ไทยเจ้าภาพงานการชิงแชมป์ผมนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทานควีนส์คัพ ครั้งที่ 7

12 May 2005

กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--ทูเดย์ คอมมูนิเคชั่นส์

สมาคมเสริมสวยร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงาน Bangkok Fashion City ระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2548 นี้ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล ระดมแฟชั่นจากนานาชาติ พร้อมการแข่งขันออกแบบทรงผมชิงถ้วยพระราชทานควีนส์คัพ จากนักออกแบบทรงผมทั้งในและต่างประเทศ เผยครั้งแรกของประเทศไทยเป็นเจ้าภาพแข่งขันศิลปะการเพ้นท์เล็บชิงแชมป์โลก

นายสุชาติ ขวัญฤกษ์ นายกสมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนจัดการแข่งขันชิงแชมป์ผมนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทานควีนส์คัพ ครั้งที่ 7 กล่าวถึงรายละเอียดการจัดงานครั้งนี้ว่า ในฐานะประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันชิงแชมป์นานาชาติ ทางสมาคมเสริมสวยจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานขึ้นตามนโยบาย Bangkok Fashion City ส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ และพัฒนาอาชีพเสริมสวยไทยสู่สากล

“การจัดงานครั้งนี้เรากำหนดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2548 ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล โดยในวันที่ 8 มิถุนายน จะจัดให้มีการสัมมนา Hair Asia Forum เพื่อระดมความคิดเห็นของช่างเสริมสวยนานาประเทศถึงแนวโน้มแฟชั่น และกระแสเศรษฐกิจในวันนี้ พร้อมทั้งจัดให้มีการแสดงแฟชั่นจากนานาชาติ อาทิ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ประเทศในเอเซีย ส่วนในวันที่ 9 มิถุนายน จะเป็นการแข่งขันชิงแชมป์ผมนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทานควีนส์คัพ ครั้งที่ 7 โดยมี 10 ประเทศการแข่งขัน และจบลงด้วยงานกาลาดินเนอร์ ฉลองประกาศผลการตัดสินว่าประเทศใดจะครองถ้วยพระราชทานควีนส์คัพสมัยนี้”

สำหรับการแข่งขันแบ่งออกเป็น 10 ประเภท ประกอบด้วย 1. ประเภทตัด-ซอยผม Commercial หญิง, ควีนส์คัพ มือใหม่ Junior Queen’s Cup หญิง 2. ประเภทตัด-ซอยผม Commercial ชาย, ควีนส์คัพ มือใหม่ Junior Queen’s Cup ชาย 3. ประเภทตัด-ซอยผม Creative หญิง 4. ประเภทตัด-ซอยผม Creative ชาย 5. ประเภทเกล้าผมยาวสำหรับผมยาวราตรี ไม่มีผมปลอม 6. ประเภทเพ้นท์เล็บ 7. ประเภทแต่งหน้าเจ้าสาว 8. ประเภททรงผมแฟนตาซี 9. ประเทศทรงผมฟรีสไตล์ ด้วย WAHL หญิง และ 10. ประเภททรงผมฟรีสไตล์ ด้วย WAHL ชาย

นายกสมาคมเสริมสวยฯ ยังกล่าวต่ออีกว่า เป็นข่าวดีสำหรับช่างทำเล็บของไทยที่จะมีโอกาสได้โชว์ความสามารถด้านศิลปะการเพ้นท์เล็บ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน

เพ้นท์เล็บ ที่ผ่านประเทศในแถบเอเซีย ไม่ว่าจะเป็น ศรีลังกา อินเดีย จีน และเกาหลี จะมีจุดเด่นเรื่องศิลปะการทำเล็บและเพ้นท์เป็นอย่างมาก และวันนี้เราพบว่าธุรกิจเพ้นท์เล็บของไทยก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ประกอบกับช่างทำเล็บของไทยได้รับการยกย่องจากชาวต่างชาติว่า ให้บริการทำเล็บดีที่สุด การแข่งขันนับเป็นข่าวดีสำหรับช่างเพ้นท์ที่จะแสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพของธุรกิจได้อีกด้วย

ส่วนรางวัลผู้ชนะการแข่งขันแต่ละประเภท จะได้รางวัลดังต่อไปนี้ ผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยเกียรติยศ พร้อมรางวัลเงินสด 500 US รองอันดับ 1 และ 2 ได้รับถ้วยเกียรติยศ รองอันดับ 3 และ 4 ได้รับเกียรติบัตร และผู้เข้าแข่งขัน 4 ประเภทการแข่งขันหรือมากกว่าถึงจะสามารถเข้าร่วมชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์พระบรมราชินีนารถ โดยการตัดสินเลือกผู้ชนะ จะคัดเลือกจากผู้ที่ได้รับคะแนนรวมสูงสุดจากการ แข่งขันแต่ละประเภท ตำแหน่งแกรนด์แชมป์เปี้ยน ได้รับถ้วยพระราชทาน สก. (ควีนส์คัพ) พร้อมรางวัลเงินสด 2,000 US

สำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ผมนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทานควีนส์คัพ ครั้งที่ 7 นี้ สามารถติดต่อขอทราบกฎ กติกาการแข่งขันแต่ละประเภท และรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่สมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ : 02-561-5317-8, 01-697-3694, 09-770-9312, 09-784-0346 โทรสาร : 02-561-5318 E-mail : [email protected]

SALON CLUSTER 2005

ธุรกิจเสริมสวยเป็นธุรกิจหนึ่งที่มีแนวโน้มของอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาวะปัจจุบัน ซึ่งมีการส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ นอกจากนี้ช่างแต่งผมไทยยังมีฝีมือเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก พิจารณาได้จากการแข่งขันชิงแชมป์ระดับชาติที่ได้รางวัลต่างๆ อยู่มากมาย

สมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทยได้ถูกจัดตั้งขึ้นมากว่า 40 ปี โดยมีหน้าที่หลักไม่เพียงแต่ส่งเสริมธุรกิจเสริมสวยให้ได้ระดับมาตรฐานสากลเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมช่างแต่งผมไทยเข้าสู่การแข่งขันในระดับโลกอีกด้วย เห็นได้จากหนึ่งกิจกรรมหลักซึ่งทางสมาคมฯ ได้จัดเป็นประจำ คือ งานชิงแชมป์ผมนานาชาติ (Queen’s Cup)

เพื่อส่งเสริมโครงการ “กรุงเทพเมืองแฟชั่น” และ “หนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล” ตลอดจนโครงการ “ส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่” สมาคมฯ เล็งเห็นว่าควรใช้ประโยชน์จากงานชิงแชมป์ผมนานาชาติ (Queen’s Cup) เพื่อส่งเสริมธุรกิจเสริมสวยสู่สากลและสู่เวทีแฟชั่นระดับโลก โดยการจัดงานสัมมนา แข่งขัน และแสดง สินค้านานาชาติ ภายใต้ชื่องาน Queen’s Cup Grand Champion Hair World Festival Salon Cluster 2005

ประวัติความเป็นมา

กว่าจะมาถึงวันนี้ 41 ปีของสมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทย

สมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทยได้ก่อตั้งขึ้น โดยมีผู้คิดริเริ่ม คือ คุณภัทรา เมนะคงคา คุณบุญสืบ ชนารัตน์ คุณสุชาดา อรรถวิจิตรจรรยารักษ์ คุณอรุณี ทังสุบัตร คุณณัติ นิยมวานิช คุณวารินทร์ เหล่าประยูร คุณชวลิตร ไชยเศรษฐ คุณธีระ พิทักษ์กุล คุณจรัสศรี ณ ป้อมเพชร คุณสมหวัง ศรีชัย และคุณเพ็ญจันทร์ ฉ่ำเฉลิม

ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่า ในระหว่างผู้ประกอบอาชีพช่างเสริมสวยและนักธุรกิจผู้เกี่ยวข้องอยู่ในวงการเสริมสวยควรจะได้มีการพบปะกันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นและประสบการณ์ เพื่อส่งเสริมและกระชับความสามัคคี รวมถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน

จึงได้มีการประชุมก่อตั้งครั้งแรกขึ้น ณ ห้องปริ้นเซสรูม โรงแรมเอราวัณ เมื่อวันพุธที่ 8 สิงหาคม 2507 จึงกล่าวได้ว่าสมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทย ได้ถือกำเนิดอย่างไม่เป็นทางการ ณ วาระนั้นเป็นต้นมา และได้จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเป็นสมาคม เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2507 มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า The Beauty Culture Association of Thailand ในบรรดาช่างเสริมสวยและนักธุรกิจผู้อยู่ในวงการเสริมสวยร่วมใจปฏิบัติงานเพื่อส่วนรวมและสาธารณประโยชน์

วัตถุประสงค์

1. เพื่อส่งเสริมมิตรภาพความสัมพันธ์อันดีและความเข้าใจซึ่งกันและกันในบรรดาผู้ใช้วิชาชีพเสริมสวยและนักธุรกิจผู้อยู่ในวงการเสริมสวยของประเทศไทยและนานาประเทศ

2. เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นประสบการณ์และร่วมกันพัฒนาส่งเสริมวิชาชีพเสริมสวยทุกแขนงให้ก้าวหน้าทันสมัยได้มาตรฐานสากลนิยม และช่วยเหลือซึ่งกันและกันในบรรดาช่างเสริมสวยและนักธุรกิจผู้อยู่ในวงการเสริมสวย

3. เพื่อเชิดชูเกียรติและสถานภาพของช่างเสริมสวยและนักธุรกิจผู้อยู่ในวงการเสริมสวยให้อยู่ในระดับอันเหมาะสมด้วยศีลธรรมอันดีงาม เพื่อให้ช่างเสริมสวยและนักธุรกิจผู้อยู่ในวงการเสริมสวยได้ตระหนักในหน้าที่ของตนอันพึงมีต่อประเทศชาติ และต่อสถานการณ์โลก โดยร่วมใจกันปฏิบัติงานเพื่อส่วนรวมและสาธารณประโยชน์

ยุทธศาสตร์ของสมาคมฯ

  • วิสัยทัศน์ สมาคมเสริมสวยเป็นองค์กรหนึ่งในการจัดการส่งเสริมการศึกษาเกี่ยวกับอาชีพให้กับบุคคลโดยทั่วไปที่สนใจในวิชาชีพเสริมสวย และสามารถพัฒนาตนเอง พัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาสังคมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
  • พันธ์กิจ สร้างเสริมโอกาสในการศึกษาด้านวิชาชีพเสริมสวยและทักษะ ให้กับผู้ที่สนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • เป้าหมาย บุคคล/สถานประกอบการเสริมสวยจะได้รับการพัฒนาด้านวิชาชีพเสริมสวย ทั้งด้านความรู้สามัญ ด้านทักษะวิชาชีพได้อย่างต่อเนื่อง

นโยบายประจำปี 2545-2548

นายสุชาติ ขวัญฤกษ์

นายกสมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทย

1. นโยบายการจัดตั้งองค์กร

1.1 จดทะเบียนสมาคมที่ถูกต้อง

1.2 นายกและคณะกรรมการบริหารจัดทำใบอนุญาตและบัตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงการ

1.3 จัดหาที่ตั้งสมาคมอย่างถาวร

1.4 เจ้าหน้าที่ประจำสมาคมฯ

2. นโยบายทางด้านการบริหาร

2.1 โครงสร้างสมาคมฯ

2.2 อำนาจ-หน้าที่ของนายกและคณะกรรมการ

3. นโยบายด้านการเงิน

3.1 แต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี

3.2 การเงินแยกเป็น 2 บัญชี

  • บัญชีบริหาร
  • บัญชีกิจกรรม

4. นโยบายด้านสมาชิก

4.1 การจัดทำทะเบียนสมาชิก

4.2 รวบรวมและปรับปรุงสมาชิกเก่า

4.3 การหาสมาชิกใหม่ในส่วนกลาง (กรุงเทพฯ)

4.4 การแต่งตั้งประธาน 4 ภาค และการหาสมาชิกใหม่ต่างจังหวัด

5. นโยบายด้านวิชาการ

5.1 การจัดสัมมนาให้ความรู้

5.2 การทำวารสารแจกสมาชิก

6. นโยบายด้านกิจกรรมภายในประเทศ

6.1 การจัดแฟชั่นผม

6.2 การจัดแข่งขัน

6.3 การจัดงานออกร้าน

7. นโยบายด้านต่างประเทศ

7.1 ส่งเสริมให้ช่างเสริมสวยไปแข่งขันกับต่างประเทศ

7.2 ส่งเสริมให้มีการนำช่างเสริมสวยไปจัดโชว์ในต่างประเทศ

7.3 ส่งเสริมให้ต่างประเทศเข้ามาจัดแข่งขันในประเทศไทย

8. นโยบายด้านการประชาสัมพันธ์

8.1 จัดแถลงข่าวเปิดตัวนายกและคณะกรรมการชุดใหม่อย่างเป็นทางการ

8.2 นายกนำทีมคณะกรรมการบริหารไปแนะนำและขอบคุณสปอนเซอร์ต่างๆ

8.3 นายกนำทีมคณะกรรมการบริหารไปแนะนำและขอบคุณสื่อต่างๆ

8.4 ส่งข่าวไปยังสื่อต่างๆ เป็นระยะๆ ถึงความก้าวหน้า และการจัดกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมฯ ทางส่วนกลาง และ 4 ภาค

9. นโยบายด้านช่วยเหลือสังคม

9.1 มีการจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งจากการจัดกิจกรรมทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นจากส่วนกลาง หรือจาก 4 ภาค

9.2 บริจาคสมทบทุนมูลนิธิต่างๆ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

คุณพนิดา อังกุระ

บริษัท ทูเดย์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด

โทรศัพท์: 02-309-6183, 09-522-8537 และ 09-446-9434

E-mail: [email protected]

สามารถคลิกดูภาพข่าวได้ที่ www.thaipr.net--จบ--