ดันลอป ยึด "อมตะซิตี้" ฐานผลิตยางรถยนต์ ชูแผนลงทุนยางไฮเทค-เดินเครื่องปี 2550

31 May 2005

กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--อมตะ คอร์ปอเรชัน

"อมตะ" อ้าแขนรับ บ.ซูมิโตโม แห่งญี่ปุ่น เซ็นสัญญาขายที่ดินแปลงใหญ่ ลงทุนผลิตยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกรดสูงภายใต้ชื่อ "ดันลอป" ปรับโฉมพื้นที่ 364 ไร่ นิคมอมตะซิตี้ จังหวัดระยองสู่ฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในโลกของดันลอป ตั้งเป้าผลิต 7 ล้านเส้นต่อปี ชิงแชร์ตลาดยางรถยนต์ในเอเชียอย่างต่ำ 10 เปอร์เซ็นต์ ภายใน ปี 2553 คาดเดินเครื่องผลิตราวต้นปี 2550 นี้

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และ ประธาน บริษัท อมตะ ซิตี้ จำกัด (Viboon Dromadit, Senior Vice President of Amata Corporation PCL.and President of Amata Cith Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า บริษัท ซูมิโตโม รับเบอร์ อินดันตรี้ (Sumitomo Rubber Industries,Ltd.) จากประเทศญี่ปุ่น ได้ลงนามสัญญาซื้อที่ดินขนาด 364ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกรดสูง ภายใต้ยี่ห้อ "ดันลอป" (Dunlop) โดยจะเป็นการขยายฐานการผลิตมาในประเทศไทย เป็นครั้งแรกและเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากฐานการผลิต 6 แห่งทั่วโลก โดยแบ่งเป็นในประเทศญี่ปุ่น 4 แห่ง ในอินโอนีเซียและจีนอีกประเทศละ 1 แห่ง เนื่องจากเล็งเห็นว่าไทยมีข้อได้เปรียบด้านวัตถุดิบยางคุณภาพสูง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ที่ดีในการนำระบบลอจิสติกส์มาใช้ ประกอบกับการที่ไทยกำลังจะก้าวสู่การเป็นดีทรอยซ์ ออฟ เอเชีย มั่นใจว่าจะทำให้ความต้องการสินค้าเพื่อป้อนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ซูมิโตโมฯ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือน สิงหาคม ปี 2548 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มการผลิตได้ราวเดือนมกราคม ปี 2550

"บริษัท ซูมิโตโมฯ วางแผนขยายฐานการผลิตในไทยครั้งนี้โดยเลือกลงทุนที่อมตะซิตี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นพื้นที่ศักยภาพ การลงทุนที่เป็นศูนย์กลางในภูมิภาคตะวันออก และใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง รวมทั้งความพร้อมทางด้านสาธารณูปโภคของนิคมฯ ที่สำคัญคือ บริษัทเชื่อมั่นว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงตลาดการค้าในแถบเอเชีย และภูมิภาคอื่นทั่วโลกได้ในอนาคตอันใกล้ สำหรับฐานการผลิต ในไทยแห่งนี้ ได้วางรูปแบบการผลิตโรงงานให้เป็นศูนย์ผลิตยางที่ใช้กระบวนการผลิตขึ้นสูงและระบบการผลิตแบบใหม่ที่เรียกว่า "ไทโย" (Taiyo) ซึ่งจะเริ่มที่โรงงานในไทยแห่งแรก โดยเป็นกระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง ในขนาดพื้นที่จำกัดและใช้คนงานน้อยลงแต่ผลผลิตยังอยู่ในระดับมาตรฐาน ทั้งนี้ได้วางเป้ากำลังการผลิตสูงสุดไว้ที่ราว 7 ล้านเส้นต่อปีภายในปี 2553 เพื่อรองรับเป้าหมายการขยายตัวของส่วนแบ่งการตลาดยางในภูมิภาคเอเชียอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์" มร.เรียวจิ ซาวาดะ ประธาน บริษัท ซูมิโตโม รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Mr.Ryochi Sawada, President of Sumitomo Rubber (Thailand) Co.,Ltd) กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์

มุก โทร.038-213-007, 01-734-3651--จบ--