ธสน. ลงนามเงินกู้พัฒนาเหมืองแร่ทองคำ จ. เลย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--ธสน.

นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) และนายปรีชา อรรถวิภัชน์ ประธานกรรมการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในสัญญาเงินกู้ 506 ล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการพัฒนาเหมืองแร่ทองคำที่จังหวัดเลยของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ณ โรงแรม เดอะ แกรนด์ กรุงเทพฯ ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2548 กรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวว่า สัญญาเงินกู้ครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ สินเชื่อเพื่อเตรียมการส่งออกมูลค่า 50 ล้านบาท เพื่อใช้หมุนเวียนเสริมสภาพคล่องของผู้ส่งออก และเงินกู้ระยะยาวเป็นสินเชื่อเพื่อขยายกำลังผลิตในสกุลดอลลาร์สหรัฐมูลค่ารวม 456 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อเครื่องจักร พัฒนาที่ดิน และก่อสร้างอาคารโรงงาน ประกอบด้วยโรงงานแต่งแร่ บ่อกักเก็บกากแร่ อ่างเก็บน้ำ พื้นที่เก็บกองมูลดินทราย พื้นที่บำบัดน้ำเสียและสำนักงานโครงการ ซึ่ง ธสน. ร่วมกับไทยธนาคารพร้อมจะให้การสนับสนุนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของโครงการพัฒนาเหมืองแร่ทองคำของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ซึ่งผลิตทองคำเพื่อส่งออก 100% โดยบริษัทจะส่งออกโลหะผสมที่มีปริมาณทองคำประมาณ 90% ซึ่งผลิตจากเหมืองในพื้นที่ภูทับฟ้า ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ไปผ่านกระบวนการทำทองให้บริสุทธิ์ที่ประเทศออสเตรเลีย ก่อนจะส่งไปขายในตลาดระหว่างประเทศ นายสถาพรกล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกก้าวที่สำคัญของ ธสน. ในการดำเนินบทบาทเชิงรุกเพื่อพัฒนาการส่งออกของไทยอย่างยั่งยืนบนรากฐานของการพัฒนาอุตสาหกรรม และนำมาซึ่งรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศของไทย โดยเฉพาะในกิจการเหมืองแร่ทองคำ ซึ่งต้องใช้เงินทุนสูงในการพัฒนาการผลิตให้ได้มาตรฐานส่งออกและสิ่งแวดล้อม ขณะที่ความต้องการของผู้ซื้อและราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันราคาทองคำอยู่ที่ 440 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และคาดว่าจะสูงถึงระดับ 470 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในปลายปีนี้ เกี่ยวกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เป็นสถาบันการเงินของรัฐที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536 ซึ่งกำหนดขอบเขตอำนาจให้ธนาคารสามารถทำธุรกิจทุกประเภทที่ธนาคารพาณิชย์ทำได้ ยกเว้นเพียงการรับฝากเงินจากประชาชนทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางการเงินเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยและนักลงทุนไทยในต่างประเทศ และสนับสนุนการได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศของไทยหรือประหยัดเงินตราต่างประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1142 - 6--จบ--

ข่าวธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย+ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าวันนี้

EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากพายุวิภา

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากพายุวิภา ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือของไทย ทั้งในส่วนของวงเงินกู้ระยะสั้นและวงเงินกู้ระยะยาว โดยเพิ่มวงเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นชั่วคราวสูงสุด 20% ของวงเงินเดิม เปลี่ยนแปลงภาระหนี้ระยะสั้นเป็นภาระหนี้ระยะยาว ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี หรือขยายระยะเวลาเงินกู้สูงสุด 7 ปี ลดภาระดอกเบี้ย

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการก... EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดน — นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่ง...

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไท... EXIM BANK จัดเต็ม โปรโมชันเพื่อผู้ส่งออก ในงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25 — ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) จัดเต็ม บริการทางก...

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไท... EXIM BANK จัดเต็ม โปรโมชันดี ๆ ช่วยผู้ส่งออกฝ่ามรสุมทรัมป์ 2.0 — ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) จัดเต็ม บริการทางการเงิน พร้อมโปรโ...