บีโอไอหนุนลงทุนชายแดนใต้รอบ 2 เพิ่มสิทธิประโยชน์จูงใจนักลงทุน

บอร์ดบีโอไอเพิ่มมาตรการส่งเสริมการลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผู้ประกอบการที่ตั้งอยู่ในนิคมหรือเขตอุตสาหกรรม รวมทั้งผู้ประกอบการนิคมและเขตอุตสาหกรรม จะได้รับการยกเว้นภาษีเพิ่มอีก 8 ปีโดยอัตโนมัติ หากมีการขยายโครงการลงทุนใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งจะทำให้ได้รับการยกเว้นภาษีถึง 16 ปีเมื่อนับรวมกับการยกเว้นภาษีของโครงการแรก นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้มีการลงทุนใน 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) เพิ่มมากขึ้น ที่ประชุมจึงเห็นควรให้เพิ่มสิทธิประโยชน์ แก่ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม หรือเขตอุตสาหกรรม รวมถึง โรงงานที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรรมหรือตั้งในเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับส่งเสริม ใน 3 จังหวัดดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ในครั้งนี้ มุ่งเน้นให้โครงการที่ลงทุนอยู่แล้วในปัจจุบันขยายกิจการเพิ่มเติม ซึ่งหากกิจการส่วนขยายได้รับการอนุมัติ จะทำให้โครงการเดิมได้รับสิทธิประโยชน์ ต่อเนื่องไปอีก 8 ปี เมื่อรวมกับสิทธิประโยชน์ของโครงการแรกก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ถึง 16 ปี ทั้งนี้ จะต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมภายในวันที่ 31ธันวาคม 2550 แต่หากผู้ลงทุนไม่ต้องการรวมส่วนขยายกับโครงการเดิมสามารถยื่นขอส่งเสริมเป็นโครงการใหม่ได้ สำหรับมาตรการช่วยเหลือเพื่อจูงใจนักลงทุนด้านอื่นๆ จะเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา กล่าวคือ กระทรวงการคลัง ในเรื่อง การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตกรมการประกันภัย ในเรื่อง การประกันชีวิตและทรัพย์สินของผู้ลงทุน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเรื่องการจัดหาแหล่งเงินลงทุน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในเรื่องการลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 20 ของอัตราปกติ และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการสนับสนุนระบบสาธารณูปโภคจากภายนอกเข้าสู่โครงการนิคมอุตสาหกรรมฮาลาล--จบ--

• ข่าวนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
• ข่าวพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
• ข่าวจังหวัดชายแดนภาคใต้
• ข่าวกระทรวงอุตสาหกรรม
• ข่าวรองนายกรัฐมนตรี