปี ซึ่งมากกว่าอายุเฉลี่ยทั่วโลก
ผู้หญิงไทยถึงร้อยละ 61 แกล้งถึงจุดสุดยอดในรอบ 1 ปี
คนไทยเกือบครึ่ง (ร้อยละ 46) มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ทราบประวัติทางเพศของคู่นอนของตนมาก่อน
อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ และ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ยังคงครองตำแหน่งหนุ่มสาวเซ็กซี่
ของไทยติดต่อกันเป็นปีที่สอง
ผู้คนกว่า 350,000 คน จากทั่วโลกที่ร่วมตอบแบบสอบถามในโครงการดูเร็กซ์ โกลบัล เซ็กซ์
เซอร์เวย์ 2004 เผยผลการสำรวจว่า ปัจจุบันคนทั่วโลกมีเพศสัมพันธ์เฉลี่ย 103 ครั้งต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกับคนไทย
ในปีนี้ชาวฝรั่งเศสครองแชมป์ การมีเพศสัมพันธ์บ่อยที่สุดคือ เฉลี่ย 137 ครั้งต่อปี ในขณะที่บางประเทศในทวีปเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น มีเพศสัมพันธ์น้อยที่สุดเพียง 46 ครั้งต่อปี (น้อยกว่าสัปดาห์ละครั้ง) ส่วน ชาวสิงคโปร์และชาวฮ่องกง มีเพศสัมพันธ์ในความถี่ใกล้เคียงกัน คือ 79 ครั้งต่อปี
จากผลการสำรวจที่จัดทำขึ้นโดยถุงยางอนามัยแบรนด์ชั้นนำระดับโลกนี้ ยังแสดงให้เห็นว่า เมื่อพูดถึงการเล้าโลมก่อนมีเพศสัมพันธ์ คนไทยเป็นชาติที่ใช้เวลาน้อยที่สุดเพียง 11.5 นาที ตามมาด้วยชาวฮ่องกง (14.2 นาที) และชาวเวียดนาม (15.2 นาที) โดยชาติที่ใช้เวลาในการเล้าโลมนานที่สุดคือ ชาวอังกฤษ ใช้เวลา 22.5 นาที ตามมาด้วยชาวเยอรมัน (22.2 นาที)
นอกจากเรื่องการเล้าโลมก่อนมีเพศสัมพันธ์แล้ว ชาวอังกฤษอีกเกือบ 1 ใน 3 (ร้อยละ30) ยอมรับว่าตนเคยแกล้งถึงจุดสุดยอดในช่วงปีที่ผ่านมา ในขณะที่คนไทยมากกว่าร้อยละ 30 ก็ยอมรับว่าตนเคยทำเช่นเดียวกัน โดยตัวเลขส่วนใหญ่จะมาจากผู้หญิง (ร้อยละ 61) ที่ยอมรับว่าตนเคยแกล้งถึงจุดสุดยอด
มร. ลี เทย์เลอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอสแอล เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความสำคัญของ ดูเร็กซ์ โกลบัล เซ็กซ์ เซอร์เวย์ ว่า “การสำรวจดังกล่าวนี้เป็นการศึกษาและ
เปรียบเทียบด้านทัศนคติและพฤติกรรมทางเพศของแต่ละประเทศและแนวโน้มของคนทั่วโลก โดยจะเป็นการสำรวจผ่านทางอินเตอร์เน็ต ทำให้คนที่เข้ามาตอบแบบสอบถามสามารถเปิดเผยความจริงเรื่องเพศสัมพันธ์ของตนเองได้อย่างไม่เขินอาย หรือบางคนอาจจะกล้าเปิดเผยมากกว่าเวลาอยู่กับคู่ของตนเสียอีก”
“ผลการสำรวจดังกล่าวซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้ม ทัศนคติ และประสบการณ์ด้านเพศสัมพันธ์ของคนไทยเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยในปีนี้ ประเทศไทยมีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 15,000 คน ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยกล้าที่จะเปิดเผยในเรื่องเพศมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสิ่งที่ตนชอบหรือไม่ชอบ” มร. ลี กล่าวเพิ่มเติม
มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุ...
คนทั่วโลกโดยเฉลี่ยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุ 17.7 ปี และแนวโน้มจากทั่วโลกจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุน้อยลง จากการสำรวจพบว่า คนอายุ 45 ปี ขึ้นไป เริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุ 18.2 ปี ส่วนคนอายุ 21-24 ปี มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนอายุ 17.5 ปี วัยรุ่นอายุ 16-20 ปี มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนอายุ 16.5 ปี ส่วนคนไทยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกช้ากว่าอัตราเฉลี่ยทั่วโลก คือ อายุเฉลี่ย 18.3 ปี
มีเพศสัมพันธ์โดยปราศจากการป้องกัน
คนไทยเกือบครึ่ง (ร้อยละ 46) ยอมรับว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนโดยที่ไม่เคยทราบประวัติทางเพศของเขาหรือเธอมาก่อน ส่วนคนทั่วโลก (ร้อยละ 35) ประพฤติเช่นเดียวกัน ชาติที่มีความเสี่ยงมากที่สุดได้แก่ ชาวเดนมาร์กและสวีเดน (ร้อยละ 64 เท่ากัน) ตามมาด้วยชาวญี่ปุ่น, นอร์เวย์ และแอฟริกาใต้ (ร้อยละ 58 )
ส่วนชาติที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดได้แก่ ชาวอินเดีย เพียง 1 ใน 5 ของคนอินเดียยอมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ทราบประวัติทางเพศของคู่นอนของตน ตามมาด้วยชาวเวียดนาม ร้อยละ 24 และชาวสเปน ร้อยละ 26
สิ่งที่กังวลเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์
ในประเทศไทย ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 64 วิตกกังวลกับโรคเอดส์มากกว่าโรคติดต่อ
ทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ โดยชาติที่วิตกกังวัลกับโรคเอดส์มากที่สุด คือ ชาวบัลกาเรีย (ร้อยละ 89) ตามด้วยชาวบราซิลและชาวเวียดนาม ที่วิตกกังวลรองลงมาที่ร้อยละ 82 เท่ากัน ส่วนชาติที่มีความกังวลน้อยที่สุด คือ ชาวจีน (ร้อยละ 28) และชาวฮ่องกง (ร้อยละ 46)
การที่ชาวจีนมีความกังวลในเรื่องของโรคเอดส์น้อยกว่าประเทศอื่นๆ สะท้อนได้จากจำนวนคู่นอนของชาวจีนที่มีค่าเฉลี่ยมากสุดถึง 19.3 คน ตามด้วยชาวบราซิล (15.2 คน) ชาวญี่ปุ่น (12.7 คน) และชาวเดนมาร์ก (12.5 คน)
ส่วนชาวเวียดนามมีจำนวนคู่นอนน้อยที่สุดเพียง 2.5 คน ตามด้วยชาวฮ่องกง 3.5 คน และชาวอินเดีย 3.7 คน ในขณะที่คนไทยมีคู่นอนโดยเฉลี่ย 8.5 คน ซึ่งน้อยกว่าเฉลี่ยทั่วโลก 10.5 คน
ประสบการณ์ทางเพศ
คนไทยเป็นหนึ่งใน 4 ประเทศที่ใช้อุปกรณ์เสริมสร้างประสบการณ์ทางเพศน้อยที่สุด (อินเดีย,
เวียดนาม และเยอรมนี) ไม่ว่าจะเป็น กุญแจมือ, หนังสือหรือภาพยนตร์โป๊ หรือการใช้เซ็กซ์ทอย ทุกชนิด และมีคนไทยอีกถึงร้อยละ 46 ที่ไม่เคยใช้อุปกรณ์ใดๆ เลย
การดูหนังสือหรือภาพยนตร์โป๊กับคู่รักนับเป็นวิธีการเดียวที่แพร่หลายในประเทศไทย โดย คนไทยร้อยละ 55 ยอมรับว่าเคยลองวิธีดังกล่าว รองลงมา คือการตี (ร้อยละ 14) และการถ่ายภาพวิดีโอคู่รัก (ร้อยละ 10)
ส่วนใดในร่างกายที่เซ็กซี่ที่สุด
คนทั่วโลกต่างลงความเห็นว่าส่วนที่เซ็กซี่ที่สุดของร่างกาย คือ บั้นท้าย (ร้อยละ 15) ผู้ตอบแบบ
สอบถามส่วนใหญ่ไม่ได้มองว่าคนที่ร่ำรวยมีความเซ็กซี่ เช่นเดียวกับ อายุ สีผม ด้วยคะแนนเพียงร้อยละ 1 จากการโหวตของคนทั่วโลก
อย่างไรก็ดี ทัศนคติของชายและหญิงจากทั่วโลกมีความแตกต่างกัน โดยผู้ชายจะให้ความสำคัญกับหน้าอก ในขณะที่ผู้หญิงจะมองลึกไปกว่านั้น อย่างเช่น ดวงตา คือสิ่งที่พวกเธอมองว่าเซ็กซี่ที่สุด
สำหรับประเทศไทย ชายไทยให้ความเห็นว่าสิ่งที่เซ็กซี่ที่สุด คือ รูปร่างที่กระชับได้สัดส่วน (ร้อยละ 30), หน้าอก (ร้อยละ 24) และบั้นท้าย (ร้อยละ 10) สำหรับหญิงไทย บั้นท้ายไม่ได้รับโหวตให้อยู่อันดับต้นๆ แต่สิ่งที่ผู้หญิงให้ความสำคัญคือ หน้าอก (ร้อยละ 24), รูปร่างที่กระชับได้สัดส่วน
(ร้อยละ 18), ดวงตา (ร้อยละ 14) และรอยยิ้ม (ร้อยละ 8.5)
การเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา
คนไทยมากกว่าร้อยละ 5 ระบุว่า ตนไม่เคยได้รับการศึกษาด้านเพศสัมพันธ์มาก่อน ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มที่ได้รับการศึกษาเรื่องเพศช่วงอายุที่มากกว่าอายุเฉลี่ยทั่วโลก กล่าวคือ คนไทยเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาเมื่ออายุ 14.5 ปี ใกล้เคียงกับประเทศมาเลเซีย อายุ 14.6 ปี ตามมาด้วยประเทศอินเดีย (15 ปี) และประเทศเวียดนาม (15.4 ปี)
คนไทยมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 53) เชื่อว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญในการสอนเรื่องเพศศึกษาใน
โรงเรียน เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ส่วนคนทั่วโลกเห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวเพียงร้อยละ 31 ส่วนคนไทยอีกร้อยละ 20 ระบุว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับโครงการที่เกี่ยวกับเพศศึกษาต่างๆ (อาทิ สัปดาห์ถุงยางแห่งชาติ หรือ ซีดีรอมเกี่ยวกับเพศศึกษา) ในขณะที่คนไทยอีกร้อยละ 13 อยากให้ภาครัฐสนับสนุนการรณรงค์เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าว
คนจีนเกือบ 1 ใน 5 (ร้อยละ 18) ไม่ให้ความสำคัญหรือไม่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลในเรื่องเพศศึกษา
เอาใจคู่รักออกเดทสถานที่สุดโรแมนติก
คนไทยเมื่อต้องการเซอร์ไพรส์คนรักด้วยการพาไปท่องเที่ยวในสถานที่สุดโรแมนติก จะโหวตให้ เกาะมัลดีฟ (ร้อยละ 30) เป็นสุดยอดสถานที่โรแมนติก ตามด้วยนครปารีส (ร้อยละ 15) แต่หากงบประมาณมีจำกัดในการเดินทางไปต่างประเทศ คนไทยส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะเดินทางในประเทศ โดยเดินทางไปยังสถานที่สุดโรแมนติกอันดับสามได้แก่ กระบี่ (ร้อยละ 10)
และเมื่อถูกถามถึงภาพยนตร์สุดโรแมนติกที่คนไทยชื่นชอบ ภาพยนตร์เรื่อง Notting Hill ได้รับการโหวต (ร้อยละ 22) ตามด้วยภาพยนตร์เรื่อง Titanic เป็นอันดับสอง ซึ่งโหวตโดยคนไทยร้อยละ 20 ส่วนภาพยนตร์ฝีมือคนไทยเรื่องกุมภาพันธ์ ได้รับการโหวตเป็นอันดับสาม ด้วยคะแนน ร้อยละ 7.8
ดารา/นักร้องต่างประเทศที่เซ็กซี่ที่สุด
แองเจลิน่า โจลี่ ได้รับโหวตให้เป็นดาราสาวสุดเซ็กซี่จากทั่วโลกด้วยคะแนนร้อยละ 18 ตามด้วยสาวชาวละติน เจนนิเฟอร์ โลเปซ (ร้อยละ 13) ส่วนแคทเธอรีน ซีต้า โจนส์ และ บริทนีย์ สเปียร์ ตามมาร้อยละ 12 เท่ากัน
อย่างไรก็ดี สำหรับคนไทย บริทนีย์ สเปียร์ ยังคงเป็นดารา/นักร้องต่างประเทศหญิงที่เซ็กซี่ที่สุด ด้วยคะแนนร้อยละ 31 ส่วนหนุ่มเซ็กซี่ขวัญใจคนทั่วโลกได้แก่ ดาราหนุ่มจากภาพยนตร์เรื่อง Troy แบรด พิทท์ ด้วยคะแนนร้อยละ 21 โดยคนไทยเทคะแนนเสียงให้แบรด พิทท์ สูงถึงร้อยละ 34
ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
ผลการสำรวจดูเร็กซ์ โกลบัล เซ็กซ์ เซอร์เวย์ 2004
กรุณาติดต่อ
ปิยลัคน์, พรรวี หรือ นิดา
ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
โทรศัพท์ 0-2627-3501 ต่อ 106, 110 หรือ 108--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--
ซัมซุงปิดพารากอน ฮอลล์ เปิดตัว “กาแล็คซี่ เอส 3” สมาร์ทโฟนที่ทั่วโลกรอคอยขนทัพดาราประชันโฉม นำโดยซุปตาร์แถวหน้า “อั้ม พัชราภา” และ “ติ๊ก เจษฎาภรณ์”รับรองความยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีผู้นำมือถืออันดับหนึ่งของโลกแน่นอน ในที่สุดก็ถึงเวลาของคนไทยที่จะได้สัมผัสกับสุดยอดสมาร์ทโฟน รุ่นล่าสุดจากผู้นำมือถืออันดับหนึ่งของโลก “ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 3 (Samsung Galaxy S III)” สมาร์ทโฟน แห่งมวลมนุษยชาติที่คนทั่วโลกรอคอย ฮ็อตฮิตติดลมบนด้วยยอดจองกว่า 9 ล้านเครื่องทั่วโลกหลังเปิดตัว ไม่ถึง 1 เดือน พร้อมแล้วกับการ
อั้ม พัชราภา ควงคู่มากับ ติ๊ก เจษฎาภรณ์แทคทีมเพื่อนดาราหลายสิบชีวิต อาทิ กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ / เมย์ พิชญ์นาฏ / แป้ง อรจิรา / เนย โชติกา / ก้อย รัชวิน / กันต์ กันตถาวร / เจน เจนสุดา / ไอซ์ อภิษฎา / พีเค ปิยะวัฒน์ / มินท์ ณัฐวรา / เกรซ กาญจน์เกล้า / ครีม เปรมสินี / ...